รักลูกมาก หวังดีกับลูกจริง ๆ ขออย่างเดียว อย่า!! เลี้ยงลูกตามใจ
คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คนที่ตามใจลูกนั้น ส่วนใหญ่แล้วมีสาเหตุมากจากการกลัวลูกไม่รัก เวลาลูกอยากได้อะไร ก็หามาให้ทุกอย่าง และถึงแม้ว่าจะลูกทำตัวไม่น่ารักอย่างไรก็ไม่เคยว่าติเตือนหรือสอนลูกเลย … โดยที่หารู้ไม่ว่าการกระทำเหล่านี้สามารถส่งผลให้กับลูกได้โดยตรง
ทราบหรือไมคะว่าร้อยละ 88 ของคุณพ่อคุณแม่นั้นยอมรับว่าตนเองตามใจและให้ท้ายลูก
มิเชล บอร์บา นักการศึกษาและผู้เขียนหนังสือ Don’t Give Me That Attitude! ให้ข้อสังเกตว่า ทุกวันนี้เด็กก่อนวัยเรียนส่วนใหญ่นั้นไม่รู้จักความอดทนกันเลย “หนูจะเอาตอนนี้ และเดี๋ยวนี้” จนส่งผลให้ร้านค้าหรือร้านอาหารบางแห่งที่มักมีผู้บริหารระดับสูงมารับประทานนั้นปฏิเสธที่จะให้บริการกับเด็กที่มีอายุต่ำกว่าหกขวบเข้าใช้บริการ
ดร.ซัล ซีเวียร์ ผู้เขียนหนังสือเรื่อง How to Behave So Your Preschooler Will, Too! เผยว่า “พ่อแม่บอกกับผมว่า พวกเขารู้สึกผิดต่อลูก เพราะวัน ๆ มัวแต่ทำงาน ยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้นเท่าไร พวกเขาจะยิ่งชดเชยด้วยการเอาใจและไม่เจ้าระเบียบกับลูกมากขึ้นเท่านั้น”
อะไรบ้างที่เรียกว่าการตามใจลูก
แบบไหนบ้างที่เรียกว่า เลี้ยงลูกตามใจ
การเลี้ยงลูกแบบตามใจนั้นมีหลากหลายวิธีแตกต่างกันไปค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการตามใจด้วยการซื้อของที่ลูกอยากได้ให้ ยกตัวอย่างเช่น
- ลูกอยากได้รองเท้ายี่ห้อนี้ แบบนี้ แต่คุณพ่อคุณแม่กลับไปซื้อแบบอื่นมาให้ ทำให้ลูกเกิดความไม่พอใจ จึงร้องเอะอะโวยวาย อาละวาดต่าง ๆ นา ๆ ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทนไม่ไหว ต้องตัดสินใจซื้อรองเท้าคู่ใหม่ให้ลูกแทน
- ลูกอยากได้ของเล่นใหม่ แต่ด้วยของเล่นมีราคาที่แพงหรือลูกอาจจะมีอยู่แล้วแต่ก็ยังอยากได้อีก พอไม่ซื้อให้ก็จะร้องกรี๊ด ๆ ลงไปนอนดิ้นอยู่กับพื้น เป็นพฤติกรรมที่เราสามารถพบเห็นได้บ่อย ๆ ตามห้างสรรพสินค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งโซนร้านขายของเล่น เป็นต้น
อะไรคือผลเสีย?
- ลูกช่วยตัวเองไม่ได้ เมื่อลูกโตขึ้น ลูกจำเป็นที่ะจะต้องรู้จักช่วยเหลือตัวเองให้เป็น แต่ลูก ๆ จะไม่สามารถช่วยตัวเองได้เลย ถ้าคุณพ่อคุณแม่ยังคงตามใจและคอยช่วยเหลือลูกทุกอย่างและทุก ๆ เรื่อง
- ไม่มีความรับผิดชอบ หากลูกรื้อของเล่นออกมาเล่น เวลาที่ลูกเล่นเสร็จลูกจะไม่เก็บ เพราะพวกเขารู้ว่าถึงเวลาก็จะมีคุณพ่อคุณแม่หรือพี่เลี้ยงนี่แหละที่จะมาทำหน้าที่เก็บ พอถึงเวลาที่ลูกเข้าโรงเรียน และต้องอยู่ในสังคม ลูกก็อาจจะแสดงออกถึงพฤติกรรมนี้เช่นกัน
- ไม่เคารพผู้อื่น ลูกไม่สนใจถึงความคิดหรือความต้องการของผู้อื่น ไม่สนใจว่าเพื่อน ๆ หรือคนรอบข้างจะต้องการอะไร เพราะพวกเขารู้แต่เพียงว่า ทุกคนจะต้องทำตามในสิ่งที่เขาต้องการเท่านั้น
- ไม่รู้จักการรอคอย ใจร้อน เพราเวลาอยากได้อะไรและต้องการเดี๋ยวนั้นคุณพ่อคุณแม่ก็จะรีบหามาให้ทันที โดยบางครั้งอาจจะหลงลืมไปว่า การให้ลูกได้รู้จักรอคอยอะไรบ้างนั้นจะช่วยฝึกให้พวกเขามีความใจเย็น ไม่ใจร้อนต่อการดำรงชีวิต
- เอาแต่ใจตัวเอง เด็ก ๆ รู้ดีว่าถ้าหากพวกเขาแสดงออกถึงพฤติกรรมของความก้าวร้าวแล้ว พวกเขาจะได้ในสิ่งที่พวกเขาต้องการที่จะได้ พอลูกเข้าโรงเรียน การเอาแต่ใจของลูกนั้น อาจส่งผลให้เป็นพฤติกรรมที่ไม่น่ารักจนไม่มีใครอยากเข้าใกล้หรือเล่นด้วยก็เป็นได้
เลิกตามใจลูกเสีย และทำแบบนี้แทน
เปลี่ยนจากการตามใจลูกมาเป็นการเลี้ยงแบบเน้นคุณค่า
คุณพ่อคุณแม่บางคนพอรู้ตัวว่าตัวเองกำลังเลี้ยงลูกตามใจมากเกินไป ก็แสดงออกด้วยการหักดิบ บังคับหรือเน้นการใช้คำว่า “ไม่” กับลูกในแทบทุกเรื่อง และถ้าหากลูกไม่ยอมทำตามก็จะลงเอยด้วยการลงโทษ ดังนั้นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ทุกคนควรทำนั้นควรเป็นการสอนลูกด้วยการมุ่งเน้นไปในเรื่องของการเห็น “คุณค่าในตัวเอง” ยกตัวอย่างเช่น
- เชื่อในศักยภาพของลูก ให้โอกาสและปล่อยให้ลูกได้เรียนรู้ พร้อมกับการลองผิดลองถูกด้วยตนเอง
- มอบหมายหน้าที่ให้ลูกได้รับผิดชอบ เช่น พับผ้า กวาดบ้าน ถูบ้าน ให้อาหารสัตว์เลี้ยง ช่วยเก็บจาน ล้างจาน หรือนำเอาขยะไปทิ้ง เป็นต้น
- อย่าไปกดดันลูกหรือเร่งรัดเวลาที่ลูกยังทำบางสิ่งบางอย่างไม่เสร็จ ให้โอกาสลูกได้ทดลองเรียนรู้ด้วยตัวเองจนกว่าจะสำเร็จแทนการยื่นมือเข้าช่วย
- คอยเป็นผู้สนับสนุนที่ดี คอยช่วยเหลือในยามที่จำเป็นจริง ๆ เท่านั้น
- ให้ลูกรู้จักค่าของเงิน หากลูกอยากได้อะไร ให้ลูกรู้จักเก็บเงินซื้อเอง เป็นต้น
หากคุณพ่อคุณแม่สามารถทำได้ตาม 5 ข้อที่กล่าวมาแล้วละก็ นอกจากลูกจะเห็นคุณค่าของตัวเองมากขึ้นแล้ว ลูกก็ยังรู้จักรักและเคารพผู้อื่นมากขึ้นด้วยละค่ะ ลองไปปรับใช้กันดูนะคะ
อ่านเรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่