ลูกเรียนออนไลน์ จำเป็นไหม ใครต้องเรียน แล้วเรียนอะไรบ้าง เป็นส่วนหนึ่งของคำถามที่ยังคาใจคุณพ่อคุณแม่ หลังกระทรวงศึกษาธิการประกาศให้เด็กๆ เริ่มเรียนผ่านช่องการศึกษาทางไกลพร้อมกันทั้งประเทศ Amarin Baby & Kids พาไปหาคำตอบพร้อมกัน
ลูกเรียนออนไลน์ ช่องทีวีทางไกล เรียนอะไรบ้าง ไปหาคำตอบกัน
ท่ามกลางความสับสนของคำว่า “เรียนออนไลน์” ทำให้ผู้ปกครองหลายบ้านเป็นกังวลทั้งการจัดหาอุปกรณ์ คอมพิวเตอร์ หรือแท๊ปเล็ต อินเตอร์เน็ต แถมหลายบ้านยังไม่รู้ว่าถ้าพ่อแม่ต้องออกไปทำงานจะให้ลูกเรียนออนไลน์ได้อย่างไร ลูกจะเรียนทันเพื่อนไหม ต้องเก็บคะแนนหรือเปล่า
ทำไมต้องให้ ลูกเรียนออนไลน์
ปัจจุบันสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19ในบ้านดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีการผ่อนปรนในหลายจุดเพื่อให้ผู้คนกลับมาใช้ชีวิตามปกติ (อย่างระมัดระวัง) ทำให้คุณพ่อคุณแม่รู้สึกว่ารอให้ลูกกลับไปเรียนตอนเปิดเทอมในอีก 2 เดือนข้างหน้า (1 กรกฎาคม 2563) ก็ไม่น่าจะช้าเกินไป แต่จำนวนผู้ติดเชื้อที่ลดลงไม่ได้การันตีได้ว่า “เชื้อโรคจะหมดไปและไม่กลับมาระบาดอีก” หากเป็นเช่นนั้นเด็กๆ ก็ยังไม่สามารถไปโรงเรียนได้อยู่ดีและกระทบต่อการเรียนรู้ การเลื่อนชั้น และการสอบเข้าในระดับต่อไปอย่างแน่นอน
นี่จึงเป็นเหตุผลให้กระทรวงศึกษาธิการกำหนดนโยบายการศึกษาแบบใหม่เพื่อเตรียมความพร้อม หากสถานการณ์ระบาดของโรคร้ายแรงจนไม่สามารถกลับไปเรียนที่โรงเรียนได้ตามปกติ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “เพิ่มเวลาพัก ลดการประเมิน และงดกิจกรรมไม่จำเป็น” โดยแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ ได้แก่
ระบบ On Air เป็นการเรียนผ่านทีวีทางไกล DLTV ทั้ง 17 ช่อง ระบบ Online 2 รูปแบบ คือ DEEP แพลตฟอร์มออนไลน์โปรแกมที่มีคลิปของ ครูเก่งจากโรงเรียนดังให้เด็กเลือกเรียนเพิ่มเติมตามความสนใจ และ Interactive platform อย่าง zoom, Microsoft suit ที่คุณครูและนักเรียนสามารถโต้ตอบกันได้เหมือนเป็นห้องเรียนเสมือนจริง ทั้งนี้แต่ละโรงเรียนสามารถนำรูปแบบการสอนข้างต้นนี้ไปปรับใช้ตามความเหมาะสม และทดสอบระบบจริงเพื่อสำรวจความพร้อม ปัญหาอุปสรรคและหาวิธีแก้ไขให้พร้อมสำหรับการเปิดเทอมใหม่
ใครต้องเรียนออนไลน์บ้าง
กระทรวงได้วางแผนพ่อแม่สามารถให้ ลูกเรียนออนไลน์ ได้ทุกระดับชั้นเข้าถึงการเรียนออนไลน์แต่ให้มีวิธีเรียนออนไลน์ต่างกันไปตามวัย ดังต่อไปนี้
อนุบาล 1 –3 : เรียนผ่านทีวีทางไกล DLTV
ประถม 1 –มัธยม 6: เรียนผ่านทีวีทางไกล DLTV และระบบ DEEP
มัธยม 4 – 6 : เรียนผ่านทีวีทางไกล DLTV ระบบ DEEP และ Interactive platform
กศน. และนักเรียนอาชีวะ : เรียนผ่านทีวีทางไกล DLTV
ช่องดังกล่าวสามารถรับผ่านกล่องทีวีดิจิตอล และจานดาวเทียม สำหรับบบ้านไหนที่ไม่มีกล่องรับสัญญาณดังกล่าว ทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้เตรียมกล่องรับสัญญาณเพื่อนำมาแจกฟรีจำนวน2 ล้านกล่อง ส่วนครอบครัวใดที่ไม่มีโทรทัศน์เลย จะดำเนินการประชุมหาทางช่วยเหลือต่อไป ส่วนในพื้นทีห่างไกล เช่นโรงเรียนบนดอยหรือตะเข็บชายแดนอาจพิจารณาให้เปิดเรียนได้ แต่ก็ยังไม่มีนโยบายชัดเจนในเรื่องนี้
เปิดทีวี DLTV ลูกได้เรียนอะไรบ้าง
การเรียนผ่านทีวีทางไกล ซึ่งเริ่มต้นให้เด็กๆได้เรียนกันแล้ว เป็นเนื้อหาที่จัดทำโดยมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมในพระบรมราชูปถัมภ์ ออกอากาศในระบบฟรีทีวีจำนวน 17 ช่อง โดยกำหนดให้ 1 ช่องมีรายการสอนเฉพาะสำหรับ 1 ระดับชั้น ในระดับอนุบาลจนถึงประถมศึกษา จะมีเนื้อหาครอบคลุม 5 วิชาหลักได้แก่ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ประวัติศาสตร์ ศิลปะ สังคมศึกษา และสุขศึกษาและพลศีกษา
ตารางเรียนจะมีตั้งแต่วันจันทร์ – ศุกร์ ตลอด 24 ชั่วโมง โดยจะมีการสอนในวิชาหลักใน 3 วิชา คือ 8.30-11.00 น. แล้วรีรันให้ชมอีก 2 ช่วงเวลาคือ 12.30 – 16.30 น. และ 20.30 -23.30 น. คุณพ่อคุณแม่จัดตารางให้ลูกเรียนในตอนเช้า แล้วหาเวลานั่งศึกษาเนื้อหาด้วยตนเองในช่วงเวลาอื่น เพื่อนำไปทบทวนบทเรียนให้ลูกๆเพิ่มเติมได้ หรือสำหรับบ้านที่มีลูกหลายคนสามารถแบ่งเวลาดูรายการคนละช่วงเวลาได้สะดวกขึ้น
นอกจากนี้ระหว่างวันจะมีรายการเพื่อเด็กและเยาวชน สารคดีสำหรับเด็กให้ดูฟรีตลอดวัน ซึ่งน่าจะเป็นช่องทางหนึ่งที่ช่วยให้การเรียนรู้ของเด็กไม่สะดุดระหว่างที่ต้องหยุดปิดเทอมยาวๆเช่นนี้
เช็กตารางเรียนผ่านทีวีทางไกล DLTV
สำหรับช่องทีวีสำหรับชั้นมัธยมศึกษา กศน. และอาชีวศึกษาสามารถเช็กตารางเรียนเพิ่มเติมที่ www.dltv.ac.th
ต้องให้ลูกเรียนออนไลน์ ดูทีวีทางไกลทุกบ้านหรือไม่
สำหรับข้อสงสัยว่า กรณีที่โรงเรียนของลูกได้วางแผนการสอนในช่วงรอเปิดเทอมไว้แล้ว จำเป็นต้องให้ลูกดูทีวีทางไกลหรือไม่ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรี ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมในพระบรมราชูปถัมภ์ ระบุว่า
MUST READ : ให้ลูกเรียนออนไลน์ อย่างไร? ถ้าแม่ต้องไปทำงาน?
MUST READ :อีกหนึ่งเสียง..จากใจแม่! 5 เหตุผลที่ไม่ควรให้ลูกเรียนออนไลน์
“การเรียนออนไลน์หรือรูปแบบใดก็ตามต้องทำให้ผู้ปกครองได้รับความเดือดร้อนน้อยที่สุด และแยกเด็กตามกลุ่มสภาพแวดล้อม เพราะเรารู้ว้าการเรียนผ่านโทรทัศน์มีประสิทธิภาพไม่เท่าการสอนจากครูจริง แต่แนวทางนี้เป็นเพียงการรับมือสถานการณ์ที่จำเป็นต้องทำเท่านั้น”
สำหรับโรงเรียนที่มีความพร้อม เช่น โรงเรียนขนาดใหญ่ โรงเรียนประจำจังหวัด โรงเรียนเอกชนในเมือง ซึ่งสามารถจัดการสอนทางออนไลน์ได้ คุณพ่อคุณแม่สามารถให้ ลูกเรียนออนไลน์ ตามแผนงานของโรงเรียนได้โดยไม่ต้องพะวงว่า จะต้องเรียนผ่านทีวีทางไกลด้วย เพราะนี่เป็นนโยบายเพื่อช่วยเด็กในกลุ่มที่เข้าถึงการศึกษาได้ยากในช่วงวิกฤติโควิด-19 มากกว่า
บทความน่าสนใจอื่นๆ
เรียนออนไลน์ เตรียมตัวอย่างไรได้ผลดี ลูกแฮปปี้ ไม่เครียดเกินไป