5 นิทานคุณธรรม ปลูกฝังให้ลูกทำดีได้ตั้งแต่เล็ก!
นิทานเรื่อง “สอนลูกให้เป็นโจร”
มีแม่ลูกคู่หนึ่ง มีฐานะยากจน เพราะเป็นคนเกียจคร้าน ทุกครั้งที่ลูกแอบหยิบผลไม้หรือขนมของผู้อื่นมาบ้าน แทนที่แม่จะห้ามกลับชมว่าลูกเก่ง เมื่อลูกเติบโตขึ้นก็ลักขโมยของที่มีค่ามากขึ้นทุกที แม่ก็ไม่เคยห้ามปรามเลย เพราะสิ่งที่ขโมยมา ช่วยให้แม่ลูกคู่นี้มีกินใช้โดยไม่ต้องทำงาน จนในที่สุด ลูกไปขโมยเครื่องเพชรของเศรษฐีและถูกจับได้ ขณะที่เขากำลังถูกนำไปขังคุก แม่ของเขาเดินร้องไห้ แล้วบอกกับลูกว่า “ลูกเอ๋ย แม่เองควรจะถูกลงโทษแทนลูก เพราะแม่ เป็นคนสอนลูกให้เป็นโจร”… นิทานเรื่องนี้ ตรงกับหลักเบญจศีลข้อที่ 2 คือ ไม่ลักทรัพย์ หรือไม่เอาของผู้อื่นมาเป็นของตน การลักทรัพย์ นอกจากจะทำให้ผู้ที่ถูกลักทรัพย์ทุกข์ใจ ยังเป้นการทำผิดศีลอีกด้วย เด็ก ๆ จึงไม่ควรทำ นอกจากการปลูกฝัง คุณธรรม ผ่านหลักเบญจศีลแล้ว นิทานเรื่องนี้ ยังสามารถปลูกฝังให้ลูกรู้จักเคารพสิทธิและทรัพย์สินของตนเองและผู้อื่นได้อีกด้วย
นิทานเรื่อง “ลูกไก่ดื้อ”
แม่ไก่พาลูกไปคุ้ยเขี่ยหาอาหารและสอนลูก ๆ ว่า “อย่าไปใกล้ลำธารนะจ๊ะลูก ๆ จะตกน้ำตายเพราะไก่ว่ายน้ำไม่เป็น” ลูกไก่ตัวน้องอยากเห็นน้ำใสดูเป็ดลอยน้ำ จึงไปริมฝั่ง เห็นลูกเป็ดร้องชวนให้มาว่ายน้ำด้วยกัน ลูกไก่นึกสนุก ลืมคำสั่งของแม่ ก็กระโดดลงน้ำ แต่เพราะลูกไก่ว่ายน้ำไม่เป็นจึงจมน้ำลงไป ลูกเป็ดเห็นจึงมาช่วย ก็ยังช่วยให้ลูกไก่ขึ้นฝั่งไม่ได้ ลูกไก่ตัวพี่เห็นท่าไม่ดี จึงรีบไปบอกแม่ แม่ไก่จึงร้องเรียกแม่เป็ดช่วย แม่เป็ดใช้ปากดุนลูกไก่ไปที่น้ำตื้นจึงขึ้นตลิ่งได้ ลูกไก่เกือบตายเพราะไม่เชื่อฟังแม่ แต่โชคดีรอดตายเพราะลูกเป็ดและแม่เป็ดช่วย แม่ไก่และลูกไก่จึงขอบคุณแม่เป็ดและลูกเป็ดที่ช่วยชีวิตลูกไก่ไว้ได้ เมื่อฟังนิทานจบแล้ว ข้อคิดเตือนใจจากนิทานเรื่องนี้ คือ ความมีวินัย การที่ลูกไก่เกือบตายเป็นเพราะไม่เชื่อฟังพ่อแม่ เด็กที่เชื่อฟังพ่อแม่ เรียกว่าเป็นคนมีวินัย และรู้จักรับฟังเหตุผลของผู้อื่นด้วยสติ หากลูกไก่เชื่อฟังแม่ไก่ และคิดได้ว่าเหตุผลที่แม่ไก่สอนนั้นเป็นความจริงหรือไม่ หากเป็นความจริงก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่ทำตาม
นิทานเรื่อง “นกกระยางเจ้าเล่ห์”
นานมาแล้ว มีสระใหญ่แห่งหนึ่งอยู่ในป่า เป็นที่อาศัยของปลาน้อยใหญ่จำนวนมาก ต่อมาในฤดูแล้ง น้ำในสระได้แห้งขอดลง ปลาในสระไม่สามารถที่จะย้ายสระได้จึงได้แต่นอนรอความตายอยู่ที่นั่น
บังเอิญวันนั้น มีนกกระยางบินผ่านมาพอดี เจ้านกกระยางเกิดเปรี้ยวปากอยากกินปลา จึงคิดอุบายหาทางกินปลาอย่างง่าย ๆ โดยไม่ต้องลงไปไล่จับปลาให้ตัวเปื้อนโคลน แล้วมันก็นึกขึ้นได้ บินถลาลงไปเกาะขอบสระในทันที
“นี่เจ้านกกระยาง เจ้าเป็นอะไร ทำไมยืนหน้าเศร้าแบบนั้น” ปลาตัวหนึ่งเอ่ยถาม
“ข้าสงสารพวกเจ้านะซี อีกไม่นานก็ต้องตายเพราะน้ำในสระแห้งลงเรื่อยๆ” นกกระยางบอกเสียงสลด
“นั่นน่ะซี เมื่อก่อนก็มีน้ำเต็มสระ แต่ปีนี้มันแล้งจริงๆ พวกข้าก็ไม่รู้จะทำยังไง หนีไปไหนก็ไม่ได้” ปลาอีกตัวบ่น
“เอาอย่างนี้ไหมล่ะ” เจ้านกกระยางเริ่มแผนการ “เมื่อกี้ที่ข้าบินผ่านมา มีสระใหญ่อีกสระอยู่ตรงโน้น ดอกบัวบานสะพรั่ง น้ำใสเอ่อเต็มสระเลย ให้ข้าคาบพวกเจ้าไปปล่อยที่สระโน้นไหม”
“นี่ เจ้าเป็นนกกระยาง อาหารของเจ้าคือปลา แล้วพวกข้าจะเชื่อเจ้าได้ยังไงว่าเจ้าหวังดีจริงๆ” ปลาถามเพราะไม่แน่ใจ
“แหม! พวกเจ้านี่ ถึงคราวก่อนข้าจะเคยกินปลา แต่คราวนี้ข้าอยากจะช่วยพวกเจ้าจริงๆ …เอาอย่างนี้สิ เจ้าก็ส่งตัวแทนไปกับข้าตัวนึงก่อน ถ้าข้าพูดไม่จริง พวกเจ้าก็ไม่ต้องไป” นกกระยางเสนอทางออก
พวกปลารู้สึกพอใจกับเงื่อนไขนี้จึงประชุมกันอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็เลือกปลาหมอตัวที่แข็งแรงส่งไปเป็นตัวแทน
นกกระยางจึงคาบปลาหมอไปปล่อยที่สระแห่งหนึ่งให้มันเล่นน้ำจนพอใจแล้วจึงพากลับมา
“นี่เพื่อนๆ เจ้านกกระยางพูดถูกจริงๆ ที่สระโน้นนะ น้ำใสมาก ดอกบัวบานเต็มเลย แล้วก็รอบๆ ยังร่มรื่นมากอีกด้วย” ปลาหมอกลับมาคุยให้เพื่อนๆ ฟัง
“เห็นไหมล่ะ ทีนี้จะเชื่อข้าได้หรือยัง” นกกระยางสัมทับ
“ตกลง งั้นพวกข้าต้องพึ่งเจ้าแล้ว นกกระยาง ช่วงพาพวกเราไปส่งที่สระโน้นทีเถอะ” ปลาร้องขอ
“ได้ ข้าจะลงทุนคาบพวกเจ้าไปทีละตัวๆ” นกกระยางรีบตอบ
แต่หาเป็นเช่นนั้นไม่ แทนที่เจ้านกกระยางจะคาบปลาไปปล่อยที่สระ มันกลับบินลงที่ข้างสระแล้วจิกกินปลาอย่างเอร็ดอร่อย มันบินกลับไปกลับมาเช่นนี้จนกินปลาหมดสระ เหลือแต่ปูอยู่ 1 ตัว มันนึกอยากกินเนื้อปูดูบ้าง
“นี่เจ้าปู ให้ข้าคาบไปส่งไหม พวกปลาเขาไปกันหมดแล้ว” นกยางถาม
เจ้าปูรู้เล่ห์กลของนกกระยางดีจึงบอกว่า
“ก็ได้ แต่ให้ข้าหนีบคอเจ้าไปดีกว่า เพราะกระดองข้าแข็ง ถ้าให้เจ้าคาบไป มีหวังข้าได้หล่นกลางทางแน่”
“ตกลง” นกกระยางหลงกลเข้าบ้าง
เมื่อมาถึงสระใหญ่ มันบินลงที่ข้างสระเช่นเคย
“ทำไมไม่ไปปล่อยข้าที่สระล่ะ” เจ้าปูร้องถาม
“เรื่องอะไรข้าจะปล่อยเจ้า อุตส่าห์บินมาตั้งไกล ข้าอยากกินเนื้อปูตะหาก ฮ่าๆๆ” นกกระยางหัวเราะร่า
“เจ้าลืมอะไรไปหรือเปล่า ข้าหนีบคอเจ้าอยู่นะ” ปูเตือนความจำ
“รีบพาข้าไปปล่อยที่สระเดี๋ยวนี้ไม่งั้นข้าจะหนีบคอเจ้าจนตาย” เจ้าปูบอกพร้อมกับกระชับก้ามของมันที่คอของนกกระยาง
“โอ๊ยๆๆ รู้แล้วๆๆ” นกกระยางร้อง แล้วก็รีบเดินไปที่สระ
แต่เจ้าปูไม่ให้โอกาสมันรอดชีวิต มันหนีบคอนกกระยางจนขาดกระเด็น นกยางสิ้นใจตาย ณ ที่ตรงนั้นเอง
นิทานคุณธรรม เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า “ผู้ใช้ปัญญาหลอกลวงผู้อื่น ย่อมพบกับความทุกข์” การใช้ปัญญาของตนไปในทางที่สร้างสรรค์ ไม่เดือดร้อนผู้อื่น เป็นสิ่งที่ดี แต่หากนำปัญญาเหล่านี้ไปหลอกลวงผู้อื่น ก็อาจจะเจอผู้ที่มีปัญญามากกว่ารู้ทันได้ นอกจากคติสอนใจในการใช้ปัญญาหลอกลวงผู้อื่นแล้ว คุณพ่อคุณแม่ยังสอนได้อีกว่าไม่ควรหลงเชื่อผู้อื่นง่าย ๆ เหมือนปลาที่อยู่ในบ่อน้ำนี้
เด็กเล็กชอบฟังนิทานเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เด็กมักจะจำเรื่องราวในนิทานได้เป็นอย่างดีและยังชอบให้คุณพ่อคุณแม่เล่าซ้ำบ่อย ๆ อีกด้วย ดังนั้น การปลูกฝังคุณธรรมผ่านการเล่าเรื่องราวใน นิทานคุณธรรม จะช่วยสอนเด็ก ๆ ทางอ้อมถึงการทำสิ่งที่ถูกที่ควร สิ่งเหล่านี้จะเป็นพื้นฐานในการคิดและการตัดสินใจของลูกได้ในอนาคต ที่ลูกได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว
อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก
10 ทักษะสอนลูกให้เป็นคนดี มีศีลธรรม!
กรมอนามัยชี้! อ่านนิทานให้ลูกฟัง ช่วยเสริมพัฒนาการและสติปัญญา
12 นิทานอีสป เน้นข้อคิด! “สอนลูกให้ฉลาดทันคน รู้จักเอาตัวรอด”
สิ่งที่ต้องสอนลูกก่อนวัย 3 ขวบ เพื่อเตรียมตัวก่อนเข้าโรงเรียน
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.pecerathailand.org
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่