AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

อยากรู้ไหม? คนที่ มีลูกชาย เขารู้สึกกันอย่างไร?

มีลูกชาย ใคร ๆ เขาก็ว่าดี ไม่ต้องยุ่งยาก ไม่ต้องวุ่นวาย … ความจริงจะเป็นแบบนั้นหรือไม่ วันนี้ฉันจะมีอะไรมาบอก

 

 

ความในใจของคนเป็นแม่ที่ มีลูกชาย สู่ใครอีกหลาย ๆ ครอบครัวที่อยากมี บอกเลยทั้งมัน ทั้งฮา และทั้งเศร้าในเรื่องเดียวกัน

สวัสดีค่ะคุณพ่อคุณแม่ที่น่ารักทุกคน วันนี้ดิฉันมีความในใจที่เก็บไว้มานานเกี่ยวกับ ลูกชายของฉันมาฝากกัน ตอนนี้ลูกชายของฉันอายุได้  6 ปีแล้วละค่ะ เรียกได้ว่ากำลังซนจนถึงขั้น โค-ตะ-ระ ซนเลยละค่ะ ใคร ๆ ก็ว่านางเรียบร้อย หงุมหงิม … แต่อย่าเผลอนะคะ เพราะลูกชายของดิฉันจะเก็บรายละเอียดทุกเม็ด และเปิดเผยธาตุแท้เมื่อคุณเริ่มสนิทกับเขาทันที

ใช่ค่ะ ลูกชายของฉันเป็นลูกคนเดียว หน้าตาน่ะเหรอคะ จัดเข้าข่ายว่า หล่อ เท่ห์ แม้ฟันจะไม่ค่อยสวยก็ตามที (อย่างว่า ฟันเพิ่งหัก ขึ้นมาก็ยังไม่เข้าที่ เห็นทีอนาคตคงต้องเสียเงินจัดฟันกันอีกเป็นแน่)

กลับเข้าเรื่องของเรากันค่ะ ลูกชายของฉันคนนี้ มีความดุเด็ดเผ็ดมัน และแสบทรวงชนิดที่ทำเอาคนเป็นแม่อย่างฉันแทบอยากจะกรี๊ดใส่วันละหลาย ๆ รอบ ทำไมน่ะเหรอคะ …

 

มีลูกชาย แล้วเป็นอย่างไรน่ะเหรอคะ เอาเป็นว่าเรามาเริ่มเล่ากันตั้งแต่ตอนลืมตาตื่นนอนตอนเช้ากันเลยดีกว่าค่ะ … คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ ท่านที่มีลูก คงจะรู้กันอยู่แล้วใช่ไหมละคะว่า ความรู้สึกของคนเป็นพ่อแม่ที่ต้องคอยเคี่ยวเข็ญให้ลูกตื่นนอนมาทำกิจวัตรประจำวันให้เสร็จสิ้นนั้น ช่างยากเย็นแสนเข็ญขนาดไหน ถ้าเป็นผู้ใหญ่อย่างเรา ตื่นมาเราก็รู้ว่าต้องทำอะไร … สำหรับลูกชอบของดิฉันไม่ค่ะ!! แค่เรียกให้ตื่น ก็คลานและมุดไปใต้ผ้าห่ม แถมส่ายก้นดุ๊กดิ๊ก ๆ บอกไม่เอาจะนอนต่อ ซึ่งวิธีการขุดจากที่นอนของคนเป็นพ่อเป็นแม่ส่วนใหญ่ก็คือ การไล่เสียงหรือนับเลข (ไม่ใช่ว่าเรานับไม่เป็นนะคะ แต่เป็นเคล็ดลับหนึ่งที่พ่อแม่ส่วนใหญ่ใช้กัน) 1 – 2 – จะลุกไหม ถ้าไม่ลุกวันนี้ไม่ต้องไปเที่ยวนะ หรือถ้าไม่ลุกจะกระโดดทับแล้วนะ … สิ้นเสียงคุณคิดว่าลูกชายดิฉันทำอย่างไรคะ? … ใช่แล้วละค่ะ นางยังคงส่ายก้นดุ๊กดิ๊ก ๆ อยู่ ประมาณว่า เอาสิ ถ้าอยากจะกระโดดทับก็ทับมาเลย ไม่ใช่ไม่ชอบนะ ชอบมากกก ต่างหากละ …

 

พอลุกจากที่นอนได้ ก็ใช่ว่าอาบน้ำแปรงฟันนะคะ มันจะต้องมีพิธีเรียกขวัญและกำลังใจกันหน่อย เช่น ให้แม่ได้วิ่งไล่จับก่อนหนึ่งรอบ หรือให้แม่บ่นจนคอเจ็บ แค่นี้ก็สุขใจสามารถไปแปรงฟันได้ และถ้าวันไหนไม่เอายาสีฟันบีบเตรียมไว้ให้ ก็จะบ่น (เด็ก ๆ เราทำให้ไงคะ แต่พอโตขึ้น เราจะต้องสอนให้ลูกสามารถช่วยเหลือตัวเองได้) พอตื่นมาไม่เจอแปรงสีฟันบีบเตรียมไว้ นางก็จะบ่น ๆ (ไม่รู้ไปเอานิสัยขี้บ่นนี้มาจากไหน) จนคนเป็นแม่อย่างดิฉัน ต้องเข้ามาอธิบายให้ลูกได้ฟังว่า ลูกครับ … หนูเป็นพี่ป.1 แล้วนะครับ ลูกคงจะไม่อยากให้เพื่อน ๆ ของลูกได้รู้ใช่ไหมครับว่า ลูกยังคงให้แม่บีบสีฟันตอนเช้าให้อยู่ (เท่านี้ละค่ะ บีบเอง แปรงเองเสร็จ)

อาบน้ำแปรงฟันเสร็จ เด็กหลาย ๆ คนที่มีวินัย ก็อาจจะรู้หน้าที่ของตัวเองแล้วรีบไปแต่งตัวทานข้าวเช้าเพื่อเตรียมตัวไปโรงเรียน หรือเตรียมตัวทานข้าวเช้า … ลูกของดิฉันก็เป็นเหมือนเด็กคนอื่น ๆ ค่ะ หยิบเสื้อผ้านุ่งเอง วันไหนไปโรงเรียนก็ง่ายหน่อย เพราะมีเครื่องแบบอยู่แล้ว แต่ถ้าวันไหนไปเที่ยวละค่ะ เขาจะมีความเป็นตัวของตัวเองสูง เสื้อผ้ารองเท้าน่ะเหรอ ผู้นำแฟชั่นยังอาย บางวันเป็นต้นคริสมาสเคลื่อนที่ บางวันเป็นสัญญาณจราจร … มองจากด้านบน ดูดี แต่พอมองไล่ลงจากช่วงเอวลงไป แม่อย่างฉันแทบกรี๊ดเลยละค่ะ นางใส่ถุงเท้าลายสไปเดอร์แมนสีน้ำเงินแดง ทั้ง ๆ ที่เสื้อเป็นสีเขียว และกางเกงเป็นสีขาว (โอ้! พระเจ้า นี่ลูกฉันไปเห็นแฟชั่นชุดนี้ที่ไหนกันเนี่ย!!) แต่เอาเถอะ ถ้าไปขัดใจนางตอนนี้ คงกรี๊ดบ้านแตกและไม่ยอมเปลี่ยนแน่ ๆ … อย่างไรละคะทีนี้ ปล่อยเลยตามเลยไปเลย เอาเป็นว่าวันนี้เที่ยวใกล้บ้านกันก่อนก็แล้วกันนะลูก (แต่แม่มืออาชีพอย่างฉันก็ไม่ได้นิ่งนอนใจให้คนอื่นมาหัวเราะลูกของฉันกันหลอกนะคะ เพราะฉันได้เตรียมเสื้อผ้ามาเปลี่ยนให้เรียบร้อยแล้วค่ะ) โดยในระหว่างทาง ดิฉันก็ทำหน้าที่สไตลิสที่ดี ช่วยแนะนำการแต่งตัวไปด้วยพลาง ๆ ค่อย ๆ ตะล่อมไป เผื่อนางเปลี่ยนใจยอมจำนนแต่โดยดี …สำเร็จค่ะ!! ไม่มีใครต้องเจ็บตัว ไม่มีใครต้องเสียน้ำตา ลูกดิฉันยอมกลับมาแต่งตัวเฉกเช่นคนปกติทั่วไปเหมือนเดิม

 

สำหรับดิฉันนั้น ข้อดีของการ มีลูกชาย ก็คือ ไม่ต้องมีพิธีรีตองเยอะ พวกเขาจะไม่ค่อยเรื่องมาก ลุย ๆ  ออกแนวซกมก ๆ หรือสำอางบ้างในบางเรื่อง … สำหรับลูกผู้ชายนั้น การปัสสาวะถือเป็นเรื่องง่ายใช่ไหมละคะ เช่นเดียวกันกับบ้านเราค่ะ แค่มีขวดเปล่าหนึ่งใบ ก็สามารถทำเป็นส้วมเคลื่อนที่ได้สบาย ๆ แล้ว ไม่ว่าจะปวดที่ไหน แค่ขอขวดหนึ่งใบ ลูกชายดิฉันก็สามารถปลดปล่อยความทุกข์ได้อย่างสบายอารมณ์ แต่!!! มีคำเตือนค่ะ ขวดที่ลูกใช้แล้ว อย่าลืมรีบทิ้ง!! เพราะมิเช่นนั้น คุณอาจจะประสบกับเหตุการณ์แบบดิฉันก็เป็นได้!!

ใช่ค่ะ!! ฉันดื่มฉี่ลูก!! … คือมันเป็นความผิดพลาดมหันต์ที่เกิดขึ้นในชีวิต ดิฉันพลาดเองที่ไม่ได้ทิ้ง แล้วไปหยิบขวดน้ำผิดเพราะดันวางไว้ใกล้ ๆ กัน … รสชาติเป็นอย่างไรน่ะเหรอคะ หากคุณพ่อคุณแม่เคยเผลอดื่มน้ำทะเลเข้าไป (นั่นแหละค่ะ แบบนั้นเลย) พอลูกชายหัวแก้วหัวแหวนรู้เท่านั้นแหละ จากวันนั้นถึงวันนี้ ยังคงล้อดิฉันไม่หยุดหย่อน และรู้สึกภาคภูมิใจเป็นที่สุดที่สามารถแกล้งแม่ของตัวเองได้

การละเล่นในแต่ละวันของลูกชายดิฉันนั้นก็คงจะซุกซนเหมือนเด็กผู้ชายทั่ว ๆ ไปละค่ะ กระโดดโลดเต้น รื้อของเล่นทุกอย่างที่เก็บไว้เป็นอย่างดีมากองรวมกัน แล้วลงไปกลิ้ง ไปนอนไถ เสมือนอยู่บนกองเงินกองทองขนาดใหญ่ หากคุณคิดจะไปบังคับให้ลูกเก็บ หรือคุณไปเก็บเองในตอนนั้นละก็ คิดผิดค่ะ! เพราะลูกจะยิ่งรื้อออกมาให้มากกว่าเดิม โอ้ยอันนี้ก็ดี อันนั้นก็สนุก อันนี้ก็ใช่ แนะนำว่าให้ปล่อยเอาไว้แบบนั้นละค่ะ แล้วถึงเวลาเราค่อยมาชำระบัญชีกันทีเดียว หรือเผลอ ๆ อาจจะเจอลูกชายสุดที่รักนอนหลับอยู่บนของเล่นเลยก็ได้

ข้อคิดของการ มีลูกชาย ก็คือ เมื่อไรก็ตามที่เขาเงียบ เมื่อนั้นให้คุณเตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ให้ดี!

ที่พูดแบบนี้ได้อย่างเต็มปากเพราะ มรสุมกำลังจะมาหลังจากที่ท้องฟ้าสงบนั่นเอง คุณ!! จะได้เห็นอภิมหาสงครามกลางเมืองที่เกิดจากแป้ง และมีลูกชายของคุณเป็นนายทหารซุ่มโจมตีศัตรูท่ามกลามพายุหิมะ ไม่ว่าโซฟา กระเป๋า หรือของทุกชิ้นจะถูกปกคลุมไปด้วยแป้ง ราวกับพายุหิมะเพิ่งสงบไป แล้วเหลือทิ้งไว้แต่กองหิมะขนาดใหญ่ให้คุณดู … ว่าแล้วใครจะเก็บละ ถ้าไม่ใช่! คุณ!!

แต่สำหรับดิฉันไม่ค่ะ ในเมื่อลูกอยากสร้างสงครามกลางบ้าน ลูกก็ต้องเรียนรู้ที่จะเป็นนักไกล่เกลี่ยที่ดี ลูกต้องรู้ว่าทำอย่างไร ข้าศึกถึงจะยอม ซึ่งลูกของดิฉันก็ทำได้ดีค่ะ (ประมาณว่ารู้แน่ถ้าไม่เก็บแม่จะกลายร่างจากนางฟ้าเป็นนางยักษ์ทันที)

และถ้าหากคุณพ่อคุณแม่หวังที่จะมีบ้านที่สงบเรียบร้อยละก็ การ มีลูกชาย ไม่ใช่คำตอบค่ะ เพราะบ้านของคุณ จะต้องอึกทึกครึกโครมไปด้วยเสียงของลูกชายคุณ ไม่ว่าจะเป็นเสียงหัวเราะ เสียงร้องไห้ หรือแม้แต่เสียงตะโกนโหวกเหวกโวยวาย ยอดมนุษย์เต็มบ้าน พูดง่าย ๆ เลยนะคะว่า อย่าได้หวังเลยค่ะว่า บ้านจะสงบ เพราะมันจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อ ลูกชายของคุณหลับ หรือไม่อยู่บ้านเท่านั้นเอง

แต่ไม่ว่าจะบ้านจะวุ่นวายแค่ไหน และคนเป็นแม่อย่างฉันจะต้องเจ็บคอจนถึงขั้นเสียงหาย หรือต้องบ่นจนปากเปียกปากแฉะก็ตาม แต่มันคือความสุขค่ะ  สุขที่ฉันได้ใช้ชีวิตอยู่กับลูกชายของฉัน และฉันก็อยากที่จะเก็บเกี่ยวความสุขที่มีแต่ความวุ่นวายนี้ตลอดไป เพราะสิ่งเหล่านี้ จะเกิดขึ้น และผ่านพ้นไป และจะไม่มีวันย้อนกลับคืน

ขอให้คุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกชายทุกท่าน จงมีแต่ความสุข สนุกกับการสู้รบปรบมือ และได้สวมบทบาทสมมติเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ต่อสู้กับลูก เป็นม้า หรือเป็นวัว (แบบดิฉัน) ให้ลูกได้ขี่กันนะคะ เพราะนั่นคือความสุขที่ไม่ว่าจะมีเงินมากแค่ไหน ก็ไม่สามารถซื้อมาเก็บเอาไว้ได้ เลยละค่ะ

จากใจคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ มีลูกชาย โค-ตะ-ระ-ซน

อ่านต่อเรื่องอื่นที่น่าสนใจ:

 

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids