AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

ตะคอกลูก แล้วได้อะไร? เปลี่ยนมาทำสิ่งนี้ดีกว่า เห็นผลแน่นอน!

ตะคอกลูก แล้วได้อะไร? อยากให้ลูกเชื่อฟัง เป็นเด็กดี ทำไมไม่ลองทำสิ่งหล่านี้แทน …

 

 

คุณพ่อคุณแม่อยากเป็นมารร้ายในสายตาลูกหรือไม่คะ … คุณทราบกันหรือไม่คะว่า ลูกไม่ได้มีเจตนาใด ๆ ที่จะทำให้คนที่เขารักต้องหงุดหงิด รำคาญใจหรือว่าอารมณ์เสียเลย  ลูกไม่อยากเห็นคุณเป็นปีศาจหรอกค่ะ เพียงแต่มันเป็นวัยของเขาเท่านั้นเองที่ต้องการความท้าทาย หรือเล่นเกมบางอย่างกับคุณพ่อคุณแม่เท่านั้นเอง

เคยสังเกตกันหรือไม่คะว่า เรามักจะหงุดหงิดกับสิ่งที่ลูกรู้อยู่แล้วว่า พวกเขาไม่ควรทำ ยกตัวอย่างเช่น ลูกรู้อยู่แล้วว่า เวลานี้ควรที่จะต้องอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า และทานข้าว แต่พวกเขาเลือกที่จะเล่นไม่หยุด รื้อของเล่นทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้า แล้วปล่อยให้คุณพ่อคุณแม่อย่างเราต้องคอยตะโกน บ่นปากเปียกปากแฉะ จนเกิดอารมณ์และต้อง ตะคอกลูก หรือถึงขั้นลงไม้ลงมือตีลูกในที่สุด … ซึ่งสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นกับทุกครอบครัวค่ะ ไม่ต้องแปลกใจ เพียงอยู่ที่ว่าแต่ละครอบครัวเลือกที่จะแก้ปัญหานี้กันอย่างไร

เคยได้ยินไหมคะว่า ยิ่งตะคอกลูกมากเท่าไร ลูกยิ่งก้าวร้าวมากขึ้นเท่านั้น … หลาย ๆ ท่านอาจจะยังไม่เชื่อ แต่สิ่งนี้มีผลกับพฤติกรรมของลูกจริงนะคะ

ได้มีผลงานวิจัยจาก ดร. หมิง หวัง รองศาสตรจารย์สาชาวิชาจิตวิทยา ประจำมหาวิทยาลัยพิตต์เบิร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกาว่า จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างของครอบครัวกว่า 976 ครอบครัวพบว่า พ่อแม่ส่วนใหญ่เลือกแก้ปัญหาลูกไม่เชื่อฟังด้วยการตะโกนดุด่าด้วยคำพูดที่ไม่สุภาพหรือรุนแรง

โดยเด็กที่ถูกพ่อแม่กระทำการเช่นนี้ เป็นเด็กที่มีปัญหามากกว่าเด็กที่พ่อแม่ไม่เคยตะคอกใส่เลย และพฤติกรรมรวมถึงการแสดงออกของเด็กที่มีปัญหานั้น จะส่งผลเห็นชัดมากขึ้นในช่วงที่เด็กกำลังก้าวเข้าสู่วัยรุ่น หรือที่เราเรียกกันว่า วัยหัวเลี้ยวหัวต่อนั่นเอง

นอกจากนี้ ดร.หมิง ยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ไม่ว่าพ่อแม่จะสนิทกับลูกมากแค่ไหน การแสดงออกถึงพฤติกรรมที่ดุร้ายก็ย่อมส่งผลกระทบกับจิตใจของลูกมากอยู่ดี และแน่นอนค่ะว่า สิ่งที่จะตามมาก็คือ การที่ลูกลอกเลียนแบบพฤติกรรม หรือคำพูดเหล่านั้นมาใช้ จนอาจจะส่งผลให้ลูกกลายเป็นเด็กที่ก้าวร้าว และไปแสดงออกถึงพฤติกรรมนี้กับเพื่อนที่โรงเรียน หรือคนอื่นได้


 เปลี่ยนจากการ ตะคอกลูก มาเป็นการทำสิ่งเหล่านี้กันเถอะ

การตะคอกลูกนั้น นอกจากจะไม่ส่งผลดีใด ๆ แล้วยังทำให้คุณแม่ต้องเจ็บคอโดยใช่เหตุ เพราะฉะนั้นทางออกที่ดีที่สุดก็คือ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือคำพูดโดยเริ่มที่ตัวเราเองก่อนค่ะ ยกตัวอย่างเช่น

ลูกไม่ได้อยากดื้อหรือทำตัวไม่น่ารักใส่คุณพ่อคุณแม่หรอกนะคะ แต่ด้วยวัยของเขา หากเราเข้าใจ ใส่ใจ และให้ความสำคัญ พร้อมที่จะสนับสนุนและช่วยเหลือด้วยความรัก เพียงแค่นี้ก็สามารถทำให้ลูกเป็นเด็กดี เชื่อฟัง โดยที่คุณพ่อคุณแม่ไม่จำเป็นต้องตะโกนใส่ลูกหรือ ตะคอกลูก ให้เหนื่อยเปล่าเลยละค่ะ … อย่างไรลองดูนะคะ

อ้างอิง: ประชาชาติธุรกิจ และ Scarymommy

อ่านต่อเรื่องอื่นที่น่าสนใจ:

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids