เลี้ยงลูกให้เก่งและฉลาด …เชื่อว่าใคร ๆ ก็อยากมีลูกฉลาด อยากมีลูกเก่ง ๆ กันทั้งนั้น แต่วิธีการเลี้ยงในสมัยนี้กับสมัยก่อนย่อมไม่เหมือนกัน แล้วแบบไหนกันแน่ที่จะเลี้ยงเจ้าตัวน้อยให้เติบโตเป็นคนดี และประสบความสำเร็จ เป็นคนเก่งของโลกได้ ซึ่งวิทยาศาสตร์พิสูจน์มาแล้วว่า เด็กที่เก่งและฉลาดต้องเกิดจากการที่พ่อแม่มีสิ่งเหล่านี้… จะเป็นอะไรบ้างนั้น ไปดูกันค่ะ
วิธี เลี้ยงลูกให้เก่งและฉลาด
เด็กแต่ละคนมีความเป็นอัจฉริยะที่แตกต่างกัน ดังนั้น การปล่อยให้เด็กคิดและตัดสินใจทำในสิ่งที่ชอบ พร้อมทั้งคอยสนับสนุน ด้วยรอยยิ้มและเสียงปรบมือจะเป็นการสร้างความมั่นใจ ความภูมิใจให้กับเขา พ่อแม่ควรหลีกเลี่ยงอารมณ์โกรธ หรืออารมณ์ร้อนเมื่อเขาทำไม่ได้อย่างที่เราตั้งใจ หรือเมินเฉยเขา รวมทั้งควรเพิ่มโอกาสในการสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็ก เช่นการพาไปท่องเที่ยว เพื่อเสริมสร้างจินตนาการ การให้ความเอาใจใส่เขา พร้อมทั้งแสดงออกทางกาย เช่น กอด หอม เขาเป็นประจำเพื่อสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัว หากพบว่าเขาฉลาดหรือเก่งในเรื่องใด ควรสนับสนุนในเรื่องนั้น
Must read : เลี้ยงลูกให้ “อัจฉริยะ” ด้วยความรักจากพ่อแม่
จากสถิติของสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นพบว่า เด็กจะฉลาดนั้นขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์ 48% และขึ้นอยู่กับการพัฒนาจากสิ่งแวดล้อมอีก 52% ซึ่งสมองเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้น ถึงแม้ว่ากรรมพันธุ์จะไม่ฉลาด แต่พ่อแม่ก็สามารถพัฒนาเด็กให้กลายเป็นอัจฉริยะได้ เพียงแต่ต้องดูแลเรื่องโภชนาการ สภาพแวดล้อม การเลี้ยงดู และการส่งเสริมในสิ่งที่เด็กถนัดเป็นสำคัญ
เพราะวัยเรียน เป็นช่วงที่เด็กจะเป็นตัวของตัวเอง พ่อแม่ควรเข้าไปพูดคุยและคอยอยู่เป็นเพื่อนให้กำลังใจลูก ควรเปิดโอกาสให้ลูกคิดและทำในสิ่งที่ต้องการ มากกว่าจะคอยบงการชี้แนะให้เป็นไปอย่างที่ตนเองหวังหรือตั้งใจเอาไว้ สอนให้ลูกรู้จักการเอาตัวรอดและเข้าใจในกิจกรรม หรือวิธีที่ลูกกำลังคิดหรือแสดงออก พร้อมคอยชี้แนะให้เขาเดินอยู่ในกรอบที่ถูกต้องและถูกทาง ไม่ใช่เป็นการบังคับ เพราะไม่มีใครชอบให้พ่อแม่หรือบุคคลอื่นมาบังคับ ซึ่งเด็กที่จะเก่งได้นั้นต้องเกิดจากพ่อแม่ที่มีสิ่งเหล่านี้เหมือนกัน โดยวิทยาศาสตร์ได้พิสูจน์มาแล้ว จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ
อ่านต่อ >> “6 สิ่งที่พ่อแม่ต้องทำเพื่อให้ลูกเก่งและฉลาด” คลิกหน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
วิทยาศาสตร์ได้พิสูจน์แล้ว พ่อแม่ที่มีสิ่งเหล่านี้จะทำให้ลูกเก่งและฉลาด
การที่เด็กยังคงสามารถสร้างแรงจูงใจ มีความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ มุ่งมั่น มั่นใจในการจัดการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคได้ จะช่วยให้เด็กประสบผลสำเร็จในการเรียน และเป็นเด็ก “เก่ง” ได้ความหวัง แต่ก็ต้องเกิดจากพ่อแม่ที่มีสิ่งเหล่านี้ด้วยเหมือนกัน จะเป็นอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
1. ให้ลูกทำงานบ้าน
ถ้าไม่ให้ลูกช่วยทำงานบ้าน ก็แสดงว่าพ่อแม่ต้องเป็นคนทำอยู่ฝ่ายเดียวจริงมั้ย การทำงานบ้านจะช่วยฝึกให้เด็กมีความรับผิดชอบ ได้เรียนรู้ว่าคนทุกคนมีสิ่งที่ต้องทำ และการช่วยเหลือกันจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น เค้าจะเติบโตมาเป็นคนที่ทำงานร่วมกับคนอื่นได้ จะมีความเห็นอกเห็นใจ และพร้อมช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดเวลา
Must read : เลี้ยงลูกไม่ให้สบายเกินไปป้องกันโรคไม่รู้จักลำบาก
2. คาดหวังในตัวเด็กสูง
จากผลสำรวจพบว่า ความคาดหวังของพ่อแม่จะมีผลต่อการประสบความสำเร็จของเด็ก ผู้ปกครองที่มองการณ์ไกล คิดถึงมหาวิทยาลัยในอนาคตให้กับลูกของเค้า โดยไม่ต้องกลัวว่าจะมีค่าใช้จ่ายมากแค่ไหน และคาดหวังในตัวเด็ก ๆ จะพลอยทำให้พวกเค้ามีความพยายาม และไปได้ถึงความสำเร็จในทุก ๆ เรื่อง
Must read : อย่าเลี้ยงลูกเพื่อทำตามความฝันของพ่อแม่
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
3. ไม่เครียด
จำนวนชั่วโมงที่ครอบครัวใช้อยู่กับเด็กอายุระหว่าง 3 ปี ถึง 11 ปีจะเป็นตัวกำหนดว่า อนาคตของเด็กจะเป็นอย่างไร ซึ่งช่วงระหว่างนี้แหละที่เป็นวัยที่เด็กกำลังซน และถ้าครอบครัวรับมือไม่ได้ เกิดอาการเครียดและดุ ต่อว่า ลงมือรุนแรงกับเด็ก ก็จะทำให้เด็กมีปม กลายเป็นเด็กมีปัญหาในทันที
4. เลี้ยงลูกอย่างเผด็จการ
เผด็จการตรงนี้ไม่ใช่สิ่งแย่ ๆ อย่างสั่งอะไรก็ต้องทำ แต่เป็นการชักจูงลูก ให้ลูกไปในทางที่ต้องการอย่างมีเหตุมีผล ใช้คำอธิบายให้ลูกเข้าใจว่าต้องทำเพราะอะไร เด็กจะเติบโตขึ้นมาโดยยังมีความเคารพต่อพ่อแม่ และไม่รู้สึกว่าที่พ่อแม่คอยสั่งมาตลอดเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเค้าอึดอัดใจ
อ่านต่อ >> “สิ่งที่พ่อแม่ต้องทำเพื่อให้ลูกเก่งและฉลาด” คลิกหน้า 3
5. ครอบครัวค่อนข้างมีฐานะ
แน่อยู่แล้วว่าต้นทุนคนเราไม่เท่ากัน การที่เด็กได้เติบโตมาในครอบครัวที่ร่ำรวย มีเงินทองก็เท่ากับว่าพวกเค้าเข้าใกล้ความสำเร็จไป 1 ก้าวตั้งแต่เริ่มต้น เพราะครอบครัวที่มีฐานะจะสามารถส่งลูกไปเรียนตามที่ดี ๆ ค่าเทอมแพง ๆ ได้ รวมถึง
ให้เรียนพิเศษหรือส่งไปเรียนต่างประเทศได้ ทำให้เด็กมีความรู้มากกว่าเด็กรุ่นเดียวกัน และมีโอกาสประสบความสำเร็จในอนาคตมากกว่า
6. สอนคณิตศาสตร์ให้ลูกแต่เด็ก
บางคนก็มองว่าคณิตศาสตร์เป็นเรื่องไม่จำเป็นกับชีวิตเลยแม้แต่น้อย ซึ่งมันเป็นความคิดที่ผิดมหันต์ เพราะรอบตัวเรารายล้อมไปด้วยตัวเลขอย่างที่เราไม่เคยรู้มาก่อน การที่ครอบครัวสอนให้ลูกคิดเลขได้ก่อนคนอื่น จะทำให้เด็กสามารถรับมือกับโจทย์ยาก ๆ ในอนาคตได้ ทำความเข้าใจได้เร็วกว่าคนอื่น และเก่งคณิตศาสตร์กว่าคนอื่น ทำให้มีโอกาสและทางเลือกในการเรียนต่อหรือการทำงานมากกว่า ส่งผลให้เกิดความสำเร็จตามมานั่นเอง
สิ่งสำคัญพ่อแม่ควรเรียนรู้เรื่องพัฒนาการของเด็กก่อนที่วางแผนตั้งครรภ์ อาศัยการสังเกตถึงความสามารถพิเศษเพราะเด็กแต่ละวัยจะมีพัฒนาการที่แตกต่างกันไป พ่อแม่จึงควรปฏิบัติตัวให้สอดคล้องกับการพัฒนาของเด็ก ๆ ด้วย เช่น ของเล่นจะกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้มากในช่วงนี้อีกทั้งเด็กยังต้องการความอบอุ่น ต้องการเรียนรู้ การสัมผัสการโอบกอด วิธีการปฏิบัติด้วยการเล่นกับลูก ๆ จึงเป็นวิธีการที่ดี การถามในสิ่งที่เด็กๆ สงสัย พ่อแม่ไม่ควรตอบคำถามลูกด้วยคำว่า “ไม่รู้ ไม่มีเวลา” แต่ควรเปลี่ยนเป็นคำแนะนำให้ค้นหาคำตอบจากที่ใดหรือจะช่วยหาคำตอบให้โดยจะไปสอบถามกับผู้รอบรู้แล้วจึงค่อยมาบอกในภายหลังน่าจะเป็นข้อปฏิบัติที่ดีกว่า
อย่างไรก็ตาม การสร้างความฉลาดให้กับเด็ก บันไดขั้นแรกที่สำคัญคือ การสร้างวินัย โดย การฝึกสมาธิ ฝึกการวางแผนล่วงหน้า ฝึกระเบียบวินัย ฝึกการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าฝึกความรับผิดชอบ และฝึกควบคุมตนเอง ถัดมา คือการเตรียมความพร้อมทักษะพื้นฐานด้านคณิตศาสตร์และการอ่าน ซึ่งจากการศึกษาในต่างประเทศ พบว่าเด็กที่ได้รับการเตรียมความพร้อมทักษะทั้ง 2 ด้านนี้ มักจะเรียนได้ดีกว่าเมื่อเข้าเรียนชั้นอนุบาล และพบว่าทักษะด้านคณิตศาสตร์ได้มากที่สุด ตามด้วยทักษะด้านการอ่านและสมาธิ
อย่างไรก็ตาม นอกจากการเตรียมความพร้อมให้ลูกตั้งแต่ก่อนเข้าโรงเรียนแล้วพ่อแม่ยังเป็นบุคคลสำคัญที่จะช่วยสนับสนุนให้เด็กประสบความสำเร็จเมื่อเข้าโรงเรียนได้อีกด้วย
อ่านต่อบทความอื่น่าสนใจ คลิก!
- 7 วิธี เสริมความฉลาด สร้างเซลล์สมอง ลูกน้อย
- 12 วิธีเพิ่ม IQ ให้ลูกฉลาดตั้งแต่อยู่ในท้อง
- ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย เด็ก 2 ภาษาฉลาดกว่า
- ลูกฉลาด หรือไม่ ดูที่พ่อแม่จริงหรือ!?
ที่มาจาก Business Insider