AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

7 ข้อห้าม อย่าบังคับให้ลูกทำหากยังไม่พร้อม!

อย่าบังคับให้ลูกทำ ถ้าไม่อยากให้ลูกต่อต้านพ่อแม่

” อย่าบังคับให้ลูกทำ “… เชื่อว่าความหวังดีหลายอย่างของพ่อแม่ แต่บางครั้งเรื่องบางเรื่องสำหรับลูกที่ยังอายุน้อย ก็ไม่จำเป็นต้องคาดคั้น  หรือบีบบังคับให้ลูกต้องทำในทันที เพราะอาจกลายเป็นดาบที่มาทิ่มแทงลูกน้อยให้เจ็บปวดโดยที่พ่อแม่ไม่รู้ตัว

เช่นเดียวกับการบังคับลูกหลายๆ เรื่องเพื่อปรับพฤติกรรมให้ได้ตามที่พ่อแม่คาดหวัง แต่ด้วยความเป็นเด็กพ่อแม่ควรมีวิธีในการฝึกหัด และค่อยๆ สอนลูกๆ แทนวิธีการบังคับซึ่งอาจส่งผลเสียกับพฤติกรรมของลูกมากกว่า จะมีเรื่องอะไรบ้างที่พ่อแม่ไม่ควรบังคับ ฝืนใจลูกจนเกินไป มาลองดูกันค่ะ

7 เรื่อง อย่าบังคับให้ลูกทำ หากยังไม่พร้อม!

1.อย่าบังคับลูกให้ขอโทษ

ถึงแม้ว่าลูกของเราจะยังเด็กแต่พวกเขาก็มีความรู้สึกอายและไม่พร้อมที่จะทำอะไรสักอย่างได้เหมือนกัน ดังนั้นหากลูกทำผิด คุณพ่อคุณแม่ควรที่จะให้เวลาพวกเขาสักนิด เพื่อให้เขาได้เย็นลง และค่อยเรียกลูกกลับมาคุยกันด้วยเหตุผลอีกครั้งว่าสิ่งที่พวกเขาทำนั้นถูกหรือผิดอย่างไร หากเราคุยกันด้วยเหตุผลย่อมดีกว่าการพูดคุยกันด้วยอารมณ์ เพราะขนาดเราเป็นผู้ใหญ่  กว่าที่เราจะเอ่ยปากขอโทษใครสักคนได้นั้น อาจจะยังต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งเลยจริงไหมคะ ดังนั้นเพื่อความสัมพันธ์ที่ดีในระยะยาว คุณพ่อคุณแม่ควรที่จะใจเย็นและให้เวลาลูกๆได้นึกคิดถึงสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นว่าพวกเขาได้ทำอะไรลงไปบ้าง

2.อย่าเคี่ยวเข็ญให้ลูกกิน

ไม่มีคุณพ่อคุณแม่ท่านไหนหรอกค่ะ ที่อยากให้ลูกรับประทานของที่ไม่มีประโยชน์ ทั้งนี้วิธีการนำเสนอนั้นเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณพ่อคุณแม่มือใหม่คะ หากเราต้องการให้ลูกรับประทานผักหรือผลไม้ เราควรที่จะสรรหาวิธีการนำเสนอ ยกตัวอย่างเช่น การจัดรูปแบบจาน สี ให้ดูดึงดูดน่ารับประทาน หรืออาจจะให้ลูกเข้าครัวมาทำกิจกรรมร่วมกับเรา แล้วบอกลูกๆว่า นี่คืออาหารที่ลูกทำเมื่อสักครู่นี้ไงละจ้ะ ไหนหนูลองชิมสิจ๊ะว่าอร่อยมากแค่ไหน แค่นี้นอกจากลูกจะรู้สึกภูมิใจในตัวเองแล้วยังอยากที่จะลองชิมฝีมือของตัวเองอีกด้วยนะคะ

3.อย่าบังคับลูกให้อ่านหนังสือ

เข้าใจค่ะว่าคุณพ่อคุณแม่ทุกคนต้องการให้ลูกเป็นคนเก่ง ฉลาด และรักการอ่าน แต่บ่อยครั้งที่เราจะพบว่าลูกๆ ปฏิเสธการอ่านหนังสือ ทั้งๆ ที่หนังสือเล่มนั้นเป็นหนังสือที่ดีและสนุก ดังนั้นแทนที่เราจะบังคับให้ลูกหยิบหนังสือนิทานสักเล่มมาอ่าน เปลี่ยนเป็นคุณพ่อคุณแม่เล่านิทานให้ลูกๆ ฟัง โดยใช้โทนเสียงที่ฟังดูแล้วน่าตื่นเต้น หรืออาจจะมีอุปกรณ์เสริมมาใช้ประกอบการเล่า  ยิ่งถ้าเราสามารถนำเสนอออกมาได้น่าสนใจมากเท่าไหร่ เจ้าตัวน้อยก็ยิ่งติดใจและอยากลองเลียนแบบตามคุณพ่อคุณแม่บ้าง  ไม่นานเขาก็จะอยากอ่านหนังสือเองค่ะ

อ่านต่อ >>เรื่องที่พ่อแม่ไม่ควรบังคับ ฝืนใจลูก” ข้อ 4-7 คลิกหน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

4.อย่าบังคับลูกให้เรียนเสริมในวิชาที่เขาไม่อยากเรียน

คุณพ่อคุณแม่ส่วนใหญ่ย่อมอยากให้ลูกมีความรู้ความสามารถในหลายๆ ด้าน แต่บางครั้งการฝืนใจให้ลูกทำในสิ่งที่พวกเขาไม่อยากทำ ผลลัพธ์ที่ออกมาย่อมไม่ค่อยดีเท่าที่ควร เพราะเด็กทุกคนย่อมมีความสามารถและความสนใจที่แตกต่างกันออกไป ทางที่ดีเรามาช่วยกันสังเกตดีกว่าไหมคะว่า ลูกเราสนใจวิชาอะไร หรือกิจกรรมอันไหนเป็นพิเศษ แล้วเราค่อยหันมาให้การสนับสนุนส่งเสริมพวกเขาตามกำลังที่เราสามารถจะทำได้ มั่นใจว่าผลลัพธ์ที่ออกมาย่อมเป็นไปในทางบวก แถมยังกระชับสัมพันธ์กันในครอบครัวได้อีกด้วย

5.อย่าบังคับให้ลูกแบ่งปันหากลูกยังไม่พร้อม

การสอนให้ลูกรู้จักแบ่งปันสิ่งของให้กับคนอื่นเป็นสิ่งที่ควรกระทำค่ะ แต่อาจจะต้องใช้เวลาสักระยะกว่าที่พวกเขาจะเข้าใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กเล็ก พวกเขาจะยังไม่เข้าใจว่า “ทำไมจะต้องแบ่งของเล่นหรือขนมของเขาให้กับคนอื่นด้วย” แต่สิ่งที่จะทำให้ลูกรู้จักแชร์ก่อนที่จะเข้าใจความสำคัญของการแบ่งปันนั่นคือ  การที่คุณพ่อคุณแม่เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเขานั่งเองค่ะ  เช่น แบ่งอาหารที่ทำให้กับเพื่อนบ้าน แบ่งขนมหรือของเล่นของลูกเราให้กับคนอื่นหรือแม้แต่คนในครอบครัวเดียวกันเอง   เมื่อลูกเห็นบ่อยเข้าก็จะทำตามแล้วเขาจะรู้เองว่าสิ่งที่ได้จากการแบ่งปันคืออะไร  เมื่อตัวเขาได้รับกลับมาเช่นกัน

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

6.อย่าบังคับให้ลูกนอน

ช่วงแรกๆ ของการฝึกให้ลูกนอนเป็นเวลานั้น ต้องยืดหยุ่น อย่าบังคับให้ลูกนอน แต่อาจใช้เทคนิคอื่นๆ แทน เช่น พาแกไปอยู่ในมุมเงียบๆ (หรือบนเตียงแกก็ได้) ห่างไกลจากสิ่งเร้าทั้งหลาย โอบอุ้มแกไว้ เล่านิทาน หรือเปิดเพลงคลอเบาๆ ให้แกรู้สึกว่ากล้ามเนื้อได้ผ่อนคลาย ลูกก็จะไม่ต่อต้าน เพราะไม่รู้สึกว่าวิธีปฏิบัตินี้เป็นการบังคับแต่กลับรู้สึกว่าพ่อแม่รัก

7.อย่าบังคับให้ลูกเลิกเล่นเกม เลิกเล่นอินเทอร์เน็ต

สมัยนี้การบังคับไม่ได้ผลแน่นอน ถ้าถึงเวลาที่ลูกอยากใช้งาน เราควรให้เขาได้ใช้งาน แต่คอยระวังให้อยู่ในสายตาแทนการบังคับ กำหนดเงื่อนไขเวลา และกฎ กติกาในการใช้งาน เพราะถ้าบังคับลูก เขาอาจจะแอบพ่อแม่ใช้งานเอง และตอนนั้นก็คงจะยิ่งลำบากในการดูแลสอดส่อง

รากฐานของครอบครัวเป็นสิ่งที่สำคัญ กว่าจะเลี้ยงลูกแต่ละคนให้เติบโตไปในทางที่ดี ไม่ใช่เรื่องง่าย กฎข้อบังคับต่างๆที่หละหลวมหรือเข้มงวดจนเกินไป ล้วนแล้วแต่ก่อให้เกิดปัญหา ดังนั้น กฎในครอบครัวควรมีความเหมาะสม และสมดุล เพื่อเราจะได้ลูกที่น่ารัก และครอบครัวที่มีความสุขตลอดไป เป็นกำลังใจให้ทุกครอบครัวเสมอค่ะ

อ่านต่อบทความน่าสนใจ คลิก!


ขอบคุณข้อมูลจาก : www.healthandtrend.com