การเลี้ยงดูเด็กในยุคสมัยนี้ พ่อแม่ผู้ปกครองต้องใส่ใจดูแลเป็นพิเศษ เนื่องจากมีสิ่งเร้ามากมาย ที่กระตุ้นความสนใจของเด็กๆ ตลอดเวลา ทำให้เด็กๆ อาจไขว้เขวหลงผิด … การปลูกฝังนิสัยในช่วงวัยเด็กเป็นสิ่งสำคัญเพราะลักษณะนิสัยจะติดตัวไปตอนโต
1. ควรหากิจกรรมทำร่วมกันให้บ่อยขึ้น
วิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับพ่อแม่ที่ใช้สอนลูกให้รู้จักการทำงานร่วมกัน เพื่อให้งานที่ทำออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด และทุกกิจกรรมที่ทำร่วมกันยังช่วยสอนให้เด็กได้รู้ถึงกฎเกณฑ์และข้อจำกัด และให้พวกเขาเห็นว่าการเคารพในกฎกติกาเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้อยู่ร่วมกันกับผู้อื่นได้
2. แสดงความกระตือรือร้นในสิ่งที่ลูกสนใจ ถึงแม้ว่าสิ่งนั้นไม่ได้อยู่ในความสนใจของพ่อแม่ก็ตาม
การให้ความสนใจกับสิ่งที่ลูกๆสนใจเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับคนในครอบครัว ทั้งยังช่วยสนับสนุนลักษณะนิสัยที่ดีของเด็กได้ โดยที่เขาจะไม่รู้สึกว่าอยู่เพียงลำพัก ยังไม่คนคอยสนับสนุนอยู่
3. พ่อแม่ต้องทำความเข้าใจในเรื่องที่เข้าใจผิด และพูดคุยกัน
แก้ไขความเข้าใจผิดที่อาจนำมาซึ่งอารมณ์ขุ่นมัว และทำให้เด็กกลายเป็นคนขี้โมโห ทำงานร่วมกับผู้อื่นไม่ได้ และกลายเป็นคนไม่น่าไว้วางใจ ผู้ใหญ่ควรปรับความเข้าใจกับเด็ก บอกกล่าวไม่ตำหนิจนกลายเป็นการด่าทอ เพราะยิ่งทำให้ลูกของพวกคุณต่อต้านสุดท้ายกลายเป็นเด็กก้าวร้าวได้
อ่านต่อ >> “วิธีเสริมสร้างลักษณะนิสัยที่ดีให้แก่ลูก” คลิกหน้า 2
4. ให้ลูกเข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยกันแก้ปัญหาของเขาเอง
เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นอย่ากันลูกๆของคุณออกจากปัญหา ถ้าเป็นปัญหาไม่ใหญ่นักลองให้เขามาช่วยพ่อแม่คิดหาทางออกดู ให้เด็กได้ลองใช้ความคิดช่วยแก้ปัญหา หรือช่วยกันออกความคิดเห็นเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้หายไปด้วยความร่วมมือร่วมใจกัน
5. สอนให้รู้จักการจัดการกับอารมณ์ รวมถึงความรู้สึกทั้งด้านดีและไม่ดี
พ่อแม่ควรสอนให้ลูกๆเรียนรู้ และฝึกรับมือกับอารมณ์ด้านต่างๆ โดยเฉพาะความรู้สึกผิดหวัง สอนพวกเขาว่าผิดหวังในชีวิตบ้างไม่ใช่ทุกอย่างในชีวิต บอกวิธีรับมือกับอารมณ์ด้านลบที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
6. สอนให้ลูกรู้จักการรอคอย
ผู้ปกครองควรสอนเด็กๆให้รู้จักการรอคอย ไม่ใช่เมื่ออยากได้อะไรก็ต้องได้ทันที เพราะถ้าปล่อยไว้จนเด็กโตขึ้น อาจกลายเป็นเด็กเอาแต่ใจตัวเอง เป็นผู้ใหญ่ไม่น่าคบ
7. หมั่นพูดให้กำลังใจไม่ใช่ตำหนิติเตียนตลอดเวลา
เมื่อพ่อแม่ต้องการตำหนิ หรือดุลูกๆ ต้องให้เหตุผลด้วยว่าเพราะอะไร และทำไมพ่อแม่ถึงต้องตำหนิลูก การใช้เหตุผลทำให้เด็กเป็นคนที่มีเหตุผลเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่เขาจะเป็นคนมีเหตุผลไม่ใช้อารมณ์ในการตัดสิน
อ่านต่อ >> “วิธีเสริมสร้างลักษณะนิสัยที่ดีให้แก่ลูก” คลิกหน้า 3
7. หมั่นพูดให้กำลังใจไม่ใช่ตำหนิติเตียนตลอดเวลา
เมื่อพ่อแม่ต้องการตำหนิ หรือดุลูกๆ ต้องให้เหตุผลด้วยว่าเพราะอะไร และทำไมพ่อแม่ถึงต้องตำหนิลูก การใช้เหตุผลทำให้เด็กเป็นคนที่มีเหตุผลเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่เขาจะเป็นคนมีเหตุผลไม่ใช้อารมณ์ในการตัดสิน
8. ใช้คำพูด “ไม่” ในรูปแบบที่นุ่มนวลที่สุดและไม่ควรใช้อารมณ์
พ่อแม่ ผู้ปกครองที่ต้องการปฏิเสธลูกน้อยของพวกเขา การใช้คำว่า “ไม่” บางครั้งต้องใช้น้ำเสียงที่นุ่มนวล ไม่ให้เหมือนเป็นการสั่งจนเกินไป
9. ควรเลือกใช้โทนเสียงให้ถูกต้องเมื่อต้องบังคับลูกให้ทำอะไรก็ตาม
เลือกใช้โทนเสียงในการสำหรับการอกคำสั่งลูกให้ดูไม่เหมือนจงใจออกคำสั่ง เพราะเด็กๆอ่านอารมณ์พ่อแม่ได้จากน้ำเสียง
อ่านต่อ >> “วิธีเสริมสร้างลักษณะนิสัยที่ดีให้แก่ลูก” คลิกหน้า 4
10. *พ่อแม่ควรใช้วิธีพูดคุยแบบประนีประนอม
พ่อแม่ต้องจำไว้เสมอว่าการประนีประนอมไม่ใช่การยอมแพ้ให้ลูกของคุณ การประนีประนอมคือการพูดคุยและถือเป็นการสอนให้เด็กๆได้คิดว่าอะไรที่พวกเขาต้องการนั้นมีความสำคัญมากน้อยแค่ไหน ถือเป็นบทเรียนให้เขาได้เรียนรู้ได้ว่าไม่สามารถได้ทุกอย่างที่ต้องการได้เสมอไป
11. สอนให้รู้จักการมีความรับผิดชอบ
ผู้ปกครองอย่าคิดว่าลูกๆของคุณยังเด็กไม่สามารถรับผิดชอบอะไรได้ พวกคุณอาจกำลังคิดผิด เพราะการฝึกให้เด็กมีความรับผิดชอบทำให้พวกเขาโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่มีความรับผิดชอบ เป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ
12. สอนลูกให้เห็นความสำคัญของคนอื่น เพื่อจะได้เข้าใจคนรอบข้าง
พ่อแม่ต้องสอนลูกๆเสมอว่า เราไม่ใช่คนเดียวในโลก เพราะฉะนั้นอย่าถือเอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ รับฟังความคิดเห็นของคนรอบข้างบ้าง สนใจความรู้สึกของคนรอบข้างให้มากขึ้น
อ่านต่อ >> “วิธีเสริมสร้างลักษณะนิสัยที่ดีให้แก่ลูก” คลิกหน้า 5
13. คอยตักเตือนเมื่อลูกเริ่มปฏิบัติตัวออกนอกเส้นทีกำหนดให้
พ่อแม่ที่ดีต้องตักเตือนสั่งสอนลูกๆเมื่อเห็นว่าพวกเขากำลังออกนอกลู่นอกทาง หรือกำลังทำพฤติกรรมไปในทางที่แย่ พูดคุยและช่วยลูกๆหาทางแก้จะได้ทำให้ดีขึ้นในครั้งต่อไป
14. หมั่นบอกให้รู้ว่า คุณภูมิใจในตัวลูก มากแค่ไหน
การพูดให้กำลังใจด้วยการบอกว่าคุณภูมิใจในตัวพวกเขา เมื่อเห็นว่าลูกๆของทำในสิ่งดี และเป็นประโยชน์ต่อคนอื่น ทำให้พวกเขามีแรงผลักดันให้อยากทำเรื่องราวดีๆแบบนี้อยู่เรื่อยๆ
15. ควรรับฟังลูกเสมอ
พ่อแม่ควรรับฟังความทั้งสองฝ่าย และบอกว่าอะไรคือส่วนที่ถูก และอะไรคือส่วนผิด เป็นฝึกให้ลูกเข้าใจว่าการพูดคุยและรับฟังเป็นการแก้ปัญหาที่ดีสุด ทั้งยังเป็นการใช้เวลาร่วมกันในการฟัง
ขอบคุณข้อมูลจาก news.voicetv.co.th