อยากให้ลูกกลายเป็น เด็ก 3 ภาษา พ่อแม่ปั้นได้ด้วยวิธีเหล่านี้! พร้อมคลิปจากบล็อกเกอร์ดัง!
ขอต้อนรับคุณพ่อคุณแม่ทุกคนเข้าสู่ยุค AEC ที่ถือว่าเป็นยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงสำหรับเด็ก ๆ ทุกคน ที่หันหน้าไปทางไหนก็เจอแต่เด็กพูดได้มากกว่า 2 ภาษาด้วยกัน และแทบจะทุกโรงเรียน ก็เริ่มที่จะมีการสอนภาษาที่สามกันยกตัวอย่างเช่น ภาษาจีน ที่บอกเลยงานนี้คุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องกุมขมับกันแล้วละว่า ลูกของเราจะสามารถกลายเป็น เด็ก 3 ภาษาได้เหมือนกับคนอื่น ๆ หรือไม่ ไม่ต้องกังวลไปนะคะ เพราะวันนี้เรามีข้อมูลดี ๆ มีประโยชน์พร้อมคำแนะนำจาก Blogger ที่บอกเลยเขาทำสำเร็จกับลูกมาแล้ว จะทำอย่างไร ยากหรือง่ายเพียงใด เราจะมาติดตามไปพร้อม ๆ กันค่ะ
วิธีการฝึกลูกให้เป็น เด็ก 3 ภาษา
-
เริ่มจากการฝึกให้ลูกได้เรียนรู้คำศัพท์จากสิ่งใกล้ตัว ยกตัวอย่างเช่น สัตว์เลี้ยง ท้องฟ้า น้ำ สิ่งของที่ใช้ในบ้าน
-
สอนคำกล่าวสวัสดีในตอนเช้าเป็นภาษาไทย อังกฤษและจีน เป็นประจำทุกวัน
-
เล่นเกมส์ฝึกภาษาหรือทายภาษา ทายคำศัพท์ง่าย ๆ ทำให้เหมือนกับเป็นเกมส์การเล่นสนุกมากกว่าการเรียนการสอนนอกจากจะทำให้ลูกรู้สึกเพลิดเพลินแล้ว ยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ให้กับคนในครอบครัวได้
-
หาเพลง หนัง หรือการ์ตูนสนุก ๆ น่าสนใจมาดูหรือฝึกร้องกับลูก นอกจากลูกจะได้ชินหูแล้ว ยังได้สำเนียงของเจ้าของภาษาอีกด้วยนะคะ
คลิกอ่านวิธีการฝึกลูกจากบล็อกเกอร์ชื่อดังได้ที่นี่
เครดิต: Baanjanpasa
ในวันนี้เรามีวิธีการฝึกลูกให้เป็นเด็ก 3 ภาษาได้ง่าย ๆ ไม่ยากจากคุณพ่อเอก บล็อกเกอร์ชื่อดังมาฝากกันด้วยนะคะ คุณพ่อจะมีวิธีการอย่างไร อยากทราบแล้วไปอ่านบทความของคุณพ่อกันเลยค่ะ
ผมคิดว่าหลาย ๆ ครอบครัว คิดไว้ว่าอยากให้เจ้าตัวเล็กสามารถพูดได้หลาย ๆ ภาษา แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มอย่างไรดี และก็ไม่รู้ว่าวิธีที่ทำถูกต้องไหมเราคงได้ยินหรือได้อ่านเจออยู่เรื่อย ๆ เรื่องที่ว่าเด็กเกิดมาพร้อมกับความสามารถที่จะเรียนรู้ภาษาได้หลายๆภาษาโดยไม่สับสนและเป็นการเรียนรู้ตามธรรมชาติ แต่เราก็คงแอบกังวล ไม่ได้ว่ามันจะเป็นอย่างนั้นจริงหรือเปล่า“เด็กจะไม่สับสนแล้วกลายเป็นพูดช้าหรือ?” น่าจะเป็นหนึ่งคำถามในใจ ของครอบครัวใครต่อใคร ครอบครัวเราเองก็เคยสงสัย แต่ตอนนี้ไม่แล้วฮะ
ปูนปั้นในวัย 2 ขวบ เกือบครึ่งตอนนี้ สามารถสื่อสารพูดคุยได้ 3 ภาษา คือ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และ ภาษาจีนกว้างตุ้ง พูดคุยได้ในระดับที่ ปะป๊าอย่างผมก็ไม่สามารถจะเข้าใจได้ เวลาที่เจ้าปูนปั้นพูดภาษาจีนกวางตุ้งกับคุณยาย เพราะปูนปั้นสามารถโต้ตอบกับคุณยายได้โดยไม่มีคำไทยให้ผมเดาความ และเช่นกัน เมื่อถึงคิวปูนปั้นพูดภาษาอังกฤษกับผม ก็ทำเอาคุณยายต้องทำหน้างงเหมือนกัน
ขั้นตอนการฝึกนั้นไม่ยากเลย สามารถลองไปปรับใช้กันดูได้คือ
-
เริ่มต้นที่ คุณพ่อกับคุณแม่แบ่งกันว่าใครจะสื่อสารภาษาอะไรกับปูนปั้น: ภรรยากับผมตกลงกันตั้งแต่ตอนตั้งท้องเจ้าปูนปั้นเลยว่าใครจะสื่อสารภาษาไหนกับปูนปั้น โดยเราตกลงกันว่าหม่าม๊าจะใช้ภาษาไทยในการพูดคุยกับปูนปั้น ส่วนปะป๊าจะใช้ภาษาอังกฤษ ดังนั้นตั้งแต่ปูนปั้นลืมตาออกมาดูโลก ปูนปั้นก็จะได้ยิน 2 ภาษาเลยตั้งแต่วันนั้น
-
ต่อมาก็ เพิ่มเติมภาษาที่ 3-4-5 ได้ตามต้องการ: คุณยายก็จะเป็นผู้ที่ พุดคุยกับปูนปั้นเป็นภาษากวางตุ้ง แม้จะไม่ใช่ตั้งแต่เกิดแต่มาเพิ่มเติมภายหลัง เนื่องจาก ครอบครัวเราอยู่กัน 3 คน พ่อ แม่ ลูก พอคลอดครบ 4 เดือนหม่าม๊าต้องกลับไปทำงาน เราก็ต้องเอาเจ้าปูนปั้นเข้าเนอร์สเซอร์รี่ และคุณยายจะเป็นคนขับรถไปรับกลับบ้านตอนเย็น ซึ่งคุณยายก็จะพูดกวางตุ้งกับเจ้าปูนปั้นตลอดทางกลับบ้าน ตั้งแต่วัยประมาณ 4 เดือน
-
เราต้องเก่งภาษาขนาดไหน: เรื่องนี้ไม่ต้องกังวลเลย เพราะผมเองไม่เคยศึกษาต่างประเทศ ดังนั้นภาษาอังกฤษของผมสำเนียงไทยจ๋าเลยฮะและผมคิดว่าการจะพูดผิดสอนผิดไวยกรณ์ ไปบ้างก็อย่าได้ไปกังวลหนักหนาเลย เพราะขนาดภาษาไทย ตอนที่เราหัดพูดสมัยเด็ก ๆ ก็ไม่ได้ถูกไวยากรณ์อะไรมากมาย แต่มันจะพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งตามธรรมชาติและจากการเรียนรู้ในและนอกห้องเรียน
อ่านเรื่องราวเพิ่มเติม คลิก!
-
อดทนและมีวินัย: เรื่องนี้สำคัญมากที่สุดเรื่องหนึ่งเลยครับ เพราะเมื่อเราแบ่งภาษากันแล้วเราจะต้องใช้ภาษานั้นในการพูดคุยจริงๆ อย่างมีวินัย ตั้งแต่ปูนปั้นเกิดผมแทบจะไม่ได้ใช้ภาษาไทยพูดกับเขาเลย ถ้าจะมีเผลอบ้าง ผมก็ก็จะรีบปรับกลับมาเป็นภาษาอังกฤษทันที ซึ่งมันต้องใช้ความอดทนมากอยู่เหมือนกัน เพราะบางครั้งเราอยากจะแสดงความรัก เราก็จะต้องแสดงออกเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งนั่นก็อาจจะไม่เต็มที่เหมือนภาษาไทย
-
เขาไม่สับสนและสามารถสลับภาษาได้: ช่วงเวลาที่ปูนปั้นอยู่พร้อมหน้ากับปะป๊า หม่าม๊า และ ยาย เขาก็จะหันไปพูดภาษาที่ใช้กับแต่ละคนได้ คือหันมาเจอปะป๊าปูนปั้นก็จะพูดอังกฤษ พอคุยกับยายก็จะใช้กวางตุ้ง หันไปหาหม่าม๊าก็พูดไทย จะมีที่สลับผิดบ้าง เช่นบางทีหันมาพูดไทยกับปะป๊า ปะป๊าก็จะทำเฉย ๆ เหมือนไม่เข้าใจ เขาก็จะปรับไปเป็นอังกฤษ หรือบางครั้งเขาพูดไทยมา ผมก็จะตอบกลับเป็นอังกฤษ สักพักเขาจะนึกได้ แล้วก็จะกลับมาพูดอังกฤษกับผมเองอีกกรณีคือบางครั้งเขาเผลอพูดศัพท์กวางตุ้งที่ผมไม่เข้าใจ พอเห็นผมทำหน้างงเขาก็จะแปลให้เช่น เขาหันมาพูดคำว่า ‘หลับสับแช่แปลว่า รถขยะ’ ผมก็จะงง ปูนปั้นก็จะเปลี่ยนเป็น ‘garbage truck ไง’ ยิ่งไปกว่านั้นพออายุสักขวบปลาย ๆ ปูนปั้นพูดไทยได้คล่องแล้ว ผมก็เลยบอกให้หม่าม๊าปรับมาพูดอังกฤษด้วย เพราะไม่เช่นนั้น เขาจะมีคนใช้ภาษาไทยกับเขาเกือบตลอดผมเกรงว่าเจ้าปูนปั้นจะไม่ยอมใช้อังกฤษที่บ้าน ซึ่งการที่จู่ ๆ หม่าม๊าปรับมาใช้ภาษาอังกฤษก็ไม่ได้ทำให้ปูนปั้นสับสนเลยฮะ
-
พูดช้าเพราะเจอหลายภาษา…ผมว่าไม่จริง: มีความเชื่อหนึ่งว่าถ้าพูดหลายภาษาใส่เด็กอาจจะทำให้เด็กสับสนและเริ่มพูดช้า เรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องเดียวที่ตอนแรกผมไม่แน่ใจว่ามีผลมั้ย เพราะปูนปั้นเป็นเด็กหัดคลานเร็ว หัดเดินเป็นเร็ว มีเรื่องที่ช้าหน่อยคือ กว่าจะหัดพูดเป็นจริงเป็นจังก็เกือบ 2 ขวบแล้ว โดยเฉพาะคำว่า ปะป๊า หม่าม๊า กว่าจะพูดได้ลุ้นจนเหนื่อย แต่ผมเองไม่ค่อยเชื่อว่านั่นเป็นผลจากการพูดหลายภาษานะฮะ เพราะจากวันที่ปูนปั้นเริ่มพูดได้ ผ่านมาไม่กี่เดือน ปูนปั้นกลายเป็นเจ้าตัวป่วนที่พูดไม่หยุด พูดจนปะป๊าหม่าม๊าต้องคอยตอบจนเหนื่อย
ลองไปปรับใช้ที่บ้านกันนะฮะ ไม่มีช้าเกินไป แต่คงต้องอดทนกันหน่อย ไม่ต้องไปหาใครที่ไหนไกล คุณครูชั้นดีในการสอนภาษา ก็ตัวคุณพ่อ คุณแม่และญาติพี่น้อง นี่หละฮะ ขอให้สนุกสนานกับการพูดคุยกับเจ้าตัวยุ่งกันนะฮะ (ลองแวะไปดูสัก 1-2 clip ประกอบดูนะฮะ >> ปูนปั้นเด็ก 3 ภาษา << และ >> ก่อนนอนต้องอ่านหนังสือ << )
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ไม่ยากเลยใช่ไหมละคะ เพียงแค่เราอดทนและขยันทำให้เป็นประจำทุกวัน เมื่อลูกเกิดความเคยชิน เขาก็จะสามารถพัฒนาตัวเองไปได้โดยที่คุณพ่อคุณแม่ไม่จำเป็นต้องเหนื่อยอะไรเลย รู้แบบนี้แล้ว พรุ่งนี้เรามาเริ่มกันเลยก็ยังไม่สายนะคะ
เครดิต: บรรทัดที่สิบเอ็ด (พ่อเอก-จิรัฏฐ์ สิริเฉลิมพงศ์)
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:
-
สอนภาษาอังกฤษลูกอย่างไร ให้เก่งตั้งแต่เด็ก!
-
พจนานุกรมภาพอังกฤษ-ไทยสำหรับคุณหนู บันไดขั้นต่อไปในการสร้างเด็กสองภาษา
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่