AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

สมองเด็ก ระหว่างเพศหญิงและเพศชาย ต่างกันอย่างไร?

ไขข้อข้องใจความต่าง สมองเด็ก ระหว่างเพศหญิงและเพศชาย เพศไหนมีพัฒนาการดีหรือฉลาดกว่ากัน?!

 

 

คุณพ่อคุณแม่เคยสงสัยหรือเคยได้ยินคำที่เขาพูดกันหรือไม่คะว่า “เด็กผู้หญิงฉลาดกว่าเด็กผู้ชาย” แล้วสมองของทารกเพศชายนั้นมีน้ำหนักมากกว่าทารกเพศหญิง เรื่องนี้จะจริงเท็จมากน้อยเพียงใดนั้น วันนี้ทีมงาน Amarin Baby & Kids ได้เตรียมคำตอบเอาไว้ให้แล้วละค่ะ

จากการศึกษาของ Dr.Miriam Stoppard ราชบัณฑิต สำนักแพทยศาสตร์ ผู้ซึ่งจัดได้ว่าเป็นนักเขียนเรื่องราวของแม่และเด็กที่ได้รับความนิยมสูงสุดในสหราชอาณาจักรพบว่า “ขนาดสมองของทารกแรกเกิดเพศชายมีน้ำหนักมากกว่าขนาดสมองของทารกเพศหญิง 10-15 เท่า แต่ระบบการทำงานสมองทั้งสองซีกของทารกเพศหญิงจะสามารถมีพัฒนาการได้เร็ว และดีกว่าทารกเพศชาย”

เพราะอะไรถึงเป็นเช่นนั้น คลิกหาคำตอบกันได้ที่นี่!

 

 

 

เพราะอะไร สมองเด็ก ผู้หญิงถึงมีพัฒนาการเร็วกว่า?

เนื่องจากเยื่อหุ้มสมองของเด็กผู้หญิงโดยเฉพาะสมองซีกซ้าย ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมระบบความคิดและสั่งการเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวนั้นทำงานได้ดีกว่า ยกตัวอย่างเช่น

เมื่อทารกอายุ 6 เดือน เราจะสังเกตุเห็นว่าพัฒนาการของเด็กผู้หญิงนั้นจะเริ่มทิ้งห่างเด็กผู้ชายไปเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างทางสมอง อารมณ์ และร่างกาย เด็กผู้หญิงจะมีสมาธิอยู่กับของเล่นชิ้นโปรดได้นานกว่าเด็กผู้ชาย หรือแม้แต่ฟันน้ำนมก็จะขึ้นเร็วกว่าเด็กชายด้วย เด็กผู้หญิงสามารถใช้งานสมองทั้งซีกซ้ายและขวาที่ทำงานเชื่อมโยงกันอยู่ตลอดเวลาได้พร้อมกัน ทำให้เด็กผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะเก่งเรื่องการพูด อ่าน เขียน มีพัฒนาการเรื่องการใช้ภาษาได้เร็วกว่าและมากกว่าเด็กผู้ชาย ตลอดจนรับรู้ถึงความเป็นไปในสิ่งแวดล้อมรอบตัวได้เร็ว จึงดูมีความเป็นผู้ใหญ่กว่าเด็กผู้ชายในวัยเดียวกัน จึงไม่แปลกที่เมื่อลูกโตขึ้น เด็กผู้หญิงจะมีศักยภาพเรื่องการพูด อ่าน เขียนและเรียนรู้ภาษาได้ดีกว่านั่นเอง
แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าเด็กผู้ชายจะไม่เก่งนะคะ ด้วยความต่างกันนั้นเด็กผู้ชายเขาก็มีความเก่งเฉพาะตัวมากกว่าเด็กผู้หญิงเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น การทำงานของสมองซีกขวานั้นพัฒนาได้ดีกว่าเด็กผู้หญิง จึงไม่แปลกที่เด็กผู้ชายจะมีจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ และกล้าทดลองทำสิ่งต่าง ๆ รอบตัวมากกว่า นอกจากนี้ เด็กผู้ชายยังมีความถนัดในเรื่องของการกำหนดทิศทาง การกะระยะความห่างของวัตถุได้ดีกว่าเด็กผู้หญิงอีกด้วยเช่นกันค่ะ

อาหารชนิดไหนบ้างที่สามารถบำรุงสมองลูก คลิก!


เครดิต: MGR Online และ Momjunction

 

10 อาหารบำรุงสมองลูกน้อย

1.ปลาแซลมอน เพราะในเนื้อของปลาแซลมอนนั้นอุดมไปด้วย กรดไขมัน มีโอเมก้า 3 DHA และ EPA ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานั้น ถือว่ามีความจำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของร่างกายและสมองของลูกด้วยทั้งสิ้น

2. ไข่ ในไข่ 1 ฟองจะอุดมไปด้วยโปรตีน ยิ่งตรงไข่แดงจะอุดมไปโปรตีนเยอะที่สุด มีส่วนช่วยในการบำรุงสมอง ช่วยบำรุงร่างกายและช่วยฟื้นฟูสุขภาพของลูกให้แข็งแรง

3. เนย มีสารเลซิติน มีวิตามินอีที่มีศักยภาพในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องระบบประสาท ช่วยในการบำรุงสมองและเพิ่มความจำได้

4.ธัญพืช เช่น ซีเรียลธัญพืช รำข้าว หรือข้าวซ้อมมือ นอกจากจะให้พลังงานสูงแล้ว ยังงมีเส้นใยที่ช่วยในการควบคุมระดับของน้ำตาลในเลือด และมีวิตามินบีที่มีส่วนช่วยในความจำ และบำรุงสมองลูก

5.ข้าวโอ๊ต การให้ลูกรับประทานข้าวโอ๊ตเป็นอาหารเช้าเป็นประจำ จะช่วยให้สมองและร่างกายทำงานได้อย่างเหมาะสม เพราะในข้าวโอ๊ตนั้น อุดมไปด้วยวิตามิน B โทแทสเซียม และสังกะสี

6.ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ไม่ว่าจะเป็นสตอเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ ก็ล้วนแต่ให้คุณประโยนย์แก่ร่างกายด้วยทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของความจำ ระบบประสาทสมอง เพราะว่าผลไม่ตระกูลเบอร์รี่มีทั้ง วิตามิน C และโอเมก้า 3 เป็นต้น

7.ถั่ว เป็นอาหารสมองชั้นดีเพราะจะช่วยเพิ่มระดับพลังงานให้ร่างกายได้ หากลูกได้ทานแล้วจะช่วยเสริมความจำ บำรุงสมอง ช่วยในการเจริญเติบโตค่ะ

8.ผักสีสด ในผักสีสดนั้นจะอุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินจำนวนมาก อีกทั้งยังมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ที่มีส่วนช่วยในการพัฒนาระบบภูมิคุ้มกันและรักษาเซลล์สมองให้แข็งแรงขึ้นได้ค่ะ

9.นมหรือโยเกิร์ต ถือเป็นอาหารที่มีความจำเป็นต่อการเจริญเติมโตของเนื้อเยื่อสมองและเอนไซม์ ซึ่งมีส่วนช่วยให้ร่างกายมีความแข็งแรง และมีส่วนช่วยในการพัฒนาสมองด้วยค่ะ

10.เนื้อไม่ติดมัน ในเนื้อที่ไม่ติดมันจะมีเกลือแร่ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเจริญเติบโตของ เด็ก เพระช่วยพัฒนาความจำได้ค่ะ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ มาถึงตอนนี้คุณพ่อคุณแม่ก็พอจะทราบถึงความแตกต่างของสมองลูกไม่ว่าจะเป็นเพศหญิงหรือว่าเพศชายกันแล้ว แต่ไม่ว่าลูกจำเป็นเพศอะไร คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถบำรุงสมองของลูกให้ฉลาดได้ด้วยอาหาร 10 อย่างที่ได้กล่าวมาในข้างต้น … บำรุงสมองลูกให้ฉลาดแล้ว อย่าลืมบำรุงจิตใจของลูกให้เป็นคนดีจิตใจงามกันด้วยนะคะ

เครดิต: MThai

อ่านเรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:

 

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids