อยากให้ลูกฉลาด อย่าสปอยล์ลูก! อย่าตามใจ! สอนให้เขารู้จักเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ด้วยการช่วยเหลือตัวเอง
คุณพ่อคุณแม่ทราบหรือไม่คะว่า วิธีการที่จะช่วยทำให้ลูกของเราเป็นเด็กฉลาดนั้น แท้จริงแล้วทำได้ไม่ยากเลยละค่ะ การฝึกทักษะทางด้านภาษา ความรู้และวิชาการ คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้ลูกมีความรู้ แต่หากว่าลูกเรียนรู้แล้วแต่ไม่สามารถนำมาใช้ในชีวิตจริงได้ แล้วประโยชน์หรือสิ่งที่พวกเราทุกคนต้องการนั้น จะเกิดและสำเร็จลุล่วงไปได้อย่างไร
วันนี้ทีมงาน Amarin Baby and Kids จะขอนำเสนอถึงวิธีการทำให้ลูกเป็นเด็กฉลาดด้วยนั้นนอกจากวิชาความรู้แล้ว ยังมีอีกหนึ่งหลักการง่าย ๆ หลักการเดียวที่คุณพ่อคุณแม่ทำได้ง่าย ๆ และไม่เสียเงิน
จะเป็นหลักการอะไรนั้น คลิกหาคำตอบได้ที่หน้าถัดไปค่ะ
อยากให้ลูกฉลาด พ่อแม่ต้องทำสิ่งนี้!
จะเห็นได้ว่า คุณพ่อคุณแม่สมัยนี้กลัวลูกลำบาก มักที่จะทำทุกอย่างให้กับลูกโดยที่ลูกไม่ต้องทำอะไรเลย ถึงเวลาได้กินก็กิน ถึงเวลาได้นอนก็นอน ถึงเวลาเล่นก็เล่น เรียกได้ว่าแค่เอ่ยปากเถอะ คุณพ่อคุณแม่ก็ทำให้หมดแล้ว และแบบนี้ลูกของเราจะไปเรียนรู้กันได้อย่างไรจริงไหม? ในเมื่อคุณพ่อคุณแม่ไม่เคยปล่อยให้พวกเขาทำเอง พอโตขึ้นลูก ๆ ก็จะใช้ชีวิตลำบาก เพราะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
ทราบกันหรือไม่คะว่า สิ่งสำคัญนอกจากความรู้และทักษะด้านต่าง ๆ ที่ลูกได้เรียนรู้มาจากในชั้นเรียนนั้น ว่าแต่ยังมีอะไรอีกที่จะเป็นตัวส่งเสริมให้ลูกกลายเป็นเด็กฉลาดได้
คำตอบก็คือ “ให้เด็กรู้จักช่วยเหลือตัวเอง” นั่นเองค่ะ จริงอยู่ที่ลูก ๆ อาจจะยังทำได้ไม่ดีตามที่คุณพ่อคุณแม่ต้องการ ยกตัวอย่างเช่นในเด็กเล็ก ที่เมื่อถึงเวลาคุณพ่อคุณแม่จะต้องปล่อยให้ลูกได้เรียนรู้และรู้จักรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำเองเอง บางครอบครัวกลัวว่าลูกจะเลอะเทอะ หรือทำบ้านสกปรกก็เลือกที่จะป้อนข้าวป้อนน้ำลูกเอง
แต่หากรู้ไม่ว่า การกระทำดังกล่าวนั้น ถือเป็นการปิดพัฒนาการด้านการเรียนรู้ของลูกโดยสิ้นเชิง จริงอยู่ที่หากเราปล่อยให้ลูกทานเองลูกก็จะทำเลอะเทอะ แต่การเลอะเทอะนั้นนั่นเองที่จะเป็นตัวบ่งชี้และสอนให้ลูกรู้จักถึงวิธีที่จะทำอย่างไรไม่ให้หก อีกทั้งลูก ๆ จะได้สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เมื่อเริ่มเข้าโรงเรียนและสามารถอยู่รอดได้ในสังคม
หากคุณพ่อคุณแม่กลัวว่าลูกจะทำสกปรกเลอะเทอะ ให้นำกระดาษหนังสือพิมพ์หรือกระดาษมารองไว้ที่พื้น เพียงเท่านี้เราก็สามารถทำความสะอาดเช็ดถูได้ไม่ยากแล้วละค่ะ
คลิกดู 5 วิธีเพิ่มเติม ที่จะมาช่วยทำให้ลูกฉลาด
เครดิต: Kaewsaiidea
5 วิธีทำให้ลูกฉลาด
- ปล่อยให้ความรักลอยไปทั่วบ้าน การสร้างบรรยากาศของบ้านให้น่าอยู่ คนในบ้านต่างพากันยิ้มแย้มแจ่มใส พูดคุยกันด้วยความรักและความเข้าใจ รู้จักให้อภัยและมีน้ำใจต่อกัน จะเป็นพื้นฐานให้ลูกเรียนรู้และอยู่ด้วยความรู้สึกอบอุ่น มั่นคงในจิตใจ เมื่อลูกเห็นคุณพ่อคุณแม่แสดงความรักให้กับลูกทุกครั้งที่มีโอกาส ลูกก็จะเลียนแบบและแสดงความรักนั้นตอบ และก็จะรู้จักพร้อมที่จะเปิดใจยอมรับกับสิ่งใหม่ ๆ เช่นกัน
- สร้างประชาธิปไตย การอยู่ร่วมกัน การเคารพในสิทธิของกันและกัน การรับฟังความคิดเห็น คือ การมีประชาธิปไตยภายในบ้าน ซึ่งเราสามารถฝึกลูกด้วยการเตรียมกิจกรรมต่าง ๆ ให้ลูกได้เล่นตามวัย ในแต่ละกิจกรรมต้องให้ลูกเข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจ ฝึกให้ลูกรู้จักคิด รู้จักสิทธิ และความสามารถของตัวเอง แต่ก็ต้องอยู่ในกฎเกณฑ์และข้อตกลงร่วมกัน เป็นต้น
- คำชมสร้างกำลังใจ วิธี การหนึ่งที่ช่วยให้ลูกฉลาดได้คือ การสนับสนุนในด้านกำลังใจ ชมเชยลูกในช่วงที่เหมาะสม ควรชมแต่พอเหมาะ ให้ลูกรู้สึกว่าคำชมนั้นมีคุณค่า ชมเมื่อลูกทำสิ่งที่ถูกต้อง เมื่อลูกได้รับคำชม ก็จะเกิดกำลังใจในการทำสิ่งนั้นต่อไป
- คำว่า “ไม่รัก” ไม่มีอยู่ในบ้าน อย่าพยายามขู่เด็ก ๆ ด้วยการพูดว่า “ถ้าไม่นอน เดี๋ยวตุ๊กแกมากินตับ” “ดื้อเหรอ เดี๋ยวยักษ์มาจับตัวนะ” “ทำแบบนี้เดี๋ยว คุณแม่/คุณพ่อ ไม่รักนะ” หรือบางครั้ง อาจจะหยอกล้อ เช่น “ไม่รักลูกแล้ว ไปรักคนอื่นดีกว่า” การพูดยั่ว ขู่ หรือลงโทษ โดยใช้คำว่า “ไม่รัก” เพราะคิดว่าเป็นการลงโทษให้ลูกรู้สึกกลัว และไม่กล้าทำอีก หรือจะเป็นการล้อเล่นสนุก ๆ ก็แล้วแต่ เท่ากับเป็นการตัดกำลังใจ และตัดโอกาสในการเรียนรู้ของเด็ก เมื่อเขารู้สึกว่าผู้ใหญ่ไม่รัก ก็อาจจะมีพฤติกรรมที่แปรปรวน ยิ่งถ้าผู้ใหญ่ในบ้านเจ้าอารมณ์ เด็กก็จะมีนิสัยเจ้าอารมณ์ตามมาเช่นกัน
- คำห้าม มีให้น้อยที่สุด เด็กวัย 2-6 ปี เป็นช่วงหนึ่งที่พ่อแม่เหนื่อยหน่อยกับพละกำลัง ความอยากรู้อยากเห็นอันมหาศาลของลูก แล้วยังเป็นวัยที่ช่างจินตนาการอีกด้วย สิ่งไหนที่อยากรู้ เด็กก็มักจะอยากลองทำ อยากรู้ผลที่ตามคืออะไร ถ้าพ่อแม่ไม่เข้าใจจุดนี้ ก็อาจจะห้ามลูกในการทำสิ่งต่าง ๆ เพราะกลัวว่าอาจจะเกิดอันตรายกับลูก
นอกเหนือจากนี้ ก็ได้มีนักวิชาการกล่าวว่า เด็กสามารถพัฒนาการเรียนรู้ของตนเองได้ โดยการมีประสบการณ์ใหม่ ๆ มีการเก็บข้อมูล จนมีความเข้าใจ เกิดความชำนาญ และเชื่อมโยงนำมาใช้ได้ ฉะนั้น การห้ามลูกทำนู่นทำนี่ทุกเรื่องก็เท่ากับเป็นการตัดโอกาสการเรียนรู้ที่ดี ที่สุดของลูก นอกจากนี้แล้ว การให้เด็กได้ทำอะไรด้วยตัวเอง เป็นการส่งเสริมให้เขารู้จักพึ่งพาตัวเองให้มากที่สุด เด็กที่ช่วยเหลือตัวเองในเรื่องต่าง ๆ ได้เร็ว ก็จะมีความสนใจในเรื่องต่อไปมากขึ้นเช่นกัน คำพูดของพ่อแม่จึงมีผลต่อการพัฒนาสติปัญญาของลูกได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยละค่ะ
เครดิต: Kapook
อ่านต่อเรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่