ลูกตาบอดสี รักษาได้ไหม อะไรคือสาเหตุของอาการ และจะรักษาได้หรือไม่ ไปหาคำตอบกันค่ะ
“ตาบอดสี” หรือเรียกอีกอย่างว่า Color Blindness เป็นที่ตาของผู้ป่วยแปรผลหรือแปลภาพสีผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริง เป็นอาการที่ไม่จำกัดว่าจะต้องเพศอะไร วัยไหน เพราะแม้แต่เด็กเล็ก ๆ ก็สามารถเป็นได้เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น คุณพ่อคุณแม่อาจจะเห็นว่าสีของต้นไม้นี้เป็นสีเขียว แต่ลูกกลับมองเป็นสีอื่น ก็เป็นได้ เรียกได้ว่าอาการดังกล่าวนั้นไม่ควรมองข้ามเลยละค่ะ เพราะมันสามารถกระทบถึงการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
อะไรคือสาเหตุ?
สาเหตุของตาบอดสีนั้น สามารถเป็นได้ตั้งแต่กำเนิด โดยถ่ายทอดผ่านทางกรรมพันธุ์ และจะพบมากในเพศชายประมาณ 8 เปอร์เซ็นต์ หากเปรียบเทียบกับเพศหญิงนั้น สามารถพบได้เพียง 0.4 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น หลัก ๆ แล้วสาเหตุของการที่ลูกตาบอดสีนั้นได้แก่
- เป็นมาแต่กำเนิด มีเรื่องของกรรมพันธุ์เข้ามาเกี่ยวข้อง ถ่ายทอดทางพันธุกรรมโดยโครโมโซม X ทำให้เพศชายถ้ามีหน่วยพันธุกรรม X ที่ทำให้เกิดตาบอดสี ก็จะแสดงอาการของตาบอดสีออกมา ในขณะที่เพศหญิงถ้าหน่วย X นี้ผิดปกติเพียงหนึ่งหน่วย ก็ยังสามารถมองเห็นได้ปกติเห็นปกติได้ ถ้าหน่วย X อีกตัวหนึ่งไม่ทำให้เกิดตาบอดสี
- ความผิดปกติของเม็ดสีและเซลล์รับแสงสีเขียวหรือแดง ถูกควบคุมด้วยยีนบนโครโมโซม x และมีการถ่ายทอดทางพันธุกรรมแบบ x-linked recessive จากแม่ไปสู่บุตรชาย เพราะเหตุนี้ตาบอดสีส่วนใหญ่มักจะเกิดกับเด็กผู้ชาย ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากมารดา ในเพศหญิงพบน้อยกว่าเพศชายประมาณ 16 เท่า หรือคือเป็นประมาณร้อยละ 0.4 ของประชากร ขณะที่ตาบอดสีทั้งหมด จะพบได้ประมาณร้อยละ 10 ของประชากร และเป็นการมองเห็นสีเขียวบกพร่องเสียประมาณร้อยละ 5 ของประชากร
- กลุ่มที่มีความผิดปกติมาตั้งแต่กำเนิด ตาทั้ง 2 ข้างจะมีอาการมองเห็นสีผิดปกติเหมือนกัน คงที่ไม่เปลี่ยนแปลง ผู้ที่สามารถเห็นสีได้ปกติ จะต้องมีเซลล์รับแสงสีที่จอประสาทตาครบทั้ง 3 สี คือ แดง เขียว และน้ำเงิน และมีปริมาณเม็ดสีในเซลล์ที่ปกติ รวมทั้งระบบประสาทตาและการแปลผลที่เป็นปกติด้วย
- ส่วนความผิดปกติของเม็ดสี และเซลล์รับแสงสีน้ำเงินนั้น ถูกควบคุมด้วยยีนบนโครโมโซม 7 จึงมีการถ่ายทอดแบบ autosomal dominant ซึ่งจะพบผู้ป่วยกลุ่มนี้ได้น้อย
คลิกดูวิธีการตรวจสอบว่าลูกนั้นตาบอดสีหรือไม่
เครดิต: baby.haijai.com
วิธีการตรวจสอบว่า ลูกตาบอดสี หรือไม่?
เนื่องจากอุปกรณ์การเรียนการสอนของเด็กส่วนใหญ่นั้นต้องอาศัยสีเป็นหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กชั้นอนุบาล เวลาที่เด็ก ๆ ไม่สามารถบอกสีที่ถูกได้ก็จะทำให้คุณครูและผู้ปกครองเกิดความเข้าใจผิดว่า ลูกมีปัญหาในเรื่องของการเรียนรู้ แต่แท้จริงแล้วไม่ใช่เลย เพราะสาเหตุหนึ่งที่ไม่อยากให้มองข้ามก็คือ อาการตาบอดสีของลูกนั่นเอง และนี่คือวิธีตรวจสอบที่เรานำมาฝากค่ะ
ทดสอบตาบอดสีด้วยสมุดภาพ
ในการตรวจดูว่าเป็นตาบอดสีชนิดใดและในระดับใดนั้น จะมีการใช้แผ่นภาพทดสอบที่มีจุดสีหลาย ๆ สีและมีในระดับเฉดสีต่างกัน โดยแบบทดสอบดังกล่าวมีชื่อเรียกว่า Ishihara test ส่วนใหญ่พื้นหลังจะเป็นจุดสีเขียว ส่วนเส้นสร้างจากจุดสีแดงหรือส้ม ปัจจุบันมีแบบทดสอบที่ดัดแปลงไปแล้วบ้าง แต่ก็ยังคงลักษณะเดิมไว้ทุกประการหากการทดสอบปรากฏว่าตาบอดสี หากสามารถอ่าน และลากเส้นได้ถูกต้องทั้งหมด ถือว่าตาปกติ
วิธีการ คือ ให้ลูกมองที่ภาพสีด้านล่างค่ะ พร้อมกับถามพวกเขาว่าเห็นอะไรกันบ้างในภาพนี้
คำตอบ : ทุกคนสามารถมองเห็น วงกลม ดาว และสี่เหลี่ยม
หลังจากนั้น ก็ค่อย ๆ ให้ลูกมองที่ภาพสีด้านล่างดังต่อไปนี้ แล้วถามว่ามองเห็นเป็นรูปอะไรบ้าง
แบบทดสอบ ที่ 1
คำตอบ : เด็กตาบอดสีสามารถมองเห็นสี่เหลี่ยมสีเหลือง เพียงรูปเดียว เด็กสายตาปกติ สามารถมองเห็นทั้งสี่เหลี่ยมสีเหลือง และวงกลมสีน้ำตาลจาง ๆ
แบบทดสอบ ที่ 2
คำตอบ : เด็กตาบอดสี สามารถมองเห็นวงกลมสีเหลือง เพียงรูปเดียว เด็กสายตาปกติ สามารถมองเห็นทั้งวงกลมสีเหลือง และสี่เหลี่ยมสีน้ำตาลจางๆ
แบบทดสอบ ที่ 3
คำตอบ : เด็กตาบอดสี มองเห็นเป็นเพียงจุด แต่ไม่มีรูปใดๆเลย เด็กสายตาปกติ สามารถมองเห็นรูปเรือใบสีน้ำตาลจาง ๆ
แบบทดสอบ ที่ 4
คำตอบ : เด็กตาบอดสี มองเห็นวงกลมสีส้มเข้ม แต่จะมองไม่เห็นดวงดาว ส่วนเด็กสายตาปกติ สามารถมองเห็นทั้งวงกลมและดวงดาว
คลิกดูวิธีการทดสอบแบบอื่นเพิ่มเติม
สำหรับเด็กที่เข้าใจและสามารถอ่านตัวเลขได้นั้น
สามารถลองทดสอบได้ตามแผ่นภาพดังนี้ค่ะ
มีวิธีการรักษาหรือไม่?
ในรายที่เป็นไม่รุนแรงนั้น ผู้ป่วยจะไม่มีอาการแต่อย่างใด ส่วนในรายที่เป็นรุนแรง ผู้ปกครองอาจจะสังเกตพบตอนเป็นเด็ก อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังไม่มีการรักษาเฉพาะ ถ้าเป็นแล้ว จะเป็นตลอดชีวิตโดยเฉพาะแบบที่เป็นมาตั้งแต่กำเนิดค่ะ ยังไม่พบวิธีรักษาที่ได้ผล แต่อาการตาบอดสีก็ไม่แย่ลงเมื่ออายุมากขึ้นหรือไม่เป็นเหตุให้เกิดปัญหาทางสายตาอย่างอื่น ส่วนประเภทที่เกิดจากโรคต่าง ๆ ที่มีผลต่อจอประสาทและเส้นประสาทตา เมื่อเกิดอาการมองเห็นสีผิดปกติไปให้รีบมารับการตรวจรักษา อาจป้องกันไม่ให้เกิดความผิดปกติถาวรได้
ทั้งนี้ ก็เป็นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่ที่จะต้องสังเกตลูก ๆ แล้วละค่ะ ว่าสามารถมองเห็นสีได้ชัดเจนหรือไม่ หากลูกยังตอบไม่ได้ในช่วงแรก ให้สันนิษฐานก่อนนะคะว่า ลูกอาจจะยังไม่เข้าใจสี รูปทรงหรือตัวเลข ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่จึงจำเป็นที่จะต้องทดสอบเรื่องดังกล่าวก่อนที่จะให้ลูกมาทดสอบเรื่องสี ที่สำคัญ อย่าเพิ่งหงุดหงิด หรือดุว่าลูกหากลูกตอบผิดหรือตอบไม่ได้นะคะ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนสำหรับเด็กจริง ๆ ค่ะ
เครดิต:Haamor
อ่านต่อบทความอื่น ๆ คลิก!
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่