อนาคตของลูก จะได้ดีและสำเร็จได้ต้องเริ่มจากรากฐานที่มั่นคง พบ 5 ข้อที่พ่อแม่ต้องรู้เพื่ออนาคตที่ดีของลูกน้อย
หากพูดถึง อนาคตของลูก คุณพ่อคุณแม่นึกถึงอะไรกันคะ … ใช่ความรู้ การศึกษา สังคม และหน้าที่การงานกันใช่หรือเปล่า … ถ้าใช่ละก็ทราบไหมคะว่า จริง ๆ แล้วการที่ลูกจะมีอนาคตที่ดีได้นั้น จะต้องเริ่มต้นจากการปูพื้นฐานต่าง ๆ ให้มั่นคงกันเสียก่อน ซึ่งพื้นฐานที่ว่านั้น แค่ความรู้อย่างเดียวคงไม่พอ จะมีอะไรบ้างนั้น ทีมงาน Amarin Baby and Kids จะขอสรุปออกมาเป็น 5 ข้อคร่าว ๆ ดังต่อไปนี้ค่ะ
อนาคตของลูก ดีแน่ถ้าพ่อแม่ดูแลสิ่งเหล่านี้!
- อาหารการกิน – ไม่มีใครปล่อยให้ลูกของเราอดอยากกันหรอกใช่ไหมละคะ คุณพ่อคุณแม่ทุกคนล้วนสรรหาเมนูต่าง ๆ มากมายมาให้ลูกได้ลิ้มลอง ไม่ว่าจะเป็นการพาลูกไปรับประทานอาหารดี ๆ ตามร้านต่าง ๆ ภายในห้างดัง หรือบางวันอาจจะทานข้าวแกงถุง หรือถ้ามีเวลาหน่อยก็ปรุงอาหารรับประทานกันเอง … ตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละครอบครัว ไม่มีใครว่าถูกหรือว่าผิด หากแต่สิ่งที่เราทุกคนควรต้องคำนึงก็คือ สารอาหารต่าง ๆ ที่ลูกบริโภคเข้าไปมากกว่า โดยจะต้องมั่นใจว่าอาหารเหล่านั้น ปรุงสดใหม่ ไม่ค้างคืน และครบทั้ง 5 หมู่ บางครอบครัวตามใจลูกด้วยการซื้อขนม ของทอดกรอบ ไส้กรอก รวมถึงเนื้อสัตว์แปรรูปให้ลูกทานเป็นประจำทุกวัน โดยหารู้ไม่ว่า เมนูเหล่านี้นี่แหละ ที่จะมาทำลายสุขภาพของลูกมากกว่าการได้รับประโยชน์ … แต่ไม่ใช่ว่าลูกจะทานไม่ได้เลยนะคะ ลูกทานได้ค่ะ แต่ก็ต้องทานอย่างถูกต้อง ไม่ใช่ว่าให้ทานกันไปเลยทุกมื้อทุกวัน อันนี้ก็มากเกินไป แล้วแบบนั้นสมองและร่างกายของลูกจะได้รับประโยชน์จากตรงไหนกัน นอกเหนือจากนี้ Bethany Thayer, Andrea Giancoli และ Sarah Krieger ผู้เชี่ยวชาญจากสมาคมนักกำหนดอาหารแห่งสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาให้ข้อมูลและคำแนะนำที่น่าสนใจว่า ความจริงแล้ว สมองคนเราต้องการอาหารและการบำรุงอย่างยิ่ง สมองเป็นอวัยวะร่างกายชิ้นแรกสุดที่จะดูดซึมสารอาหารจากสิ่งที่กินเข้าไป นั่นหมายถึงร่างกายของลูกต้องการสารอาหารที่หลากหลายเพื่อไปบำรุงร่างกายและสมองด้วยเช่นกัน ถ้าหากเราไม่ใส่ใจเรื่องนี้ให้ดี อาจส่งผลเสียให้กับลูกในระยะยาวได้
- โรคภัยไข้เจ็บ – การไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ ถือเป็นลาภอันประเสริฐ … แต่อาจจะยากหน่อยสำหรับครอบครัวที่มีลูกเล็ก … เนื่องจากเราไม่สามารถป้องกันลูกให้ห่างไกลจากโรคได้ 100 เปอร์เซ็นต์เนื่องจากภูมิต้านทานของลูกต่ำ โอกาสที่ลูกจะได้รับเชื้อโรคต่าง ๆ จึงมีความเสี่ยงสูง แต่ถึงแม้ว่าเราจะไม่สามารถป้องกันได้ทั้งหมด แต่เราก็สามารถป้องกันลูกได้ในเบื้องต้นใช่ไหมละคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสอนให้ลูกได้รู้จักกับการล้างมือที่ถูกต้อง เพราะเด็กส่วนใหญ่เข้าใจว่าแค่เอามือไปสัมผัสกับน้ำเท่านี้ก็แปลว่าล้างมือแล้ว ซึ่งอันนี้ถือเป็นความเข้าใจที่ผิดเป็นอย่างมากเลยละค่ะ และจากจุดนั้นเองทำให้เป็นที่มาของเชื้อโรคต่าง ๆ ที่จะมาทำให้ลูกเจ็บป่วย ถามว่า แล้วเกี่ยวอย่างไรกับ อนาคตของลูก? เกี่ยวสิคะ! ถ้าลูกเจ็บออด ๆ แอด ๆ นั่นหมายถึง ลูกต้องใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในโรงพยาบาลมากกว่าที่โรงเรียน ซึ่งนั่นหมายถึงโอกาสที่ลูกจะพลาดโอกาสต่าง ๆ ก็มีมากขึ้นตามไปด้วย
- คน – การสอนให้ลูกได้รู้จักเท่าทันคนนั้น ถือเป็นสิ่งหนึ่งที่เกี่ยวข้องต่อเนื่องไปจนถึงอนาคตของลูก คุณพ่อคุณแม่ ควรสอนให้ลูกได้รู้จักการคบคน รู้ให้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมของคน อย่าเชื่อถือง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนแปลกหน้า สอนให้ลูกรู้จักเลือกคบเพื่อน ๆ คนไหนที่ไม่ดีก็ไม่ควรไปคบหาสมาคมด้วย เพราะพวกเขาเหล่านั้น อาจชักนำให้ลูกใช้ชีวิตไปในทางที่เสื่อมเสียได้ เพราะ อนาคตของลูก อาจหมดไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ได้
- ความปลอดภัย – เด็กส่วนใหญ่ไม่ทราบว่าการกระทำแบบไหนปลอดภัยหรือไม่ปลอดภัย จึงเป็นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่ที่จะคอยแนะนำให้ลูกได้เข้าใจและรู้จักระมัดระวัง ดำรงชีวิตด้วยความไม่ประมาท เพราะอุบัติเหตุบางชนิดที่ลูกทำด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์นั้น อาจเปลี่ยนชีวิตทั้งชีวิตของลูกไปได้เลย
- อารมณ์และจิตใจ – คนสมัยนี้เป็นโรคซึมเศร้ากันเยอะ ไม่เว้นแม้แต่เด็กตัวเล็ก ๆ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เด็กสมัยนี้เป็นโรคซึมเศร้านั้นเกิดจากตัวของคุณพ่อคุณแม่เองที่มีส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในครอบครัวที่คุณพ่อคุณแม่ตั้งความหวังที่ลูกมากจนเกินไป พอลูกทำไม่ได้ก็ตำหนิติเตียน หรือบางครอบครัวที่ปูทางชีวิตให้ลูกเดิน … จริงอยู่ค่ะที่คุณพ่อคุณแม่ทำไปเพราะความรักและความหวังดี แต่การบังคับจิตใจลูกให้เดินไปในทางที่คุณพ่อคุณแม่ปูไว้โดยไม่ถามความเห็นหรือความสมัครใจจากลูกเลยนั้น อาจส่งผลทำให้ลูกมีปัญหาได้ … ครอบครัวไหนลูกยินดีและเต็มใจที่จะดำเนินรอยตามก็ถือว่าโชคดีไป แต่สำหรับครอบครัวไหนที่ลูกไม่สมัครใจนั้น แนะนำให้พูดคุยถามไถ่ลูกกันเถิดนะคะ เพราะคนส่วนใหญ่ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตได้นั้น เป็นเพราะพวกเขาได้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบและถนัดมากกว่า ดังนั้น หากอยากให้ลูกมีอนาคตที่ดี อย่าลืมตรวจเช็คความพร้อมทางด้านจิตใจของลูกกันด้วยนะคะ
เรียบเรียงโดย ทีมงานบรรณาธิการ Amarin Baby and Kids
อ่านต่อบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่