AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

อ่านหนังสือให้ลูกฟังทุกคืน ดีอย่างไร? และทำได้อย่างไร?

อ่านหนังสือให้ลูกฟังทุกคืน และเล่นดินเล่นทรายกับลูกบ่อยๆ สองอย่างนี้เป็นยาวิเศษหรือผงมหัศจรรย์สำหรับการเตรียมความพร้อมที่ดี ง่าย ประหยัด และได้ผล เตรียมความพร้อมอะไร คำตอบคือเตรียมจิตใจที่มั่นคง เซลล์สมองที่ดี และกล้ามเนื้อเล็กนิ้วมือทั้งสิบนิ้วอย่างเสรีและแข็งแรงมากที่สุด เพื่อส่งต่อเขาให้แก่โรงเรียนในภายหน้า

 

อ่านหนังสือให้ลูกฟังทุกคืน ทำให้เกิดอะไรบ้าง และจะเป็นไปได้อย่างไร

1.การอ่านหนังสือให้ลูกฟังก่อนนอนทุกคืนสามารถทำได้ตั้งแต่แรกเกิด อย่างไรก็ตามหลังกลับจากโรงพยาบาลทั้งคุณแม่และคุณพ่อต้องปรับตัวมากมายเหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว ก็มิได้แปลว่าต้องอ่านตั้งแต่วันแรกจริงๆ พร้อมเมื่อไรก็เริ่มเมื่อนั้น

2.ประโยชน์ข้อแรกคือการอ่านหนังสือให้ลูกฟังก่อนนอนทุกคืนจะดึงเวลาพ่อแม่ลูก รวมทั้งพี่ตัวเล็กของน้องที่เกิดใหม่ ให้ใช้เวลาร่วมกันอย่างสงบ อย่างน้อยก็วันละครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมง นี่คือช่วงเวลาที่ทุกคนจะมีความสุขมากที่สุดช่วงหนึ่งของชีวิต ใครพลาดไปจะน่าเสียดาย (กรุณาปิดมือถือเสียด้วย)

3.ลูกเห็นและได้ยินเสียงพ่อแม่ทุกคืน จะทำให้พ่อแม่กลายเป็นวัตถุที่มีจริงและมั่นคง เรียกว่า object constancy กระบวนการนี้เริ่มจากแรกเกิดไปจนเสร็จสมบูรณ์เมื่อลูกอายุ 3 ปี

4.ลูกเห็นและได้ยินเสียงพ่อแม่ทุกคืน จะทำให้เกิดความผูกพันและสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น เรียกว่า attachment กระบวนการนี้เริ่มจากแรกเกิดไปจนกระทั่งเสร็จสมบูรณ์เมื่อลูกอายุ 3 ปี จากนั้นสายสัมพันธ์นี้จะอยู่เหนือสถานที่และกาลเวลา จะเป็นเครื่องมือสำคัญของมนุษย์ในการเหนี่ยวรั้งให้ไม่ออกนอกลู่นอกทางในอนาคต

5.ลูกเห็นและได้ยินเสียงพ่อแม่ทุกคืน จะทำให้เกิดการสร้างตัวตนของลูกเองที่แข็งแรง มั่นคง ชัดเจน รู้ว่าตนเองเป็นใคร มาจากไหน จะไปไหน ทำให้เด็กๆ มีตัวตนให้รัก ให้ห่วง ให้ดูแล เรียกว่า self เมื่อเติบใหญ่จะทำอะไร นอกจากจะเหลียวหลังดูพ่อแม่ซึ่งเด่นชัดในใจตนเอง ยังรักตัวเองมากพอที่จะถนอมไว้ให้ดี กระบวนการนี้เริ่มจากแรกเกิดไปจนถึงสองขวบครึ่งก่อนที่จะเริ่มกระบวนการแยกตัวเป็นบุคคลอิสระเมื่ออายุ 3 ปี

 

อ่านเรื่อง “อ่านหนังสือให้ลูกฟังทุกคืนดีอย่างไร และทำได้อย่างไร” คลิกหน้า 2

6.ระหว่างการอ่านและเปิดหน้าหนังสือให้ดู ลูกจะเห็นเส้นสาย เส้นสายเหล่านั้นในวันแรกๆ ไร้ความหมาย เมื่อเวลาผ่านไป สมองเด็กจะให้ความหมายแก่เส้นสายนั้น ตามด้วยการถอดความหมายเส้นสายนั้น เรียกว่า symbolization นี่คือกระบวนการที่เด็กๆ จะต้องใช้ในการอ่านหนังสือด้วยตนเอง คณิตศาสตร์ และการประยุกต์เรื่องราวต่างๆ ในอนาคต

7. ระหว่างการอ่านและเปิดหน้าหนังสือให้เด็กดู พ่อแม่จะอ่านผิดๆ เพี้ยนๆ บ้าง อาจจะเพราะอยากแกล้งลูก อาจจะเพราะเบื่อแล้วอยากพลิกแพลง อาจจะเพราะเหนื่อยจากที่ทำงานอ่านไม่ค่อยเป็นภาษา ท่านจะพบว่าลูกๆ จะไม่ยอม จะประท้วง จะโมโห เกิดปฏิสัมพันธ์นานาประการในห้องนอนอย่างหลากหลาย เช่นกันใครพลาดช่วงเวลาเหล่านี้ไปจะน่าเสียดาย

8.การอ่านหนังสือก่อนนอนควรทำให้ได้มากที่สุดในแต่ละปีที่ผ่านไป ไม่ถึงกับเอาเป็นเอาตายปีละ 365 วัน แต่ปีละ 300 วันนั้นควรทำได้ จะไม่ว่างอย่างไรก็ควรหาเวลามาให้ได้ เขาจะเอาเราอย่างมากไม่เกิน 10 ปี คือเวลาที่เขาจะปีกกล้าขาแข็งบินจากไป แต่จะจากไปด้วยภาพของพ่อแม่ที่ชัดเจนในใจ ด้วยสายสัมพันธ์ที่แข็งแรง และด้วยตัวตนที่แข็งแกร่ง

 

9.เด็กแต่ละคนซนไม่เท่ากัน เด็กบางคนไล่ขยำหนังสือ เด็กบางคนคลานหรือเตาะแตะไปเรื่อยๆไม่นอนฟังดีๆ คุณพ่อคุณแม่อย่ายอมแพ้ง่ายๆ จัดบริเวณที่นอนให้ดี กั้นคอกมิให้เขาไปได้ไกลนัก เตรียมหนังสือสำรองหากเขาเอาเล่มหนึ่งไปขยำเล่น หรี่ไฟชวนนอนแต่สว่างพอจะอ่านได้ แล้วอ่านไปทุกคืน จะกี่วันกี่เดือนก็อ่านไป เด็กจะซนเพียงไรวันหนึ่งก็จะหยุดฟัง เหลียวมาฟัง นั่งฟังและนอนฟัง

10.หนังสือนิทานประกอบภาพจากต่างประเทศราคาสูง แต่ส่วนใหญ่มีคุณภาพดีถึงดีเลิศ ควรมีไว้ 5-10 เล่ม เล่มละ 100-300 เอาไปใช้ฟุ่มเฟือยอย่างอื่นได้มากมายให้นำกลับมาซื้อให้ลูก อย่ากังวลว่าตัวหนังสือน้อย ตัวหนังสือน้อยแต่คล้องจองและกินใจจะพัฒนาสมองไปอีกระดับ รับรองว่าบางเล่มเขาจะขออ่านซ้ำๆ จนจำได้ ก็อ่านไปตามใจเขา ประเด็นไม่ได้อยู่ที่อ่านแล้วฉลาด ประเด็นอยู่ที่อ่านแล้วจิตใจและสมองเกิดการพัฒนาดังที่บรรยายมา จากนั้นเตรียมทุนอีกก้อนคอยซื้อหนังสือนิทานประกอบภาพที่ราคาย่อมเยาลงมาแบบยกชุด 20-50 เล่มในงานลดราคาหนังสือสักงาน นี่คือทุนที่ควรจะลง ไม่มีก็ไปหามาให้ได้

เราเสียเงินและเวลาไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่องได้มากมาย ขอเวลาวันละครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมงเล่นกับลูกอย่างเต็มที่ เสียเวลาอีกคืนละครึ่งชั่วโมงก่อนนอนอ่านหนังสือให้ลูกฟัง กำไรที่ได้ในอนาคตคุ้มเกินคุ้ม เตรียมความพร้อมดีๆ คุณพ่อคุณแม่จะสบายเมื่อเขาเข้าวัยรุ่น พายุฮอร์โมนอย่างไรก็จะพัดกระหน่ำ แต่เขาจะรอดได้ผ่านไป แล้วกลายเป็นผู้ใหญ่ (adult) ที่มีคุณภาพของครอบครัว และของสังคม

อ่านต่อ บทความน่าสนใจอื่นๆ คลิก

ชวนลูกอ่านหนังสือ พัฒนาสมอง ด้วยเคล็ดลับ 7 ข้อ

อยากให้ลูกฉลาด ต้องอ่านหนังสือให้ลูกฟัง


ที่มาจาก :  นพ. ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ @prasertpp

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids