AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

หมอฟันอึ้ง! เด็ก 3 ขวบ ฟันผุแทบหมดปาก มาดูกันว่าเป็นเพราะอะไร..

ลูกติดหวาน น้ำตาล โซดา สาเหตุทำให้ฟันผุ

ฟันผุ ผลแฝงของน้ำตาลจากอาหาร อย่างที่เราทราบกันดีกว่าอาหารหวาน น้ำหวาน ของหวานไม่ดีสำหรับเด็ก ในแง่ของแคลอรี่สูงอาจทำให้เด็กเป็นโรคอ้วนจากพลังงานที่เกินกว่าความจำเป็น แต่พ่อแม่ส่วนมากลืมไปว่าของหวานนั้นส่งผลต่อสุขภาพในช่องปากของลูกด้วย ภาพที่หยิบยกมานี้อาจจะดูโหดไปเสียหน่อย แต่นี่คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง และเกิดขึ้นบ่อย จนคุณหมอฟันเห็นแล้วอยากจะร้องไห้แทนเจ้าหนูน้อยผู้น่าสงสาร

 

ข้อมูลจาก CDC ระบุว่า ร้อยละ 42 ของเด็กอายุ 2 – 11 ปี จะมีฟันขึ้นมาเกือบครบทั้งปากแล้ว และร้อยละ 21 ของเด็กอายุ 6 – 11 ปี จะเริ่มมีฟันแท้ขึ้นมาแทนที่ หากย้อนกลับไปในปี 2012 นิวยอร์กไทม์ได้รายงานว่าทันตแพทย์มีการใช้การดมยาสลบกับเด็กเพื่อทำฟันมากขึ้น เพื่อป้องกันเด็กดิ้นและไม่อยู่นิ่งขณะทำฟัน

ที่มาจาก Choose Health LA

ฟันผุ จากน้ำหวานปัญหาใหญ่ระดับโลก

ช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา (2016) เด็กชายวัย 3 ขวบจากนิวซีแลนด์ มีฟันทั้งหมด 11 ซี่ ที่ผุและน่าตกใจมาก เพราะเป็นฟันที่ได้รับผลกระทบจากน้ำตาลอย่างหนัก ซึ่งหากเป็นสหรัฐอเมริกา จะพบว่าทางตอนใต้ของรัฐนิวยอร์กไปจนถึงรัฐอลาบามาจะเป็นรัฐที่พบปัญหาฟันของเด็กจากน้ำอัดลมอย่างมากที่สุด  มีน้ำอัดลมยี่ห้อหนึ่งที่เด็กๆ นิยมกันมาก จนเกิดเป็นปัญหาฟันผุลุกลาม

ล่าสุดมีข่าวคุณแม่จากนิวซีแลนด์พาลูกไปหาหมอฟันจากสภาพฟันผุอย่างรุนแรง คุณหมอนับฟันที่พังไปทั้งหมดได้ 11 ซี่ เพราะน้องติดดื่มน้ำหวานโซดาใส่แก้วมาตั้งแต่วัยเตาะแตะ

ในปีเดียว คุณหมอ Dr. Robert Beaglehole ได้สกัดฟันผุ 60 ซี่จากเด็กหลายๆ คน ก็เจอปัญหาฟันกับน้ำอัดลม น้ำหวานต่างๆ เช่นเดียวกับเด็กชายผู้นี้ ซึ่งสอดคล้องกับคำแนะนำจากสมาคมทันตแพทย์นิวซีแลนด์ที่พยายามรณรงค์ให้คุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองควรให้เด็กได้รับน้ำและน้ำนมเพียงอย่างเดียว

ที่มาจาก Rob Beaglehole Stuff NZ

ทำอย่างไรดี ปัญหาฟันเด็กไม่ได้มีสาเหตุมาจากน้ำอัดลมเพียงอย่างเดียว

นอกจากน้ำตาลกับน้ำอัดลมแล้ว อาหารและของว่างทุกอย่างที่ทางโรงเรียนจัดไว้ให้กับเด็ก และการพบเห็นขนมแจกตามงานอีเว้นท์ออกบูธเชิงพานิชย์ต่างๆ นอกบ้านนั้นเต็มไปด้วยขนมหวาน ตอบสนองความต้องการของเด็ก แต่เป็นอันตรายต่อฟันของลูกอย่างมาก

ที่สำคัญอย่างมากคือ พ่อแม่ไม่ควรจะใส่ของหวานอื่นนอกจากนมกับน้ำลงในขวดนมของลูก!!!

ที่มาจาก Rob Beaglehole Stuff NZ

คุณหมอขอเตือนพ่อแม่ถึงอันตรายของการไม่ดูแลฟันลูก

อย่างไรก็ดี อาหารที่เขียนระบุว่า Sugar Free ก็ไม่ได้หมายความว่าจะปลอดภัยกับฟันของคุณกับลูกด้วย ตราบที่ไม่ได้รับการทำความสะอาดที่ดี

อย่างไรก็ดี ของหวานถือเป็นดาบสองคม แม้อาหารหวานจะเป็นปัญหาต้นๆ ของฟันที่ทันตแพทย์กุมขมับ แต่ประโยชน์ของอาหารหวานๆ ที่เป็นแหล่งพลังงานที่ดีให้กับเด็กก็มี คุณพ่อคุณแม่ควรพยายามลดน้ำหวาน น้ำอัดลม ที่อาจมีผลร้ายต่อสุขภาพฟันของลูก และช่วยกันดูแลช่องปากของเด็ก แม้ว่าลูกจะแปรงฟันเองได้แล้ว แต่ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจ

เด็กอายุวัย 3 – 6 ปี สามารถจับแปรงได้แต่แปรงได้ไม่สะอาด ก่อนนอนพ่อแม่ควรจะขอเช็คและใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเช็ดอีกรอบ ให้กิจกรรมทำความสะอาดฟันดูเป็นเรื่องสนุก ไม่ใช่เป็นการบังคับ

ในส่วนเด็กวัย 6 – 9 ปี คุณพ่อคุณแม่ปล่อยให้แปรงฟันได้เอง หากลูกแปรงไม่สะอาดก็อาจช่วยจับแปรงให้กระชับขึ้น

และในเด็กวัย 11 ปีขึ้นไป ที่วางใจแล้วว่าปลูกฝังเรื่องการทำความสะอาดฟันมาดี ก็ปล่อยให้แปรงเองได้แล้ว แต่ทั้งหมดนี้ก็อย่าลืมพาลูกไปเช็คสุขภาพฟันกับทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างน้อยทุก 6 เดือน

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

อ่านต่อ ลูกฟันผุ ทำยังไงดี ? คลิกหน้า 2

ลูกฟันผุ ทำยังไงดี ?

ฟันผุเกิดจากแบคทีเรียที่อยู่ในปากย่อยน้ำตาล (กลูโคสฟรักโทส ซูโครส) ที่เกาะติดกับเนื้อฟัน ทำให้เกิดสารที่เป็นกรดทำลายเคลือบฟัน

 

ปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงทำให้ฟันผุ ได้แก่

อาหารที่ช่วยทำให้สุขภาพฟันแข็งแรง คือ

อาหาร 5 หมู่โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารที่มีแร่ธาตุที่จำเป็นต่อฟัน คือแคลเซียมฟอสฟอรัส แมกนีเซียม วิตามินดี วิตามินซี ฟลูออไรด์ไซลิทอล เช่น ผักใบเขียว นมถั่วเหลือง ถั่วเมล็ดแห้งปลาเล็กปลาน้อย กุ้งแห้ง งาดำ ผักสีเขียว ผลไม้

ลูกฟันผุ ทำไงดี

การป้องกันฟันผุที่มีประสิทธิภาพ คือ

แนวทางการรักษาของทันตแพทย์ เมื่อพบฟันผุในเด็กเล็ก

  1. ดูลักษณะของการผุ และอาการปวด บวม รวมทั้งโรคประจำตัว การแพ้ยา สุขภาพร่างกาย
  2. ดูพฤติกรรมเด็ก ว่ายอมหรือไม่ยอม (มักขึ้นอยู่กับอายุเด็ก และพื้นฐานอารมณ์เด็ก แต่อย่างไรก็ตามความกลัวของเด็กอาจมีอิทธิพลเหนือสิ่งอื่นใด เด็กที่ปวดฟันหรือบวม รู้แน่ๆ ว่าต้องโดนทำฟัน หรือเด็กที่โดนขู่มาก ๆ จะกลัวการทำฟันมากกว่า)
  3. ดูว่าผู้ปกครองมีพฤติกรรมอย่างไร ซึ่งพฤติกรรมผู้ปกครองมีตั้งแต่ ปกป้องลูกมากเกินไป จนถึง ไม่สนใจลูกเลย ซึ่งวิธีการที่ทันตแพทย์จะนำมาวางแผนการรักษาย่อมแตกต่างกันไป
  4. ดูที่ตัวทันตแพทย์เอง หมอมีความพร้อมที่จะทำฟันให้เด็กหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นความเชี่ยวชาญ  ความพร้อมของเครื่องมือ และผู้ช่วย

การให้การรักษา เมื่อทันตแพทย์พิจารณาทั้ง 4 ประการแล้ว ก็จะบอกถึงการวางแผนการรักษา ซึ่งส่วนมากทันตแพทย์จะวางแผนการรักษาให้ครบทั้งปาก โดยทำเป็นส่วนๆ  เช่น ฟันหลังบน / ล่าง /ซ้าย/ขวา , ฟันหน้าบน/ล่าง เป็นต้น  ซึ่งผู้ปกครองมีสิทธิ์ไม่ทำตามก็ได้ ซึ่งอยู่กับการพูดของทันตแพทย์ และพื้นฐานของผู้ปกครอง

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

อ่านต่อ บทความน่าสนใจ คลิก

เตือนลูกฟันผุ พัฒนาการล่าช้า-เตี้ยแคระแกร็น

ระวัง “เป่าอาหาร” เท่ากับส่งต่อแบคทีเรีย “ ลูกฟันผุ ” ไม่รู้ตัว


ที่มา :

จากบทความ “Doctors Warn Parents About The Dangers Of Tooth Decay” Barbara Diamond, www.littlethings.com,

บทความ “ลูกฟันผุ ทำอย่างไรดี แพทย์หญิงสุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ กุมารแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านทารกแรกเกิด

https://www.gotoknow.org/posts/158861