น้องพีทอาละวาดแผลงฤทธิ์ไม่อยากไปโรงเรียนทุกเช้าเลย แต่พอคุณแม่ไปรับตอนบ่ายๆ หนูน้อยกลับดูมีความสุขดี แถมบางทียังไม่อยากกลับบ้านเสียด้วยซ้ำ เขาไม่ชอบโรงเรียนนี้หรือเปล่านะ
ปัญหาน่าจะเป็นการปรับตัวจากบ้านสู่โรงเรียนเสียมากกว่า หากลูกเป็นแบบนี้ไม่นานนัก และดูมีความสุขดีที่โรงเรียน ก็คงไม่มีอะไรต้องกังวล เมื่อยอมรับกิจวัตรใหม่และสภาพแวดล้อมที่โรงเรียนได้แล้ว เขาจะค่อยๆ งอแงน้อยลงเอง และในที่สุดเด็กๆ ก็จะผ่านพ้นช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ได้ด้วยดี คุณช่วยลูกได้โดย
- ให้ลูกนอนให้พอ กินให้อิ่ม และไม่ต้องรีบร้อนออกจากบ้านจนเกินไป
- ถ้าโรงเรียนอนุญาต ก็ให้ลูกพกของรักของหวงติดไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นผ้าห่มเน่า หรือพี่หมีที่เคยหิ้วติดตัวไปทุกที่
- ให้นำของชิ้นเล็กๆ จากคุณไปด้วย เผื่อคิดถึง เช่น ผ้าเช็ดหน้ารูปถ่าย หรือกระเป๋าสตางค์เก่า
- ระหว่างนั่งรถก็ชวนคุยให้ลูกค่อยๆ ปรับตัวก่อนที่จะต้องเดินเข้าประตูโรงเรียนไป เช่น ถามถึงเพื่อนในห้องหรือขนมที่เขาชอบ
- ยิ้มเข้าไว้ อย่าแสดงความกังวลให้ลูกเห็น ถ้าคุณยังลังเลแล้วลูกจะมั่นใจได้อย่างไร
- ไปโรงเรียนแต่เช้าหน่อย ลูกจะได้ค่อยๆ ปรับตัวก่อนที่เพื่อนจะมากันเต็มห้อง เด็กบางคนอยากให้แม่ใช้เวลาอยู่ด้วยสักพัก แต่บางคนยิ่งอยู่นานยิ่งงอแง รีบส่งรีบกลับจะดีกว่า
- บอกเวลามารับกลับที่ลูกเข้าใจได้ เช่น หลังนอนกลางวันหรือหลังกินขนมตอนบ่าย อย่าห่วงหน้าพะวงหลัง เดินจากมาอย่างรวดเร็ว และอย่าหันกลับตามเสียงเรียกร้องของลูกเด็ดขาด
- ขอให้คุณครูคอยเป็นผู้ช่วยรับช่วงต่อ หรือแม้กระทั่งช่วยแกะมือลูกออกจากขาของคุณ!
- ถ้าเห็นได้ชัดว่าคนอื่น เช่น คุณพ่อหรือคุณตาไปส่งอาจง่ายกว่า ก็เปลี่ยนมือให้ท่านรับหน้าที่ในช่วงแรกแทนไปก่อนได้เลย
- ไปรับลูกให้ตรงเวลาและอย่าพูดถึงเรื่องเมื่อเช้า คุยเรื่องสนุกๆ ที่โรงเรียน หรือสิ่งที่จะทำด้วยกันเมื่อถึงบ้านดีกว่า
อาจมีสาเหตุสำคัญอื่นๆ อีกที่ทำให้ลูกไม่อยากไปโรงเรียน เช่น ความเจ็บป่วย ความเครียดจากความเปลี่ยนแปลงในชีวิต (เช่น มีน้อง) หรือปัญหาที่โรงเรียนเอง (หลักสูตรที่ไม่เหมาะกับเด็ก หรือคุณครูที่ไม่เข้าใจความรู้สึกของเด็ก) ถ้าคุณคิดว่าลูกไม่อยากไปโรงเรียนด้วยสาเหตุเหล่านี้ ก็ต้องรีบจัดการหาทางแก้ไขในทันที
บทความโดย: กองบรรณาธิการนิตยสารเรียลพาเรนติ้ง