พ่อแม่ต้องหยุด! พฤติกรรมไม่ดีของลูก ตั้งแต่ยังเล็ก ก่อนสิ่งเหล่านี้จะซึมซับลงไปจนกลายเป็นนิสัย!
เมื่อลูกโตขึ้น ความซ่าส์ ท้าทาย ก็มีมากขึ้นตามไปด้วย ยิ่งถ้าหากอยู่ในช่วงวัยอยากรู้อยากลองของด้วยแล้ว ยิ่งทำให้คุณพ่อคุณแม่และคนรอบข้างปวดหัวตามไปด้วย ใครไม่เข้าใจ ก็จะมองว่าลูกของไม่ดีไม่น่ารัก และเอาแต่ใจ … จริงอยู่ค่ะที่พฤติกรรมดังกล่าว เป็นเรื่องธรรมดาที่เด็กทุกคนเป็น แต่!! ถ้าหากเราปล่อยเอาไว้ ก็อาจจะส่งผลให้พฤติกรรมเหล่านั้นปลูกฝังลึกลงไป จนกลายเป็นนิสัยที่แก้ไม่ได้
จึงเป็นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่อย่างเรา ที่จะมาช่วยกันแก้ไขปัญหานี้ ไม่ให้ฝังลึก … ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวจะมีอะไรบ้างนั้น วันนี้เราจะมาดูไปพร้อม ๆ กันค่ะ
อ่านต่อ >> พฤติกรรมของลูกที่ควรแก้ไขก่อนสาย
4 พฤติกรรมไม่ดีของลูก ที่พ่อแม่ควรหยุดก่อนสาย
1. เจ้านายวัยอนุบาล เมื่อลูกน้อยแสดงท่าทางด้วยการหชี้นิ้วสั่งจะเอาโน่นเอานี่ หากมองในแง่บวกก็ถือเป็นเรื่องดีที่น้องหนูบอกความต้องการของตัวเองได้ ชัดเจน แต่หากปล่อยไปนาน ๆ อาจจะกลายเป็นเด็กที่ทำอะไรไม่เป็น ดีแต่สั่งคนอื่น ส่งผลทำให้ไม่มีใครอยากคบด้วย
– วิธีปรับพฤติกรรม: คุณพ่อคุณแม่จะต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูก เพราะเด็กวัยนี้จะเลียนแบบการใช้ภาษาจากผู้ใหญ่ พยายามหลีกเลี่ยงการออกคำสั่งกับลูก ยกตัวอย่างเช่น แทนที่จะพูดว่า “ไปหยิบแก้วมาให้ที” ก็ให้ลองเปลี่ยนมาพูดเป็น “ใครจะสามารถไปหยิบแก้วมาให้แม่ได้บ้างน๊า” เป็นต้น
– วิธีปรับพฤติกรรม: อย่ายัวยุให้ลูกโกหกเพิ่มขึ้น อย่าหัวเราะกับพฤติกรรมดังกล่าวของลูก เพราะนั่นอาจจะเป็นการปลูกฝังให้ลูกคิดว่า สิ่งที่พวกเขาทำนั้น เป็นสิ่งที่ถูกได้ สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำก็คือ ค่อย ๆ อธิบายให้ลูกฟังว่า การโกหกนั้นไม่ใช่เรื่องดี เพราะหากทำจนเกิดความเคยชินแล้ววันหนึ่งพูดความจริงขึ้นมา ก็จะไม่มีใครเชื่อในสิ่งที่ลูกพูดได้ การพูดความจริง ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองทำ ถือเป็นเรื่องที่น่ายกย่องเป็นอย่างมาก … สำคัญที่สุด ทุกครั้งที่ลูกพูดความจริง ถึงแม้จะไม่ใช่สิ่งที่ดี คุณพ่อคุณแม่ก็ควรจะชื่นชมลูกที่กล้ายอมรับความจริงค่ะ ไม่ใช่ลูกพูดแล้วเราไปดุว่าพวกเขา หากทำแบบนี้ ก็อย่าหวังเลยค่ะว่า ลูกจะกล้ามาพูดความจริงกับเราอีก
อ่านต่อ >> พฤติกรรมของลูกที่ควรแก้ไขก่อนสาย
– วิธีปรับพฤติกรรม: ให้คุณพ่อคุณแม่สังเกตว่าทุกครั้งที่ลูกอารมณ์เสียนั้น เกิดจากสาเหตุอะไร พร้อมกับหาวิธีการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์นั้นซ้ำ รวมไปแนะนำลูกด้วยว่า สิ่งที่ลูกทำนั้นไม่ถูก ลูกยังไม่ชอบให้ใครมาทำลูกเจ็บ ลูกก็ไม่ควรไปทำสิ่งนั้นกับใครเขาเป็นต้น
4. คำที่ไม่น่าฟัง คำบางคำที่ได้ยินจากปากของลูก ก็ทำให้คุณพ่อคุณแม่อย่างรู้สึกช็อก เช่น “หนูเกลียดแม่” “ไปตายซะ” ความจริงแล้ว ลูกเขาไม่ได้เกลียดคุณหรอกค่ะ แค่ต้องการระเบิดอารมณ์กับคนใกล้ตัวเพื่อความสะใจเท่านั้น
–วิธีการปรับพฤติกรรม: ให้คุณพ่อคุณแม่หายใจเข้าลึก ๆ อย่าไปตวาดลูกกลับ เพราะนั้นจะทำให้ลูกยิ่งอารมณ์เสียและเริ่มตอบโต้เราแรงขึ้น ให้คุณแม่เข้าไปกอดลูก พร้อมกับใจเย็นและพูดกับลูกด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น จริงจัง พร้อมกับอธิบายให้ลูกฟังว่า สิ่งที่ลูกทำนั้นทำให้แม่รู้สึกเสียใจ สิ่งที่แม่พูดไปนั้น เพราะแม่ต้องการให้หนูทำบางสิ่งบางอย่างให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยกลับมาเล่นใหม่ เป็นต้น
พฤติกรรมเหล่านี้ ล้วนเป็นพฤติกรรมที่ไม่ค่อยจะน่ารัก แต่ก็เป็นพฤติกรรมที่อยู่คู่กับเด็กเสียส่วนใหญ่ หากยังปล่อยให้ลูกแสดงออกถึงพฤติกรรมเหล่านี้ไปเรื่อย ๆ ก็จะส่งผลให้เขามีนิสัยเหล่านี้ติดตัวไปจนโต ดังนั้น จะมีเด็กสักกี่คนกัน ที่คุณพ่อคุณแม่จะตระหนักเห็นถึงปัญหาที่จะตามมา เมื่อเรารู้แบบนี้กันเสียแต่เนิ่น ๆ การป้องกันแก้ไข ก็ไม่ใช่เรื่องยาก
ขอบคุณที่มา: 108 Health
อ่านต่อเรื่องอื่นที่น่าสนใจ:
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่