การเล่นและของเล่นกับเด็กเป็นสิ่งที่คู่กัน “ของเล่น” เปรียบเสมือนเป็น “เพื่อนรัก” ที่เป็นคู่กันมาตั้งแต่วัยเบบี๋ นอกจากเป็นกิจกรรมที่ทำให้ลูกได้ความสนุกสนานเพลิดเพลินจากการได้เล่นแล้ว ยังทำให้เด็กได้เรียนรู้ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรอบตัว ซึ่ง ของเล่นเสริมพัฒนาการ ยังมีหลายประเภทที่เหมาะสมกับช่วงวัย ที่จะช่วยเพิ่มทักษะการเรียนรู้ เพิ่มพูนประสบการณ์ เติมพัฒนาการในด้านต่าง ๆ ให้กับเจ้าตัวน้อยได้ดียิ่งขึ้น โดยจะเห็นได้ว่าของเล่นในปัจจุบันนี้มีมากมายหลายอย่างที่จัดมาให้เด็ก ๆ ได้เล่น
ของเล่นอาจแบ่งได้เป็น 3 ประเภทด้วยกัน คือ
#ของเล่นจากธรรมชาติ
คือการได้เล่นหยิบจับวัสดุจากธรรมชาติใกล้ตัว เช่น ดิน น้ำ ทราย การปล่อยให้ลูกได้เล่นกับธรรมชาติจะช่วยพัฒนาการทางร่างกายและสมองให้เติบโตขึ้นได้อย่างรวดเร็ว เช่น การปั้นดิน เล่นทรายจะช่วยพัฒนาทักษะทางด้านมือ นิ้ว จินตนาการ ฯลฯ และส่งเสริมให้ลูกได้เรียนรู้จักแยกแยะความแตกต่างของพื้นผิววัตถุ หยาบ ละเอียด เหนียว สีจากวัตถุธรรมชาติ ฯลฯ ว่าเป็นอย่างไร ซึ่งข้อดีของของเล่นธรรมชาติคือปลอดภัยจากสารปนเปื้อนที่เป็นพิษน้อย ราคาไม่แพง คุณพ่อคุณแม่สามารถหาของเล่นจากธรรมชาติใกล้ตัว เช่น กิ่งไม้ หิน เปลือกหอย หรือใบไม้ มาประดิษฐ์เป็นของเล่นให้กับเจ้าตัวเล็กได้ง่าย ๆ
#ของเล่นที่ทำจากวัตถุสังเคราะห์
เช่น หุ่นยนต์ รถยนต์ ตุ๊กตา ยางกัด ตัวต่อ ฯลฯ ที่สร้างสรรค์ออกมาเพื่อตอบสนองความต้องการของเด็ก ๆ ได้ทุกเพศทุกวัย ข้อดีของของเล่นชนิดนี้คือ สีสันที่สดใสซึ่งจะช่วยกระตุ้นความสนใจ มีเสียงดนตรีกรุ๊งกริ๊ง ให้เจ้าตัวน้อยได้ใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้า ทั้งนี้การเลือกของเล่นจากวัตถุสังเคราะห์ คุณพ่อคุณแม่ควรพิจารณาคุณสมบัติ คำอธิบายจากตัวสินค้า โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัย เพราะในขณะที่ผู้ผลิตของเล่นต่างแข่งขันผลิตออกมาขายจำนวนมาก หากของเล่นไม่ได้คุณภาพ มีสารปนเปื้อนที่เป็นอันตรายตกค้างบนผิวของเล่น เมื่อลูกนำมาเล่นก็อาจส่งผลต่อร่างกายและผลต่อพัฒนาการที่จะตามมา ดังนั้นไม่ควรตัดสินใจเลือกซื้อของเล่นให้ลูกเพียงเพราะคิดว่ามันน่าจะดีเท่านั้น
#ของเล่นเสริมทักษะและพัฒนาการ
ของเล่นชนิดนี้จะช่วยเสริมพัฒนาการในหลาย ๆ ด้านทั้งทางร่างกาย สมอง รวมถึงกระตุ้นประสาทสัมผัสทั้งห้า เช่น แฟลชการ์ด เลโก้ ตัวต่อ ของเล่นที่มีเสียง ชุด DIY ชุดอาชีพ แป้งโดว์ ฯลฯ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ควรเลือกของเล่นให้เหมาะกับวัยของลูกเพื่อเสริมพัฒนาการได้ตามวัย เช่น
- อายุแรกเกิด– 6 เดือน ควรเลือกของเล่นที่มีสีสันสดใส และมีเสียง อย่างเช่น โมบายล์ การแขวนของเล่นที่สดใส แกว่งไกว มีเสียงกรุ๊งกริ๊ง จะช่วยฝึกการมองเห็นและการฟัง พัฒนาระบบประสาทสัมผัสของลูกให้ดียิ่งขึ้น
- อายุ 6 เดือน – 1 ขวบ ของเล่นสำหรับวัยนี้ยังคงเป็นอะไรที่มีสีสันเพื่อหัดแยกแยะสีและรูปร่าง หยิบจับได้พอดีมือเพื่อเสริมพัฒนาการด้านการประสานสัมพันธ์ระหว่างสายตากับมือ และของเล่นที่เคลื่อนที่ได้ช่วยเสริมพัฒนาการร่างกายให้ขยับเคลื่อนไหว
- อายุ 1 ปี – 2 ปี ควรเลือกของเล่นที่ให้ลูกลากจูงไปมาเองได้ หรือลูกบอล ให้ลูกได้เดิน วิ่ง อย่างอิสระ เพื่อเสริมพัฒนาการด้านกล้ามเนื้อ การทรงตัว แขนขา
- อายุ 2- 4 ปี ให้ลูกได้ลองเล่นบัตรภาพ บล็อกไม้ แป้งโดว์ เกมปริศนาง่าย ๆ เพื่อเสริมทักษะความคิด เติมจินตนาการ
บทความแนะนำ : การเลือกของเล่นเพื่อส่งเสริมพัฒนาการเด็ก
จากการสำรวจสถานการณ์เด็กและสตรีในประเทศไทยโดยสำนักงานสถิติพบว่าร้อยละ 75.6 ของเด็ก อายุประมาณ 0-4 ปี จะมีของเล่นที่เล่นในบ้านอย่างน้อย 2 ประเภท จากของเล่น 3 ประเภทที่ในแบบสอบถามได้แบ่งเป็น ของเล่นที่ทำขึ้นเองภายในบ้าน เช่น ตุ๊กตา รถยนต์ ของเล่นจากร้านค้า และของเล่นที่เป็นสิ่งของเครื่องใช้ในครัวเรือน เช่น ชาม จาน ถ้วย หม้อ หรือของเล่นที่เป็นสิ่งของที่พบนอกบ้าน เช่น กิ่งไม้ หิน เปลือกหอย หรือใบไม้ โดยมากกว่าร้อยละ 90 จะเป็นของเล่นที่มาจากร้านค้า ซึ่งความจริงแล้วการเสริมพัฒนาการี่ดีจากการเล่น “ของเล่น” สำหรับลูกนั้นอาจไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ราคา เพียงแต่ให้ลูกได้มีของเล่นที่หลากหลาย และได้มีประสบการณ์การเล่นที่ส่งเสริมพัฒนาการรอบด้าน
อ่านต่อ ของเล่นธรรมชาติ ไม่สำเร็จรูป แต่เสริมพัฒนาการได้เยี่ยม คลิกหน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
ของเล่นธรรมชาติ ของเล่นเสริมพัฒนาการ ที่ไม่สำเร็จรูป
แต่มหัศจรรย์ต่อลูกน้อย
ของเล่นจากธรรมชาติใกล้ตัวที่คุณพ่อคุณสามารถประดิษฐ์ของเล่นขึ้นมาได้เอง หรือประยุกต์ไช้จากที่เป็นสิ่งของเครื่องใช้มาเป็นของเล่น ก็สามารถตอบโจทย์ในด้านการเสริมพัฒนาการรอบด้านให้กับเจ้าตัวเล็กได้ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยทำให้เด็กได้เรียนรู้การใช้สัญลักษณ์ การส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์จินตนาการ เกิดการเชื่อมโยงความคิดกับประสบการณ์ที่ผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้า ได้แก่ การสัมผัส การชิม การดมกลิ่น การได้ยิน และการเห็น จะทำให้เด็กเรียนรู้ว่าสิ่งต่าง ๆ รอบตัว มีขนาดเล็ก ใหญ่ ใกล้ ไกล ยาว สั้น ต่างกันอย่างไร สามารถจัดเรียง เปรียบเทียบ จับกลุ่ม ประมาณ ปริมาณ รู้จักมิติ การนับ การวัด และเชื่อมโยงสู่ทักษะเรื่องของการเรียนรู้คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ซึ่งของเล่นจากธรรมชาติหรือจากสิ่งของใช้ใกล้ตัว จะช่วยเสริมพัฒนาการให้ลูกใน 4 ด้าน ได้แก่
1.เสริมพัฒนาการสมอง
- ของเล่นที่มาจากธรรมชาติ เช่น ไม้ หิน ทราย น้ำ จะช่วยทำให้เด็ก ๆ ได้พื้นฐานความเข้าใจตัวเลข และวิทยาศาสตร์ เช่น รู้จักว่าน้ำเป็นของเหลว และเมื่อเจอความเย็นสามารถแปลงเป็นน้ำแข็งได้ น้ำสามารถใส่ในภาชนะรูปแบบต่างกัน เป็นต้น
- การเล่นของเล่นไม้ เช่น บล็อกไม้ก็สามารถทำให้เด็กเรียนรู้มิติ การควบคุมกล้ามเนื้อมือ และเกิดสมาธิในการเล่น เป็นพื้นฐานของการพัฒนาตรรกะ ความเป็นเหตุเป็นผล
2.เสริมจินตนาการ
- โดยมากของเล่นเสริมจินตนาการควรประกอบกับการใช้นิทาน ใช้เพลง เช่น การเล่นบทบาทสมมติ การเล่นตุ๊กตา พ่อแม่ลูก การเล่นขายของ ซึ่งจะช่วยพัฒนาทักษะภาษาและสะท้อนความคิดด้านอารมณ์ของเด็กขณะเล่นให้คุณพ่อคุณแม่รับรู้ได้
- ของเล่นจากศิลปะ เช่น การวาดภาพ การปั้น การฉีก ตัด แปะ การวาดภาพบนกระบะทราย การวาดภาพในอากาศ การใช้น้ำวาดภาพบนกระจก การใช้นิ้ววาดภาพแทนพู่กัน การเล่นแป้งโตว์
- การเล่นเข้าจังหวะ ของเล่นเครื่องดนตรี เคาะ ตี เป่า ที่ช่วยพัฒนาทักษะในหลาย ๆ ด้าน ยังมีประโยชน์โดยตรงต่อพัฒนาการทางสมอง อารมณ์ ร่างกาย และจิตใจ ซึ่งเป็นส่วนหลัก ๆ ที่สำคัญ ในการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพด้วย
3.เสริมสร้างความแข็งแรงและภูมิต้านทานของร่างกาย
- การเล่นลูกบอล การปีนป่าย การวิ่งหลบสิ่งกีดขวาง การฝึกการวิ่งระยะสั้น จะช่วยให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้การเคลื่อนไหวอย่างอิสระ
- การเล่นวิ่งเปรี้ยว เพื่อให้ร่างกายได้เคลื่อนไหว และช่วยประสานการทรงตัว
- การเล่นน้ำ/ ว่ายน้ำ จะช่วยให้เด็กเรียนรู้การลอยตัว มีทักษะป้องกันตัวเองจากการจมน้ำ ทั้งนี้เด็กเล็กก็ควรมีผู้ใหญ่ดูแลอย่างใกล้ชิด
- การเล่นแปะแข็ง เก้าอี้ดนตรี โดยใช้ดนตรีผสมผสาน
4.เสริมพัฒนาการด้านอารมณ์ สังคม
- การเล่นเกมส์ที่ต้องให้เด็กเข้าแถว สลับกันเล่น จะทำให้เด็ก รู้จักการรอคอย
- การเล่นของเล่นที่ต้องใช้ผู้เล่นมากกว่า 2 คนขึ้นไปจะทำให้เด็กรู้จักการแบ่งปัน รู้จักความมีน้ำใจ เรียนรู้การแพ้การชนะ
จะเห็นได้ว่าของเล่นไม่ว่าจะเป็นประเภทไหน ราคาเท่าไหร่ ต่างก็มีผลลัพธ์ที่จะช่วยเสริมพัฒนาการลูกได้ไม่แตกต่างกัน แต่ของเล่นสำหรับลูกที่ดีที่สุดนั่นคือ “พ่อแม่” นะคะ โดยเฉพาะในช่วงวัย 0-3 ปี คุณพ่อคุณแม่อาจไม่ต้องซื้อของเล่นใด ๆ เลย เพียงแค่ใช้ตัวเองเป็น “ของเล่น” ของลูก ใช้เวลาเล่นกับเจ้าตัวน้อย ทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน หรือจะเลือกของเล่นจากธรรมชาติจากสิ่งแวดล้อมใกล้ตัว และที่สำคัญคือ การมอบความรักให้ลูก เท่านี้ก็เป็น “ของเล่นธรรมชาติที่เสริมพัฒนาการ” ชิ้นที่มหัศจรรย์ที่สุดให้กับเจ้าตัวเล็กเลยละคะ
ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : www.unicef.org, www.honestdocs.co
อ่านต่อบทความที่น่าสนใจอื่นๆ :
ของเล่น เด็ก 6 ขวบ ที่ควรมีติดบ้าน ตัวช่วยเสริมพัฒนาการทั้ง IQ และ EQ
ของเล่น เด็ก 5 ขวบ เลือกซื้ออย่างไรให้ลูกเล่น เสริมความฉลาด
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่