มีลูกชาย แล้วเป็นอย่างไรน่ะเหรอคะ เอาเป็นว่าเรามาเริ่มเล่ากันตั้งแต่ตอนลืมตาตื่นนอนตอนเช้ากันเลยดีกว่าค่ะ … คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ ท่านที่มีลูก คงจะรู้กันอยู่แล้วใช่ไหมละคะว่า ความรู้สึกของคนเป็นพ่อแม่ที่ต้องคอยเคี่ยวเข็ญให้ลูกตื่นนอนมาทำกิจวัตรประจำวันให้เสร็จสิ้นนั้น ช่างยากเย็นแสนเข็ญขนาดไหน ถ้าเป็นผู้ใหญ่อย่างเรา ตื่นมาเราก็รู้ว่าต้องทำอะไร … สำหรับลูกชอบของดิฉันไม่ค่ะ!! แค่เรียกให้ตื่น ก็คลานและมุดไปใต้ผ้าห่ม แถมส่ายก้นดุ๊กดิ๊ก ๆ บอกไม่เอาจะนอนต่อ ซึ่งวิธีการขุดจากที่นอนของคนเป็นพ่อเป็นแม่ส่วนใหญ่ก็คือ การไล่เสียงหรือนับเลข (ไม่ใช่ว่าเรานับไม่เป็นนะคะ แต่เป็นเคล็ดลับหนึ่งที่พ่อแม่ส่วนใหญ่ใช้กัน) 1 – 2 – จะลุกไหม ถ้าไม่ลุกวันนี้ไม่ต้องไปเที่ยวนะ หรือถ้าไม่ลุกจะกระโดดทับแล้วนะ … สิ้นเสียงคุณคิดว่าลูกชายดิฉันทำอย่างไรคะ? … ใช่แล้วละค่ะ นางยังคงส่ายก้นดุ๊กดิ๊ก ๆ อยู่ ประมาณว่า เอาสิ ถ้าอยากจะกระโดดทับก็ทับมาเลย ไม่ใช่ไม่ชอบนะ ชอบมากกก ต่างหากละ …
พอลุกจากที่นอนได้ ก็ใช่ว่าอาบน้ำแปรงฟันนะคะ มันจะต้องมีพิธีเรียกขวัญและกำลังใจกันหน่อย เช่น ให้แม่ได้วิ่งไล่จับก่อนหนึ่งรอบ หรือให้แม่บ่นจนคอเจ็บ แค่นี้ก็สุขใจสามารถไปแปรงฟันได้ และถ้าวันไหนไม่เอายาสีฟันบีบเตรียมไว้ให้ ก็จะบ่น (เด็ก ๆ เราทำให้ไงคะ แต่พอโตขึ้น เราจะต้องสอนให้ลูกสามารถช่วยเหลือตัวเองได้) พอตื่นมาไม่เจอแปรงสีฟันบีบเตรียมไว้ นางก็จะบ่น ๆ (ไม่รู้ไปเอานิสัยขี้บ่นนี้มาจากไหน) จนคนเป็นแม่อย่างดิฉัน ต้องเข้ามาอธิบายให้ลูกได้ฟังว่า ลูกครับ … หนูเป็นพี่ป.1 แล้วนะครับ ลูกคงจะไม่อยากให้เพื่อน ๆ ของลูกได้รู้ใช่ไหมครับว่า ลูกยังคงให้แม่บีบสีฟันตอนเช้าให้อยู่ (เท่านี้ละค่ะ บีบเอง แปรงเองเสร็จ)
อาบน้ำแปรงฟันเสร็จ เด็กหลาย ๆ คนที่มีวินัย ก็อาจจะรู้หน้าที่ของตัวเองแล้วรีบไปแต่งตัวทานข้าวเช้าเพื่อเตรียมตัวไปโรงเรียน หรือเตรียมตัวทานข้าวเช้า … ลูกของดิฉันก็เป็นเหมือนเด็กคนอื่น ๆ ค่ะ หยิบเสื้อผ้านุ่งเอง วันไหนไปโรงเรียนก็ง่ายหน่อย เพราะมีเครื่องแบบอยู่แล้ว แต่ถ้าวันไหนไปเที่ยวละค่ะ เขาจะมีความเป็นตัวของตัวเองสูง เสื้อผ้ารองเท้าน่ะเหรอ ผู้นำแฟชั่นยังอาย บางวันเป็นต้นคริสมาสเคลื่อนที่ บางวันเป็นสัญญาณจราจร … มองจากด้านบน ดูดี แต่พอมองไล่ลงจากช่วงเอวลงไป แม่อย่างฉันแทบกรี๊ดเลยละค่ะ นางใส่ถุงเท้าลายสไปเดอร์แมนสีน้ำเงินแดง ทั้ง ๆ ที่เสื้อเป็นสีเขียว และกางเกงเป็นสีขาว (โอ้! พระเจ้า นี่ลูกฉันไปเห็นแฟชั่นชุดนี้ที่ไหนกันเนี่ย!!) แต่เอาเถอะ ถ้าไปขัดใจนางตอนนี้ คงกรี๊ดบ้านแตกและไม่ยอมเปลี่ยนแน่ ๆ … อย่างไรละคะทีนี้ ปล่อยเลยตามเลยไปเลย เอาเป็นว่าวันนี้เที่ยวใกล้บ้านกันก่อนก็แล้วกันนะลูก (แต่แม่มืออาชีพอย่างฉันก็ไม่ได้นิ่งนอนใจให้คนอื่นมาหัวเราะลูกของฉันกันหลอกนะคะ เพราะฉันได้เตรียมเสื้อผ้ามาเปลี่ยนให้เรียบร้อยแล้วค่ะ) โดยในระหว่างทาง ดิฉันก็ทำหน้าที่สไตลิสที่ดี ช่วยแนะนำการแต่งตัวไปด้วยพลาง ๆ ค่อย ๆ ตะล่อมไป เผื่อนางเปลี่ยนใจยอมจำนนแต่โดยดี …สำเร็จค่ะ!! ไม่มีใครต้องเจ็บตัว ไม่มีใครต้องเสียน้ำตา ลูกดิฉันยอมกลับมาแต่งตัวเฉกเช่นคนปกติทั่วไปเหมือนเดิม