AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

พักจากโลกโซเชียล มาสู่ความเรียลของโลกภายนอก

กิจกรรมนอกบ้านสำหรับเด็ก

ทุกวันนี้ต้องบอกว่าเราได้เข้าสู่ “สังคมก้มหน้า” อย่างแท้จริง ที่ไม่ใช่แค่ผู้ใหญ่วัยทำงาน คนเป็นพ่อแม่ แต่เด็กๆ ลูกหลานตัวน้อยก็มีโลกส่วนติดอยู่กับหน้าจอมือถือ จอทีวี คอมพิวเตอร์ !!! เห็นแล้วน่าตกใจ และถ้าเราในฐานะพ่อแม่ปล่อยให้ลูก หลานของเรามีพฤติกรรมติดอยู่กับหน้าจอ เป็นเด็กติดจอไปแบบนี้ เห็นทีผลเสียคงกระทบไปถึงอนาคตข้างหน้าอย่างปฏิเสธไม่ได้แน่ๆ ค่ะ

*แพทย์หญิงทิพาวรรณ บูรณศิริ จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น สถาบันจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น ราชนครินทร์ กล่าวว่า ปัจจุบันเด็ก และเยาวชนของไทยใช้ชีวิตอยู่หน้าจอเกินสถิติโลก คือ 3 ชม. ต่อวัน หรือ 35 ชม.ต่อสัปดาห์ ปกติห้ามเกิน 16 ชม.ต่อสัปดาห์  

การติดจอของเด็กๆ ไม่ว่าจะเป็นมือถือ ไอแพด คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ค ทีวี เป็นต้น ล้วนส่งผลเสียต่อตัวลูกได้ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ ที่จะมีปัญหาตามมา เช่น สายตาสั้น จอประสาทตาเสื่อม นั่งหลังค้อม หรือมีภาวะทางอารมณ์ เช่น หงุดหงิด โมโหร้าย ไม่ชอบเข้าสังคมอยู่ร่วมกับผู้อื่นไม่ได้ ไม่มีสมาธิ สมาธิสั้น ฯลฯ ถ้าผลเสียจะแย่ขนาดนี้เราที่เป็นพ่อแม่คงต้องพาลูก พักหรือห่างจากหน้าจอกันได้แล้วล่ะค่ะ ยิ่งถ้าลูกกำลังอยู่ในวัยเรียนรู้ การพาออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านน่าจะได้ประโยชน์กับตัวลูกมากกว่าผลเสียนะคะ

*องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำว่าเด็กอายุระหว่าง 1-4 ปีขึ้นไปควรเรียนรู้ เล่นนอกบ้าน เพื่อลดพฤติกรรมการติดหน้าจอ การนั่งนิ่งๆ ที่แทบไม่ค่อยได้ขยับ เคลื่อนไหวร่างกายใดๆ เลย เด็กๆ ควรได้ใช้เวลาอยู่นอกบ้านมีกิจกรรมทางกาย อย่างน้อย 60 นาที เพื่อทำกิจกรรมกลางแจ้งที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย และพัฒนาการตามวัย  

กิจกรรมนอกบ้านสำหรับเด็ก ทุกวันๆ ละ 60 นาที เล่นเลอะรอบรู้ 

การเลี้ยงลูกนอกบ้าน การพาลูกออกไปเล่นสนุกออกไปสัมผัสกับโลกกว้างนอกบ้าน 60 นาทีต่อวัน ที่ไม่ได้เล่นติดอยู่กับ  หน้าจอ รู้ไหมคะว่าเป็นการกระตุ้นส่งเสริมให้ลูกได้มีพัฒนาการการเรียนรู้ที่ดีตามวัย จินตนาการความคิดสร้างสรรค์ ที่  สำคัญยังเป็นการกระตุ้นพัฒนาทักษะการสื่อสารกับคนรอบข้าง รู้จักการเข้าสังคมและปรับตัวได้กับทุกสถานการณ์  สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญยังส่งเสริมให้เด็กๆ ได้มีสุขภาพที่แข็งแรงด้วยค่ะ

แล้วถ้าจะพาลูกเล่นนอกบ้าน กิจกรรมนอกบ้านสำหรับเด็ก ควรต้องเป็นกิจกรรมแบบไหนถึงจะเป็นประโยชน์กับตัวลูก  หากพ่อแม่จัดสรรเวลาได้ทุกวันๆ ละ 60 นาที อาจไม่ต้องเดินทางกันไปไหนไกลค่ะ แค่เริ่มจากรอบรั้วบ้าน ก็สามารถพาลูกออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านได้อย่างไม่รู้เบื่อกันแล้วค่ะ

ลูกที่กำลังอยู่ในวัยเรียนรู้ และมีพลังเยอะ คุณพ่อคุณแม่สามารถชวนลูกออกมาทำแปรงผัก สวนครัว ให้ลูกได้ลองเลือกเมล็ด พันธุ์ที่จะปลูก เช่น แครอท ผักบุ้ง บร็อกโคลี่ ฯลฯ จากนั่นให้ลูกเตรียมดิน พรวนดิน หว่านเม็ดพันธุ์ รดน้ำ และจดบันทึก การเจริญเติบโตทุกวัน และสังเกตเมล็ดผักที่ปลูกว่ากี่วันถึงเก็บมารับประทานได้

พาลูกออกไปเดินรอบบ้าน หรือสวนสาธารณะใกล้บ้าน สำรวจดูว่ามีต้นไม้ ดอกไม้ มีนก ผีเสื้อ หรือแมลงอะไรบ้าง  ลักษณะเป็นอย่างไร ให้ลูกจดบันทึกเก็บไว้เป็นความรู้ และนำไปต่อยอดการเรียนรู้ในห้องเรียนได้ด้วย

กิจกรรมนอกบ้านสำหรับเด็ก ยังมีอีกหลากหลายกิจกรรม เช่น เตะฟุตบอล ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน รดน้ำต้นไม้ เล่นเป่าฟองสบู่  ล้างรถ หรือกิจกรรมทำผ้ามัดย้อม ฯลฯ ซึ่งกิจกรรมนอกบ้านเหล่านี้ใช้เวลา 60 นาที ในการเล่นเลอะเรียนรู้ ก็สามารถช่วยส่งเสริมให้ลูกมีพัฒนาการ และทักษะรอบด้านที่ดีแล้วค่ะ

อยากให้ลูกออกห่างจากโลกโซเซียล ไม่เป็นเด็กติดจอ การเลี้ยงลูกนอกบ้านวันละ 60 นาทีช่วยได้มากค่ะ ดังนั้นไม่ควรปล่อยโอกาสที่จะพาลูกออกไปเปิดโลกกว้าง เปิดมุมมองใหม่ๆ นอกบ้าน เพื่อเป็นการเสริมสร้างพัฒนาการ กระตุ้นทักษะรอบด้านให้กับลูกได้เติบโตขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพและศักยภาพกันนะคะ

สนับสนุนเรื่องยิ่งเลอะ ยิ่งเยอะประสบการณ์ให้ลูก คลิก Breeze.co.th/ยิ่งเลอะยิ่งเยอะประสบการณ์

 

 

 

เครดิต : today.line.me , WHO , thaipost