7 ข้อ รู้ให้เท่าทัน กัน ลูกป่วย โรคRSV บ่อย! - amarinbabyandkids
โรคRSV

7 ข้อ รู้ให้เท่าทัน กัน ลูกป่วย โรคRSV บ่อย!

Alternative Textaccount_circle
event
โรคRSV
โรคRSV

 

 

 7 ข้อรู้ให้เท่าทัน ป้องกันลูกน้อยห่างไกล RSV

  1. RSV เป็นเชื้อไวรัสที่สามารถเข้าสู่ร่างกายลูกน้อยผ่านทางจมูก ปาก และเยื่อบุดวงตา เพียงแค่มีการไอจามรดกัน ก็สามารถติดต่อกันได้แล้ว
  2. เครื่องเล่นไม่ว่าจะเป็นที่โรงเรียน ห้างสรรพสินค้า หากเลี่ยงได้ควรเลี่ยง เพราะคุณพ่อคุณแม่ไม่มีทางรู้เลยว่า เด็กที่จับเครื่องเล่นก่อนหน้านี้ป่วยเป็นโรคดังกล่าวหรือไม่
  3. ปลูกฝังลูกหลานให้ขยันล้างมือบ่อย ๆ และต้องล้างมือด้วยสบู่ทุกครั้ง เพราะล้างแค่น้ำเปล่าอย่างเดียว ไม่ได้แปลว่าเราสามารถกำจัดเชื้อโรคต่าง ๆ ที่อยู่ตามซอกมือหรือซอกเล็บได้
  4. พยายามหลีกเลี่ยงพาลูกน้อยไปยังสถานที่ ๆ มีผู้คนแออัด เพราะสถานที่เหล่านี้นี่ละค่ะ ที่จะเป็นแหล่งแพร่พันธุ์เชื้อโรคต่าง ๆ ชั้นดี
  5. คอยสังเกตอาการลูกให้ดี หากพบว่า มีอาการดังต่อไปนี้ อย่าชะล่าใจเด็ดขาดนะคะ ยกตัวอย่างเช่น ตัวลายเขียว (อันอาจเกิดจากการขาดออกซิเจน) หายใจลำบาก หอบเหนื่อย ไอมาก ไอโขลก ไอแบบมีเสมหะ ไข้สูงแบบขึ้น ๆ ลง ๆ จามบ่อยและมีน้ำมูกใส ๆ ไหลตลอดเวลา ปีกจมูกบานเวลาหายใจ เหนื่อยง่าย และหายใจมีเสียงวี๊ด หากลูกมีอาการดังที่กล่าวต่อไปนี้ รีบไปพาพบแพทย์เพื่อทำการตรวจเช็คให้เร็วที่สุด ดีกว่าเป็นมากนะคะ
  6. หากคุณพ่อคุณแม่ทราบว่าลูกของตนป่วยเป็นโรคดังกล่าว ให้รีบแจ้งโรงเรียนหรือสถานรับเลี้ยงเด็กให้ทราบ จะได้แจ้งเตือนให้ผู้ปกครองท่านอื่นคอยสังเกตอาการของลูก และหากมีเด็กป่วยมากเกิน 3 คนขึ้นไป โรงเรียนก็สามารถที่จะพิจารณาปิดโรงเรียนเพื่อทำความสะอาดได้เช่นกัน
  7. อย่ามั่นใจว่าลูกเราแข็งแรง และไม่ป่วยอะไรได้ง่าย ๆ หรือเรียกอีกอย่างว่า อย่าประมาทนั่นเองค่ะ เพราะโรคนี้ไม่ได้เลือกคนที่ไม่แข็งแรงเท่านั้น เด็กคนไหน ๆ ก็เป็นได้เช่นกัน

หากเรารู้เท่าทัน 7 ข้อนี้ ก็สามารถเป็นเกราะป้องกันลูกน้อยของเราให้ห่างไกลโรคดังกล่าวได้ในระดับหนึ่งแล้วละค่ะ

อ่านต่อเรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:

 

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up