พ่อแม่ทุกคนล้วนอยากเห็นลูกเติบโตเป็นเด็กฉลาดและประสบความสำเร็จในอนาคต มีหลายปัจจัยที่เป็นเครื่องมือสามารถก้าวไปสู่ความสำเร็จ การเล่นดนตรีเป็นอีกทางที่ส่งเสริมพัฒนาการด้านนี้ได้ เรียนดนตรีดียังไง ทำไมพ่อแม่หลายบ้านถึงส่งให้ลูกไปเรียนดนตรีตั้งแต่เล็ก
รศ.ดร.ณรุทธ์ สุทธจิตต์ อาจารย์ภาควิชาดนตรีศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เคยพูดถึงความสำคัญของดนตรีกับเด็กเล็กไว้อย่างน่าสนใจว่า “การฟังดนตรีเป็นเรื่องสำคัญ เพราะทำให้เด็กเรียนรู้เกี่ยวกับการพัฒนากระบวนการฟัง เมื่อเด็กได้ฟังก็จะเกิดความสนใจ สิ่งที่ตามมาคือได้เรียนรู้ถึงความไพเราะของบทเพลงนั้นๆ และเมื่อตั้งใจฟังก็แปลว่าเด็กเกิดสมาธิ ซึ่งมีส่วนช่วยให้เรียนวิชาอื่น ๆ หรือทำงาน หรือทำกิจกรรมอื่น ๆได้ดี ในทางกลับกันหากเป็นเด็กที่มีสมาธิดีอยู่แล้ว เมื่อมาฟังเพลง ก็จะเรียนรู้เรื่องดนตรีได้ดี หากให้เรียนดนตรีก็จะเก่งไปเลย…” (ขอบคุณบทความจาก : รศ ดร. ณรุทธ์ สุทธจิตต์ ภาควิชาดนตรีศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย)
พัฒนาการและความสามารถของลูกน้อยเป็นสิ่งที่พ่อแม่หลายคนต่างให้ความสำคัญ ซึ่งเด็กจะมีพัฒนาการด้านอารมณ์ สังคม และร่างกายไปตามลำดับ การส่งเสริมให้ลูกเติบโตและเรียนรู้อย่างสมวัยในแต่ละช่วงอายุ จึงมีผลต่อพัฒนาการและความสามารถของเด็กและส่งผลมาจนถึงวัยผู้ใหญ่ได้
เรียนดนตรีดียังไง ? หลายเหตุผลที่บอกว่า เลี้ยงลูกด้วยดนตรีตั้งแต่เด็ก ส่งผลต่อพัฒการดีถึงตอนโต
ปัจจุบันการเลี้ยงลูกด้วยดนตรี นับเป็นวิธีหนึ่งที่ได้รับความสนใจจากพ่อแม่ ในการส่งเสริมให้ลูกได้เรียนดนตรีตั้งแต่เล็ก มีงานวิจัย ผลทดลอง และผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากศึกษาถึงประโยชน์ของดนตรีต่อพัฒนาการด้านต่าง ๆ ของเด็ก ซึ่งส่วนใหญ่พบว่าการให้ทำกิจกรรมทางดนตรี อย่างการร้องเพลงหรือเล่นเครื่องดนตรีตั้งแต่ยังเล็ก มีส่วนช่วยเสริมพัฒนาการและทักษะความสามารถด้านต่าง ๆ ของเด็กได้มาก
#ช่วยพัฒนาความสามารถทางด้านสติปัญญา
- มีผลการวิจัยจากหลายสถาบันได้แสดงให้เห็นว่าบุคคลที่ประสบความสำเร็จจากหลากหลายอาชีพมีวัยเด็กที่ผ่านการเรียนดนตรีมาแทบทั้งสิ้น ผลการศึกษาพบว่า การเรียนดนตรีให้ผลโดยตรงต่อสมอง ระหว่างการเล่นดนตรีทำให้เกิดกระบวนการคิดสร้างสรรค์ เมื่อเด็กๆ ได้ฟังเพลง เนื้อร้องก็จะเกิดการจินตนาการเป็นภาพตามบทเพลง ครีเอทสิ่งใหม่ ๆ ขึ้นได้ดี
- การได้เรียนดนตรีช่วยเพิ่มทักษะไอคิวได้ ซึ่งมีผลมาจากการฝึกสมองผ่านการเรียนรู้โน๊ตดนตรี แยกประสาท เช่น การเล่นเปียโนที่ต้องใช้มือซ้าย-ขวา การตีกลองที่ต้องใช้ประสาทสัมผัสตา มือ แขน ขา ที่เชื่อมโยงทุกส่วนกัน ทั้งนี้ยังมีผลการทดลอง (มหาวิทยาลัยโทรอนโตแห่งแคนาดา) พบว่า การเล่นเครื่องดนตรีประกอบจังหวะอย่างคีย์บอร์ดจะสร้างพัฒนาการทางสติปัญญาได้ดีกว่ามาก เมื่อเทียบกับการเล่นเปียโน หรือการร้องเพลง
#ช่วยพัฒนาความสามารถทางอารมณ์
- เสียงดนตรีจะทำให้มีความรู้สึกเพลิดเพลิน สนุกสนาน มีงานวิจัยนำเสนอออกมามากมายว่า ดนตรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งดนตรีคลาสสิกมีส่วนช่วยพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ของเด็กวัยเจริญเติบโต การเรียนดนตรีนั้นจึงเป็นการเปิดโอกาสให้เด็ก ๆ ได้มีโอกาสใช้ดนตรีพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์โดยตรง
- เสียงดนตรีจังหวะช้า จะช่วยกล่อมเกลาให้เด็กรู้สึกสงบ ลดอาการฉุนเฉียว ขี้โมโห และทำให้ลูกเป็นเด็กเข้าใจง่าย สอนง่าย ส่วนเสียงดนจรีที่มีจังหวะเร็วก็มีส่งผลต่ออารมณ์ให้เด็กรู้สึกตื่นตัว ร่าเริง แจ่มใส
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อ เรียนดนตรีแต่เด็กส่งผลต่อพัฒนาการดียังไง คลิกหน้า 2
#ช่วยพัฒนาทักษะความสามารถทางกายภาพ
- การฝึกเครื่องดนตรีแต่ละชนิด เด็ก ๆ จะต้องใช้ประสาทสัมผัสและการเคลื่อนไหวของร่างกายในหลาย ๆ ด้านพร้อมกัน เช่น ตาอ่านตัวโน้ต หูใช้ฟังเสียง มือทั้งสองข้างใช้สัมผัสเคลื่อนไหว รวมถึงการขยับกล้ามเนื้อมัดใหญ่อย่างแขน ขา การหายใจ จึงทำให้เกิดทักษะการเคลื่อนไหวและการเชื่อมโยงต่าง ๆ ที่ดี
- มีผลการทดสอบทางวิทยาศาสตร์พบว่า สำหรับเด็กในวัยก่อนเข้าเรียน การเล่นดนตรีมีประโยชน์พอ ๆ การเล่นพละ ที่ช่วยกระตุ้นการเคลื่อนไหวซึ่งมีความสำคัญต่อเด็กเล็ก
- เสียงดนตรี ส่งผลกับกลไกการทำงานต่างๆ ของร่างกาย เช่น การเปลี่ยนแปลงของอัตราการหายใจ อัตราการเต้นของชีพจร ความดันโลหิต การตอบสนองของม่านตา ความตึงตัวของกล้ามเนื้อ การทำงานของปอด และการไหลเวียนของเลือด การเล่นหรือการฟังดนตรี จึงเป็นเครื่องมือที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บทั้งร่างกายและจิตใจได้
#ช่วยพัฒนาความสามารถในการรับรู้และความสามารถทางภาษา
- การเล่นดนตรีจะช่วยเสริมความสามารถในการรับรู้ด้านภาษาและส่งผลไปถึงทักษะการอ่านที่ดี เนื่องจากเสียงดนตรีและคำพูดนั้นมีระบบการทำงานร่วมกัน การเล่นดนตรีบ่อย ๆ จะช่วยฝึกการถอดเสียง จดจำรูปแบบคำต่าง ๆ ให้ง่ายขึ้น ยิ่งเด็กใช้เวลากับดนตรีนานเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้สมองส่วนภาษาศาสตร์พัฒนาไปด้วย โดยจะสามารถจำคำศัพท์และมีการรับรู้ด้านการอ่านที่ดี
#ช่วยพัฒนาทักษะความสามารถทางวิชาการดีขึ้น
- ดนตรีและคณิตศาสตร์มีความคล้ายคลึงกันสูงมาก ถ้าเข้าใจในเรื่องของจังหวะและสเกล เด็กก็สามารถที่จะเรียนรู้การคิดคำนวณ การจดจำแบบแผนต่าง ๆ สามารถเข้าใจคณิตศาสตร์ได้ดีขึ้น เด็กที่เรียนดนตรีจะท่องจำบทเพลง ตัวโน๊ต โดยใช้ทั้งความจำระยะสั้นและระยะยาว การเรียนดนตรีจึงสามารถช่วยพัฒนาความจำสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับทักษะการจำอื่นๆ ได้อีกมากมาย
#ช่วยพัฒนาตนเองและทักษะด้านสังคม
- การเรียนดนตรี ได้ฝึกการพัฒนาตนเองในความมุ่งมั่น อดทนต่อการฝึกซ้อม เป็นการสร้างวินัยให้ตัวเองไปในตัว และทำให้ตนเองรู้สึกประสบความสำเร็จ ซึ่งก็จะเกิดความนับถือและความมั่นใจในตัวเองตามมา
- ความเชื่อมั่นในตนเองจากการเล่นดนตรีจะส่งผลให้เด็กมีทักษะทางสังคมที่ดียิ่งขึ้น การเรียนดนตรีเป็นกลุ่มทำให้เด็ก ๆ เข้าใจถึงบทบาทหน้าที่ในการเลือกเครื่องดนตรีของตนเอง ส่งเสริมทักษะการทำงานเป็นทีม การปรับวิธีการเล่นเพื่อให้เข้ากับเพื่อนในทีม มีระเบียบวินัยและความรับผิดชอบ เด็กจะได้กระบวนการเรียนรู้ที่จะไปสู่เป้าหมายร่วมกับคนอื่นเพื่อความสำเร็จร่วมกันได้
- การเล่นดนตรีช่วยในการปรับตัวให้กลมกลืนเข้ากับวัฒนธรรม ช่วยให้สื่อสารกับสิ่งรอบตัวได้ง่ายขึ้น เพราะดนตรีถือเป็นภาษาสากลที่เข้าถึงง่าย ซึ่งก็จะทำให้เด็กรู้จักปรับตัวเข้ากับผู้อื่นได้ไม่ยาก
- การสอบวัดผลทางดนตรี หรือการแข่งขันทางดนตรีใด ๆ จะทำให้เด็กรู้จักหัดวางแผน มีเป้าหมายของชีวิต รู้จักจัดสรรเวลา และมีวินัยในการฝึกซ้อมเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ทำให้เกิดความภาคภูมิใจกับความสำเร็จของตัวเอง
#ช่วยพัฒนาสมาธิ
- การเรียนดนตรีนั้นจะต้องใช้สมาธิเป็นอย่างมาก เด็กจะได้เรียนรู้วิธีในการควบคุมตัวเองจากการใช้สมาธิเพื่อจดจำตัวโน๊ต โดยเริ่มจากเพลงสั้น ๆ ง่าย ๆ และพัฒนาเป็นเพลงยาว ทำให้เด็ก ๆ ได้ฝึกสมาธิไปทีละน้อย จนทำให้มีสมาธิกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าได้
#ช่วยพัฒนาบุคลิกภาพ
- การเล่นดนตรีจะช่วยส่งเสริมท่าทางบุคลลิกภาพ เช่น การนั่งหลังตรง ยืนตัวตรง เดิน หรือเคลื่อนไหวตามเครื่องดนตรีที่เลือกเล่นในแต่ละชนิด เด็กที่ได้เรียนดนตรีเป็นประจำก็จะพัฒนาบุคลิกภาพ ซึมซับท่ายืน เดิน นั่งเหล่านี้มาใช้ในชีวิตประจำวันด้วยเช่นกัน
- การเรียนดนตรีจะเปิดโอกาสให้เด็กได้ใช้ทักษะที่เรียนมาแสดงความสามารถ เด็กที่ได้มีโอกาสแสดง พูด ต่อหน้าผู้คนจำนวนมาก จะได้เรียนรู้วิธีการเอาชนะตนเอง ก้าวข้ามผ่านความกลัว ซึ่งก็จะทำให้ลูกเขาเติบโตขึ้นเป็นคนที่มีความมั่นใจตัวเอง เป็นผู้นำที่ดีได้ในที่สุด
จะเห็นว่าประโยชน์ของการได้เล่นดนตรีมีไม่น้อยเชียวค่ะ นอกจากการเรียนดนตรีช่วยพัฒนาและทักษะในหลาย ๆ ด้าน ยังมีประโยชน์โดยตรงต่อพัฒนาการทางสมอง อารมณ์ ร่างกาย และจิตใจ ซึ่งเป็นส่วนหลัก ๆ ที่สำคัญ ในการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ ดนตรียังเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้เด็ก ๆ รู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และสะสมทักษะทางดนตรีต่อยอดไปสู่อาชีพในอนาคตได้ สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่เล็งเห็นถึงประโยชน์ของการ เรียนดนตรีดียังไง และพร้อมจะสนับสนุนลูกให้เรียนดนตรีก็สามารถเริ่มได้ตั้งแต่เล็ก ๆ โดยเริ่มจากเรียนรู้จังหวะของเครื่องดนตรีชิ้นง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน เป็นดนตรีสำหรับเด็กเล็ก เพื่อให้เด็กคุ้นชินกับเสียงดนตรี และช่วงวัยที่เหมาะสมคืออายุประมาณ 4 ขวบขึ้นไป หากเห็นว่าเจ้าตัวน้อยฉายแววทางด้านดนตรีแล้วพ่อแม่ควรส่งเสริมและสนับสนุนกันนะคะ.
ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : www.pobpad.com, maestromusicschool, peerapongmusicschool
อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ :
เรียนดนตรีที่ไหนดี รวมที่เรียนดนตรีในกรุงเทพสำหรับเจ้าตัวเล็ก
ลูกฉายแวว ฉลาดด้านดนตรี บ้างหรือยัง?
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่