การ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน เป็นหนึ่งในหน้าที่ของลูกที่ดีที่ควรทำ ซึ่งคุณแม่ท่านนี้จึงมีไอเดียชวนลูกทำงานบ้าน ด้วยการเขียนกระดาษโน้ต แบบน่ารักๆ อ่านเข้าใจง่าย เพื่อให้ลูกทำตามได้
เพราะเรื่องงานบ้าน หากพ่อแม่ไม่สอนลูกตั้งแต่เล็กๆ ก็อาจทำให้ลูกคิดว่าเป็นหน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่งในครอบครัว แต่แท้จริงแล้ว เป็นเรื่องของทุกคนในบ้านต่างหากไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ และเจ้าตัวน้อย เพราะการที่คนภายในบ้านช่วยกันทำงานยังจะช่วยให้เกิดความสามัคคีภายในบ้านขึ้นอีกด้วย
แม่ไอเดียดี! ฝึกให้ลูก ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ด้วยการเขียนโน้ตมอบหมายงาน หลังลูกกลับจากโรงเรียน
การมอบหมาย “หน้าที่ให้เด็กร่วมรับผิดชอบ” ภายในบ้านเป็นวิธีในการปลูกฝัง และสร้างวินัยที่ดีที่สุด ดังนั้น แนวคิดที่ว่า “ลูกมีหน้าที่เรียน ก็เรียนอย่างเดียว งานบ้านไม่ต้องทำอะไรเลย” จึงเป็นแนวคิดที่ไม่ถูกต้อง
หรือ การใช้ให้ลูกทำงานบ้าน แบบให้ทำตามที่พ่อแม่สั่ง โดยไม่ได้มอบหมายหรือตกลงกันเป็นกิจจะลักษณะ ก็ไม่ใช่ทางออกอีกเหมือนกัน เพราะการสอนลูกรักให้รู้จักช่วยงานบ้าน แม้ว่าจะเป็นงานเล็กๆน้อยๆ ก็จัดว่าเป็นโอกาสทองให้ลูกได้เพิ่มความภาคภูมิใจ ฝึกหน้าที่ ฝึกความรับผิดชอบ และฝึกให้ลูกได้เรียนรู้การใช้ชีวิตได้เป็นอย่างดี
การที่จะสอนให้เด็กรู้จักช่วยทำงานบ้านสามารถสอนกันได้ตั้งแต่เล็ก ๆ ช่วงแรก ๆ เด็กอาจจะยังช่วยอะไรไม่ได้มากนัก แต่การให้เด็ก ๆ เข้ามามีส่วนร่วมจะสอนเด็กในเรื่องความมีน้ำใจ ในเรื่องการรับผิดชอบ รวมถึงเริ่มฝึกทักษะพื้นฐานง่ายๆ ก่อน เช่น การจัดเก็บของเล่นลงในตะกร้าให้เรียบร้อย แล้วเราค่อย ๆ สอนพร้อมมอบหมายงานให้มากขึ้น ตามอายุที่มากขึ้นไปด้วย
การให้ช่วยงานตั้งแต่เล็กและอย่างสม่ำเสมอจะทำให้เด็กคุ้นชิน และรู้สึกว่านั่นก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่คนเราต้องทำ ต้องรับผิดชอบ และที่สำคัญคุณพ่อคุณแม่ต้องทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีให้เด็กเห็นด้วยนะคะ ระวังอย่าทำให้เด็กเกิดทัศนคติที่ไม่ดีต่อการทำงานบ้านเพราะได้ยินคุณพ่อคุณแม่บ่นหรืออิดออดกับการต้องทำงานบ้านเชียวนะคะ
และเพื่อให้คุณพ่อคุณแม่นึกภาพได้ออก ว่าจะตั้งหลักมอบหมายหน้าที่งานบ้านอย่างไรให้ลูกดี Amarin Baby & Kids มีตัวอย่างน่ารักๆ จากคุณแม่ท่านหนึ่งมาฝากค่ะ โดย คุณแม่นู๋นู๋ และลูกหมูทั้งสี่ ได้โพสต์ภาพกระดาษโน้ตที่เขียนถึงหน้าที่ที่ลูกๆ ต้องทำหลังกลับจากโรงเรียนไว้พร้อมแคปชั่น ว่า…
เดี๋ยวหม๊าไปทำฟัน
ฝากป๊าเช็คลูกทำตามนี้ให้เรียบร้อยนะจ้ะ
จะรอดไหม???เดี๋ยวกลับมาตรวจการบ้าน หึหึ 😏
จริงๆเป็นกติกาที่เขียนให้เด็กทำ
ตกลงกันอยู่แล้วตั้งแต่เปิดเทอมค่ะ
แต่วันนี้มาวาดรูปแปะให้พวกนางใหม่อีกรอบ
ใบเก่าหลุดหมดละ♥
ถ่ายลงเป็นบันทึกไว้ ตามประสามนุษย์แม่นะ^^
ฝากด้วยนะป่ะป๊า สู้ๆ เดี๋ยวมาจ้าาาา
อ่านต่อ >> เทคนิคให้ลูกทำงานบ้านโดยไม่ต้องออกคำสั่ง! คลิกหน้า 2
อ่านต่อ “บทความน่าสนใจ” คลิก!
- ผลวิจัยชี้! เด็กที่ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน มีแนวโน้มประสบความสำเร็จในชีวิตและมีนิสัยที่ดี
- สุดเจ๋ง!! วิธีสอดแทรก “งานบ้าน” ให้ลูกช่วยทำ ผ่อนแรงคุณแม่และฝึกวินัยเชิงบวกไปในตัว
- งานบ้านแบบไหน วัยนี้ทำได้
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
และนี่คือโฉมหน้า หนูน้อยทั้ง 3 คนที่คุณแม่นู๋นู๋ ได้เขียนโน้ตพร้อมฝากให้คุณพ่อช่วยดูแล ซึ่งคุณแม่นู๋นู๋ เป็นคุณแม่ลูก 4 ส่วนน้องคนเล็กยังไม่ได้เข้าโรงเรียนจึงไม่มีชื่อในกระดาษโน้ตมอบหมายงานสุดน่ารักแบบนี้ แต่ทางคุณแม่เองก็พยายามฝึกน้องคนสุดท้องของบ้าน ให้หัดช่วยงานบ้านอยู่นิดๆ หน่อยๆ บ้างแล้ว เท่าที่เด็ก 2 ขวบจะทำได้ เพื่อเป็นการฝึกไว้ ตอนโตลูกจะได้ทำเป็นนั่นเอง
ขอบคุณข้อมูลและภาพจากคุณแม่นู๋นู๋ : Kirin plus Thailand ตุ๊กตาคาดเข็มขัดนิรภัยสำหรับเด็ก
การมอบหมายงานบ้านให้ลูกน้อย
จะเห็นได้ว่า การสอนให้ลูกทำงานบ้านนั้น เรียกได้ว่าเป็นการสอนความรับผิดชอบมากกว่า ซึ่งงานที่มอบหมายให้ก็ไม่ควรเป็นงานที่หนักมากจนเกิดไปขึ้นอยู่ตามลำดับอายุของลูกคุณ นอกจากจะฝึกความรับผิดชอบแล้ว ต้องทำให้เด็กได้ออกกำลังกาย ได้ฝึกใช้กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ให้คล่องแคล่วขึ้น ในขณะเดียวกัน ก็ยังสร้างความมั่นใจให้เด็กๆ อีกด้วย
โดยมอบหมายงานให้ลูกนั้น ก่อนจะที่ให้ลูกทำ พ่อแม่ควรเริ่มสังเกตก่อนลูกของคุณว่าสนใจอะไรก่อน นอกเหนือจากงานที่ลูกต้องทำเป็นประจำเพราะเป็นเรื่องของตัวเองที่ต้องฝึกรับผิดชอบ เช่น บางคนชอบกวาดบ้าน และขณะที่อีกคนชอบ งานประเภทล้างจาน ล้างรถ เพราะเมื่อเด็กได้ทำในสิ่งที่ตัวสนใจแล้ว เด็กจะตั้งใจทำงาน และส่งผลให้งานออกมาดี
เมื่อคุณพ่อคุณแม่มอบหมายงานให้ลูกแล้ว ช่วงระยะแรกก็ควรสอนวิธีทำงานที่ถูกวิธีให้เด็ก เช่น ถูบ้านควร ถูถอยหลัง จะได้ไม่เหยียบส่วนที่ถูไว้แล้ว ล้างจาน ล้างยังไงให้สะอาด ล้างกี่น้ำ เป็นต้น กำหนดเวลาที่ลูกควรทำงานบ้าน เช่น ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ หลังจากที่ลูกตื่นนอนล้างหน้าแปรงฟันแล้ว ก็ต้องทำหน้าที่ที่ตัวเองได้รับมอบหมายให้เสร็จก่อน ก่อนที่จะดูทีวีหรือออกไปเล่นกับเพื่อนๆ
ซึ่งวิธีการนี้จะฝึกความรับผิดชอบของลูกได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเด็กจะรู้สึกว่าหากทำงานของตัวเองเสร็จเรียบร้อยแล้ว พ่อแม่จะอนุญาตให้ไปเล่นสนุกหรือดูทีวีในวันหยุดได้ จึงเป็นการฝึกให้ลูกรู้จักหน้าที่ของตนเองนั่นเองค่ะ
เทคนิคให้ลูก ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน โดยไม่ต้องออกคำสั่ง!
1. เป็นตัวอย่างให้ดู
เด็กต้องการรู้อย่างแน่ชัดว่าเราคาดหวังให้พวกเขาทำอะไร และที่สำคัญต้องทำให้เห็นว่างานที่เรามอบหมายนั้นทำอย่างไร สำหรับเด็กเล็กช่วงแรกๆเราอาจจะต้องติดตามดูอย่างใกล้ชิด และพร้อมให้ความช่วยเหลือเพื่อให้เขาประสบความสำเร็จในงานที่ได้รับมอบหมาย แล้วจึงค่อยๆถอยห่างเมื่อเขาโตขึ้นหรือคุ้นชินกับงานมากขึ้น
2. อธิบายให้รู้แจ้ง
ลูกควรได้รับรู้ถึงประโยชน์และความสำคัญของการช่วยทำงานบ้าน คุณพ่อคุณแม่ควรอธิบายให้ลูกเข้าใจว่างานบ้านเป็นงานที่สมาชิกในครอบครัวทุกๆคนต้องช่วยกันทำและช่วยกันรับผิดชอบ เพื่อให้การดำเนินไปของชีวิตในบ้านเป็นไปอย่างราบรื่นและมีความสุข
3. ค่อยๆ สอนทีละเรื่อง
ควรค่อยๆ ฝึกหัดสอนให้ลูกทำงานทีละอย่าง สอนวิธีทำตั้งแต่ต้นจนจบ ติดตามจนแน่ใจว่าเขาทำได้ และทำได้อย่างสม่ำเสมอ ก่อนที่จะสอนงานอื่นต่อไป เด็กเล็กจะเกิดความสับสนเป็นอย่างมาก หากเราพยายามจะสอนพวกเขาหลายๆเรื่องพร้อมๆ กัน
อ่านต่อ >> เทคนิคให้ลูกทำงานบ้านโดยไม่ต้องออกคำสั่ง! คลิกหน้า 3
อ่านต่อ “บทความน่าสนใจ” คลิก!
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
4. แจกแจงขั้นตอนการทำงาน
การสอนงานให้เด็กๆควรจะแจกแจงขั้นตอนและรายละเอียดให้ชัดเจน เช่นการมอบหมายให้ลูกดูแลห้องนอนตัวเอง ก็ให้รายละเอียดของงานที่จะต้องทำตั้งแต่การเก็บเตียงพับเก็บผ้าห่มให้เรียบร้อย เก็บของเล่นหรือของใช้ให้เข้าที่เข้าทาง ถ้าเด็กโตหน่อยก็อาจจะเริ่มทำความสะอาดเอง อาจจะเริ่มจากส่วนเล็กๆแค่บนโต๊ะหรือชั้นวางของ แล้วค่อยๆเพิ่ม เมื่อโตขึ้นก็รับผิดชอบการปัดกวาดเช็ดถูเองทั้งหมด
5. ปรับเปลี่ยนบทบาทและหน้าที่ให้เหมาะกับวัย
เมื่อลูกโตขึ้นคุณพ่อคุณแม่ก็ต้องปรับเปลี่ยนหรือมอบหมายงานที่มากขึ้นหรือสำคัญมากขึ้น เด็กจะรู้สึกท้าทาย และจะรู้สึกภูมิใจหากสามารถทำได้สำเร็จ แต่ต้องระวังนะคะ มอบหมายงานให้เหมาะกับวัยและความสามารถของลูกเท่านั้นนะคะ อย่าให้มากหรือน้อยเกินไป
วัยไหน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน อะไรดี?
⇒ สำหรับลูกวัย 2 – 3 ขวบ = ควรเริ่มจาก ฝึกให้เด็กเก็บของเล่นใส่ตะกร้าหรือกล่องใส่ของเล่นเมื่อเล่นเสร็จ เก็บหนังสือเข้าที่ ช่วยวางช้อนส้อม ผ้าเช็ดปาก ผ้าเช็ดมือ บนโต๊ะอาหาร สอนให้เขานำผ้าที่จะซักใส่ลงตะกร้า ใส่เครื่องซักผ้า และให้เขาลองหัดพับผ้าเช็ดตัวผืนเล็กๆ และปลูกฝังวินัยทิ้งขยะให้ลงถัง
⇒ สำหรับลูกวัย 4-6 ขวบ = ลูกวัยอนุบาลควรฝึกให้ลูกรู้จักการแบ่งปัน เริ่มจากการให้อาหารสัตว์เลี้ยง และปลูกฝังการสร้างวินัยในตนเองด้วยการ เป็นผู้ช่วยคุณแม่ทำงานบ้านง่ายๆ อย่าง เก็บเครื่องนอนของตัวเอง ที่นอน หมอน พับผ้าห่ม เก็บของเล่นเข้าที่ และฝึกความรับผิดชอบเพิ่มขึ้น เช่น ให้ลูกเป็นคนเตรียมอาหารว่างหรือขนมคบเคี้ยว หรือหลังรับประทานอาหารเสร็จ อาจให้ลูกช่วยเก็บจาน แก้วน้ำ และทำความสะอาดโต๊ะอาหาร
⇒ สำหรับลูกวัย 6-7 ขวบ = เมื่อถึงวัยนี้ลูกเริ่มโตและมีความรับผิดชอบมากขึ้น คุณพ่อ คุณแม่ อาจให้ลูกรับผิดชอบทำความสะอาดบ้านเล็กๆ น้อยๆ เช่น เก็บกวาดบ้าน ถูบ้าน เก็บผ้า พับผ้า เปลี่ยนกระดาษชำระในห้องน้ำ ช่วยคุณแม่ล้างถ้วยชามเมื่อรับประทานอาหารเสร็จแล้ว หรืออาจจะให้ลูกเป็นผู้ช่วยตัวน้อย ช่วยคุณแม่ลงมือทำอาหาร ซึ่งอาจจะเริ่มจากขั้นตอนง่ายๆ เช่น ให้ลูกช่วยปอกเปลือกมันฝรั่ง หรือ แครอท หรือลงมือทำเมนูง่ายๆ อย่าง สลัด
⇒ สำหรับลูกวัย 8- 11 ปี = เมื่อถึงวัยนี้ควรให้ลูกรับผิดชอบตัวเองได้มากขึ้น เช่น มอบหมายให้ลูก รับผิดชอบงานบ้าน ที่ยุ่งยากมากขึ้น เช่น ล้างจาน ซักผ้า ตากผ้า พับผ้า ทำความสะอาดบ้านเรือน ตลอดจนดูแล จัดเก็บห้องนอนของตัวเองด้วย ทำงานสวนเล็กๆน้อย ตัดหญ้า รดน้ำต้นไม้ เดินไปเก็บจดหมาย หรือ แผ่นปลิวโฆษณาที่เสียบไว้ที่ประตูรั้ว หรือช่วยจดข้อความที่ฝากไว้ ช่วยคุณแม่ทำอาหาร ทำขนมในเมนุที่ซับซ้อนขึ้นมาอีกหน่อย และให้เขาได้ลองเตรียมอาหารมื้อง่ายๆ ถ้าลูกเป็นเด็กผู้หญิงอาจเริ่มสอนให้เขารู้จักซ่อมแซมเสื้อผ้าที่ขาดเล็กๆน้อย ไม่ยุ่งยาก เช่น เย็บรอยขาดจุดเล็กๆ หรือซ่อมกระดุม เป็นต้น
⇒ สำหรับลูกวัย 12 ปีขึ้นไป = วัยนี้เป็นวัยที่ลูกโตพอที่จะรู้จักช่วยเหลือตัวเอง คุณพ่อ คุณแม่ อาจมอบหมายให้เขาให้รับผิดชอบเรื่อง งานบ้าน ได้หลายหลายประเภทมากขึ้นค่ะ แต่อย่างไรก็ดี คุณพ่อ คุณแม่ ควรดูแล และคอยระวังเรื่องการใช้อุปกรณ์ต่างๆ ที่อาจเป็นอันตราย ซึ่งอาจเริ่มจากให้ลูกไปซื้อของที่ร้านขายของชำ ไปจ่ายตลาด เตรียมอาหารเย็น เปลี่ยนหลอดไฟเพดาน รีดผ้า ดูแลน้อง ทำงานสวน รดน้ำต้นไม้ ตัดตกแต่งแนวพุ่มไม้ ช่วยคุณพ่อล้างรถ ทำความสะอาดบานหน้าต่าง ทาสี และซ่อมแซมงานบ้านเล็กน้อยๆ ที่สำคัญควรชมเชยในความพยายามของลูกแม้บางครั้งเขาอาจยังทำได้ไม่ดีพอก็ตาม
6. จัดทำตารางการทำงานและผู้รับผิดชอบ
รวมทั้งการให้รางวัล ถ้าลูกโตพออาจจะชวนกันทำตารางการทำงานและผู้รับผิดชอบ รวมทั้งการบันทึกผลการทำงาน แล้วก็ช่วยกันตั้งเกณฑ์ของการได้รับรางวัลรวมถึงการตั้งรางวัลด้วย รางวัลที่ว่าอาจจะไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งของ อาจจะเป็นการได้ไปเที่ยวด้วยกัน การได้นอนดึกมากขึ้นในวันหยุด สำหรับเด็กเล็กเราอาจประเมินและให้รางวัลกันรายวัน แต่ถ้าเด็กโตก็อาจจะเป็นรายสัปดาห์หรือรายเดือน
7. อย่าจุกจิกจู้จี้ขี้บ่น
มอบหมายงานและความรับผิดชอบให้เหมาะสมกับวัยของลูก อธิบายให้ชัดเจนถึงวิธีการทำงาน และตกลงกันถึงกฎกติกาของครอบครัว หากลูกไม่รักษาหน้าที่ก็อย่าใช้วิธีจิกบ่นให้ทำ แต่ใช้การลงโทษตามที่ได้ตกลงกันไว้
และสุดท้าย ควรชื่นชมลูกทุกครั้งเมื่อลูกทำงานสำเร็จ หรือรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย สิ่งสำคัญคือคุณพ่อคุณแม่อย่าลืมแสดงความชื่นชมลูกด้วยนะคะ ควรดูที่ความพยายามของลูกที่จะทำงานที่ได้รับมอบหมาย อย่าไปเน้นที่ผลของงานโดยเฉพาะกับลูกเล็กๆ นั้นก็จะช่วยให้ลูกรู้สึกดีกับงานที่ทำและอยากทำอีกเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตามเชื่อว่า พ่อแม่ทุกคนคงคาดหวังให้ลูกเติบโตเป็นคนดี รู้จักรับผิดชอบต่อสังคม และเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพไม่ได้เลยนะคะ ถ้าพวกเขายังไม่สามารถรับผิดชอบและดูแลชีวิตของตัวเองได้ หรือไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทำงาน ซึ่งบางอย่างที่ไม่อยากทำแต่จำเป็นต้องทำเพราะนั้นเป็นหน้าที่ และการรักษาหน้าที่ของตนก็จะทำให้เขาได้รับรางวัลหรือผลดีจากการกระทำนั้นๆ นั่นเองค่ะ
อ่านต่อ “บทความน่าสนใจ” คลิก!
- ถ้าลูกทำการบ้านไม่เสร็จ ให้ฝึกลูกรับผิดชอบชีวิตตัวเองใหม่!
- ชีวิตลูก ต้อง (ฝึกให้) ลูกรับผิดชอบเองได้
- ฝึก “วินัย” ลูก ให้ความสามารถนำทางชีวิตด้วยตัวเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก : kruwantida.blogspot.com , women.mthai.com