งานวิจัยเผย อนาคตลูกพัง-เจ๊ง ได้ เพราะพ่อแม่ ช่วยลูกทำการบ้าน ไม่อยากทำลายชีวิตลูก..ต้องอ่าน ที่เป็นเช่นนั้นเพราะอะไร?
นักวิจัยเตือน! ช่วยลูกทำการบ้าน = ทำลายชีวิตลูก
การที่พ่อแม่ ช่วยลูกทำการบ้าน ถือเป็นเรื่องดี เพราะเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ช่วยสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวให้พ่อแม่ลูกได้ใช้เวลาร่วมกัน แต่การช่วยลูกทำการบ้านในที่นี้ ไม่ใช่พ่อแม่ลงมือลงแรงทำหรือหยิบจับขีดเขียนให้ลูก แต่ควรต้องเป็นเพียงให้แนวความคิด ช่วยสอน หรือให้กำลังใจอยู่ข้างๆ เพราะหากคุณพ่อคุณแม่ลงมือทำเสียเอง ก็อาจส่งผลเสียต่อลูกน้อยได้
ซึ่งเรื่องนี้ก็มีงานวิจัยออกมายืนยัน โดย จูดิธ ล็อค นักจิตวิทยาคลินิก จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีควีนส์แลนด์ รัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย พิมพ์เผยแพร่งานวิจัยเชิงจิตวิทยาครั้งใหม่ ที่แสดงให้เห็นถึงผลกระทบจากการที่พ่อแม่ ผู้ปกครองที่รักลูกหลานมากจนเกินไป จนเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการทำการบ้านของลูกๆ มากจนเกินไป โดยชี้ให้เห็นว่า … ในที่สุดแล้วจะส่งผลกระทบต่อเด็กๆ เหล่านั้นไม่น้อย
โดยงานวิจัยดังกล่าว ใช้วิธีการสำรวจพฤติกรรมผ่านแบบสอบถามออนไลน์ของผู้ปกครองของเด็กจำนวน 866 คนจากโรงเรียนในระดับมัธยมในหัวเมืองชั้นใน 3 โรงเรียน โดยตั้งคำถามเกี่ยวกับความเชื่อในความเป็นพ่อแม่ และความมุ่งมั่นในฐานะพ่อแม่ กับการใช้มาตรวัดทัศนคติของผู้ปกครองกลุ่มดังกล่าว เชื่อมโยงกับการบ้านของเด็กนักเรียนที่เป็นลูกหลานได้รับ
จากนั้นนำคำตอบที่ได้มาแปลงเป็นคะแนนตามมาตรวัดที่เรียกว่า “ล็อค แพเรนติ้ง สเกล” หรือ “แอลพีเอส” … โดยผู้ที่ได้คะแนนสูงจะเป็นผู้ที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการทำการบ้านของลูกมากเกินไป หรือในบางกรณีถึงกับทำการบ้านแทนลูกเพื่อให้งานที่ได้รับมอบหมายมาแล้วเสร็จ
จูดิธ ล็อค สรุปไว้ในงานวิจัยว่า … พฤติกรรมของพ่อแม่ที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการทำการบ้านของลูกมากเกินไป จะส่งผลบั่นทอนขีดความสามารถในการเรียนรู้ด้วยตัวเองของเด็ก และทำให้เด็กขาดแรงจูงใจในการทำงานให้แล้วเสร็จได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องมีใครช่วย ทำให้เด็กขาดความรับผิดชอบ ไม่เข้าใจถึงผลลัพธ์จากการกระทำใดๆ ของตนเอง