เลี้ยงลูกให้กตัญญู ได้ถ้าพ่อแม่ปล่อยให้ ปู่ย่าตายายเลี้ยงและมีเวลาอยู่กับหลานบ้าง!
คุณพ่อคุณแม่คะ ต้องถามก่อนว่า ทุกวันนี้ เราปล่อยให้ลูกของเราได้มีโอกาสอยู่ใกล้ชิดปู่ย่าตายายมากแค่ไหน จริงอยู่ที่เราอาจจะมีพี่เลี้ยง และพ่อแม่ของเราก็อาจจะแก่แล้ว แต่การพาลูกหลานไปเจอและไปอยู่ใกล้ชิดกับพวกท่าน จริง ๆ แล้วมีข้อดีมากกว่าข้อเสียนะคะ ไม่ว่าจะเป็นกับตัวของผู้สูงอายุ หรือแม้แต่เด็กเอง สาเหตุจะเป็นเพราะอะไรนั้น วันนี้ทีมงาน Amarin Baby and Kids ได้เตรียมคำตอบมาฝากคุณพ่อคุณแม่ทุกคนแล้วละค่ะ
เมื่อเด็ก ๆ ได้ใช้เวลาอยู่กับปู่ย่าตายายของตัวเอง พวกเขาจะเกิดความรู้สึกผูกพัน ซึ่งประโยชน์ที่จะได้รับตามมานั้นก็คือ การที่ลูกมีจิตใจอ่อนโยน และรู้จักเอาใจใส่ผู้สูงวัย นอกจากนี้ยังอาจจะได้ข้อคิดหรือแง่คิดดี ๆ กับการใช้ชีวิตประจำวัน อีกทั้งยังเป็นการป้องกันให้เด็กเลือกปฏิบัติกับผู้อื่นได้อีกด้วย
อ่านต่อเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่หน้า 2 >>
ได้มีผลการศึกษาใหม่ที่ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการเกี่ยวกับพัฒนาการของเด็กอย่าง “Child Development” พบว่า “เด็กที่ใช้เวลาอยู่กับปู่ย่าตายายอย่างอบอุ่น ซึ่งไม่ใช่แค่เป็นกิจกรรม ที่ทำในวันคริสต์มาสเท่านั้น… เมื่อโตขึ้นพวกเขาจะไม่เลือกปฏิบัติกับผู้สูงอายุ หรือจะคอยดูแลผู้สูงวัย ตลอดจนคนทุกวัยอย่างเท่าเทียมกัน”
โดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Liege ประจำประเทศเบลเยียม ได้สอบถามความคิดเห็นเด็กจำนวน 1,151 คนในเขตการปกครองที่พูดภาษาฝรั่งเศส ซึ่งอาศัยอยู่ในเบลเยียม ที่มีอายุระหว่าง 7-16 ปี โดยถามเด็กว่าคิดอย่างไรกับผู้สูงอายุ กระทั่งความรู้สึกเรื่องของความแก่ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในทุกคน นอกจากนี้ยังถามเด็กว่าตอนนี้สุขภาพของปู่ย่าตายายของพวกเขาเป็นอย่างไร รวมถึงใช้เวลาร่วมกับผู้สูงวัยบ่อยแค่ไหน ผลปรากฏว่า
“เด็กอายุ 10 และ 12 ปี เป็นช่วงวัยที่มีทัศนคติที่ดีกับปู่ย่าตายาย ซึ่งเด็กวัยนี้จะใช้เวลากับปู่ย่าตายายสัปดาห์ละ 1 ครั้ง จึงทำให้พวกเขามีมุมมองที่ดีกับผู้สูงวัย สำหรับเด็กที่มักไปมาหาสู่กับปู่ย่าตายายก็มักจะมีมุมมองที่ดีกับคนสูงวัย หรือมอบความรู้สึกที่ดีให้กับผู้ใหญ่ แต่น่าเสียดายที่เด็กซึ่งมีคุณปู่คุณย่าสุขภาพไม่ดี ก็มักจะมีมองเชิงลบกับผู้สูงอายุไปโดยปริยาย”
ด้าน “เอลลิสัน ฟลาชั่น” นักศึกษาปริญญาเอกด้านจิตวิทยา จากมหาวิทยาลัย “University of Liege” กล่าวว่า “การที่เด็กไม่ค่อยได้พบปะใกล้ชิดกับปู่ย่าตายายจะทำให้พวกเขาเป็นผู้ที่เลือกปฏิบัติ เนื่องจากไม่ค่อยได้ไปมาหาสู่ผู้สูงอายุมักจะมีทัศนคติต่อปู่ย่าตายายในเชิงลบ” ดังนั้นการไปพาเด็กไปหาผู้สูงอายุบ่อยจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างลูกหลานกับผู้ใหญ่ดีขึ้น ที่สำคัญยิ่งพาไปบ่อยเท่าไรก็ยิ่งดีเท่านั้นนั่นเอง
ในขณะที่ศาสตราจารย์ “สเตฟานี อดัม” นักจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัย “University of Liege” กล่าวสรุปว่า “ผลการวิจัยเรื่องความผูกพันระหว่างปู่ย่าตาทวดกับลูกหลาน สะท้อนให้เห็นถึงการหันมาตระหนักถึงการป้องกันโรคเลือกปฏิบัติในเด็กเล็ก ซึ่งคนกลุ่มนี้จะต้องเติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ เพราะหากเด็กเป็นโรคนี้จะทำให้ครอบครัวไม่อบอุ่น เพราะผู้สูงอายุถือเป็นวัยที่ลูกหลานควรให้ความเอาใจใส่”
อ่านต่อเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่หน้า 3 >>
นอกจากนี้คุณพ่อคุณแม่คะ การปล่อยให้ลูก ๆ ของเราได้ใช้เวลาอยู่กับปู่ย่าตายายของพวกเขาเองนั้น จะช่วยให้ลูกหลานของเรามีมุมมองชีวิตที่ดีขึ้น อ่อนโยน และรู้จักเอาใจใส่มากขึ้น จริงอยู่ค่ะที่ในชีวิตจริง อาจจะไม่ได้สวยงามและราบรื่นอย่างที่เราคิด แต่อย่าลืมนะคะว่า การให้ลูกได้ใกล้ชิดกับคุณพ่อคุณแม่ของเรานั้น ส่งผลดีทั้งต่อตัวของผู้สูงวัย ลูก และตัวเราเอง ยกตัวอย่างเช่น
- ปู่ย่าตายายไม่เหงา อย่าลืมนะคะว่า พวกท่านแก่แล้ว ร่างกายอาจจะไม่ได้เอื้ออำนวยให้ไปพบปะเพื่อนฝูงมากนัก เวลาที่ท่านอยู่คนเดียว ท่านก็อาจะรู้สึกเหงา เสียใจ และซึมเศร้าได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากต้องอยู่คนเดียวลำพังทุกวัน การปล่อยให้ลูกของเราได้ไปใช้เวลาอยู่กับท่านบ้างนั้น ก็เท่ากับเป็นการช่วยบรรเทาอาการดังกล่าวให้ดีขึ้น
- ให้ลูกรู้จักวิธีเข้าหาผู้ใหญ่ ด้วยวัยที่ห่างกันมาก อาจจะทำให้ช่วงแรก ๆ ลูกทำตัวไม่ค่อยถูก แต่พอได้ใช้เวลาอยู่กับปู่ย่าตายายของตัวเองมากขึ้น ลูกจะสามารถรู้และเข้าใจถึงวิธีการวางตัว การพูดจา และการดูแลผู้สูงอายุได้มากขึ้น ไม่เชื่อลองสังเกตดูสิคะ
- ลูกจะมีมุมมองความคิดที่เป็นผู้ใหญ่ขึ้น เนื่องจาก คำสอนและเรื่องเล่าต่าง ๆ ที่ปู่ย่าตายายได้เล่าให้ลูกหลานฟังนั้น มักจะมีคำสอนสอดแทรกมากมายให้ลูกรู้จักดำเนินชีวิตไปในทางที่ถูกที่ควร
- ช่วยให้ลูกมีความกตัญญู โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เวลาที่พวกเขาเห็นคุณพ่อคุณแม่ของเขาเอง ดูแลปู่ย่าตายาย พอพวกเขาเห็นมาก ๆ ก็เกิดการปลูกฝัง และพอโตขึ้นลูก ๆ จะรู้ได้ทันทีเลยละค่ะว่า จะต้องดูแลพ่อแม่ของเขาอย่างไร และการที่เขาจะทิ้งเรานั้น ก็มีความเป็นไปได้น้อยมากเลยละค่ะ
ดังนั้น หากอยากให้ลูกกตัญญูกับเรา ไม่ทิ้งเราตอนแก่ พวกเราก็ต้องแสดงให้พวกเขาเห็นก่อน จริงไหมละคะ
อ้างอิงเนื้อหา: Thaipost
อ่านต่อเรื่องอื่นที่น่าสนใจ:
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่