อยากให้ลูกเป็น เด็กสองภาษา จำเป็นต้องส่งเขาเข้าเรียนโรงเรียนอินเตอร์ พร้อม 4 ข้อได้เปรียบของการพูดภาษาได้
คุณพ่อคุณแม่ว่าไหมคะว่า ยุคนี้ นอกจากจะเป็นยุคดิจิตอลแล้วยังเรียกได้ว่า เป็นยุคทองของภาษาอีกด้วย ใครมีภาษาดี มากกว่าหนึ่งขึ้นไป จัดได้ว่าเก่งอนาคตไกลแน่นอน ยิ่งยุคนี้เป็นยุคของ AEC ด้วยแล้ว บทบาทของภาษาจึงมีให้เราได้พบได้เห็นกันเป็นอย่างมาก
จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่มีการผุดของโรงเรียนสองภาษา และโรงเรียนอินเตอร์เพิ่มขึ้นมากมาย เพราะทุกคนรู้ดีว่า ของแบบนี้ได้ใช้แน่นอน … ครอบครัวไหนมีฐานะหน่อย ก็พากันส่งลูกเรียนโรงเรียนที่มีการสนับสนุนในเรื่องนี้ แต่ครอบครัวไหนที่มีฐานะปานกลาง ก็คงต้องช่วยเหลือตัวเองกันไป … จึงกลายเป็นที่มาของคำถามมากมายจากคุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ ท่านว่า “ฉันก็อยากให้ลูกได้ดี พูดภาษาเก่ง ๆ แต่ฉันไม่มีเงินมากมายขนาดนั้น แล้วฉันจะต้องทำอย่างไร”
อ่านต่อเนื้อหาเพิ่มเติม >>
จำเป็นหรือไม่ ที่ต้องส่งลูกเรียนโรงเรียนอินเตอร์?
หากเรามีฐานะหน่อย การส่งลูกเข้าเรียนโรงเรียนอินเตอร์ก็ดีนะคะ เพราะนอกจากจะได้ภาษาแล้ว ยังได้เพื่อนหลากหลายเชื้อชาติ ได้คุ้นสำเนียงภาษาอังกฤษของแต่ละประเทศ แถมเผลอ ๆ ยังได้ภาษาที่สามที่สี่เพิ่มขึ้นโดยไม่ต้องเสียเงินอีกด้วย แต่!! หากเราไม่มีฐะนะมากมายขนาดนั้นละ … แปลว่าลูกของเราจะกลายเป็นเด็กสองภาษาไม่ได้อย่างนั้นหรือ?
ไม่จริงหรอกค่ะ … ทุกอย่างอยู่ที่ตัวคุณพ่อคุณแม่เป็นคนปลูกฝังเอง … ยุคนี้สมัยนี้ แทบจะไม่มีโรงเรียนไหนแล้วที่ไม่สนับสนุนให้เด็ก ๆ พูดภาษาอังกฤษเป็น โดยจะเห็นได้จากการที่หลาย ๆ โรงเรียนนั้น จัดให้มีระบบการเรียนแบบสองภาษาแยกออกไปจากการเรียนแบบปกติ แน่นอนว่า ค่าเทอมอาจจะแพงขึ้นมาอีกนิดนึง แต่ก็ไม่ถึงกับโรงเรียนอินเตอร์แน่นอน ซึ่งการเรียนแบบสองภาษานั้น ลูกจะได้เรียนวิชาอื่นเป็นภาษาอังกฤษเพิ่มเติม ที่ไม่ใช่แค่วิชาภาษาอังกฤษเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น วิชาเลข วิชาสังคมศึกษา และวิชาวิทยาศาสตร์เป็นต้น
ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าหากคุณพ่อคุณแม่คิดว่า โอ้ย…มันหนักเกินไป ก็ไม่ต้องกังวลไปเลยนะคะ เพราะแต่ละโรงเรียนนั้น เค้าได้เพิ่มวิชาภาษาอังกฤษให้มีัชั่วโมงเรียนมากขึ้น … เรียกได้ว่าก็ดีในระดับหนึ่งเลยละค่ะ แต่ก็ต้องยอมรับด้วยนะคะว่า การเรียนแบบปกตินั้น อาจจะไม่ได้ใช้บ่อยเท่ากับสองแบบที่กล่าวมาแล้วในข้างต้น
อย่างไรก็ดี ไม่ว่าลูกเราจะเรียนโรงเรียนไหนก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดนั้นไม่ใช่โรงเรียนค่ะ หากแต่เป็นการฝึกฝนให้พวกเขาได้พูดได้ใช้บ่อย ๆ นั่นเอง ฝึกให้ลูกกล้าคิด และมั่นใจ ไม่ต้องไปกลัวว่า จะพูดผิด … เพราะภาษาอังกฤษหรือภาษาอื่น ๆ นั้น หากมัวแต่กลัวและไม่กล้า … โอกาสที่จะทำให้ลูกพูดได้นั้น ก็ลดน้อยลงไปอีกด้วย
ยิ่งยุคนี้สมัยนี้ เป็นยุคของดิจิตอล ทำไมเราไม่ใช้สิ่งเหล่านี้ให้เกิดประโยชน์กันละคะ … หลายครั้งที่คุณพ่อคุณแม่จะเห็นว่า มีเด็กหลาย ๆ คนที่ไม่ได้เรียนโรงเรียนแพง ๆ แต่พวกเขาสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ดีกว่าเด็กที่เรียนโรงเรียนเหล่านั้น? เรียกได้ว่าสำเนียงเป้ะเว่อร์เยี่ยงเจ้าของภาษามาเองเสียด้วย … เมื่อเราทุกคนย้อนไปดูคำตอบ ก็พบว่า เด็กเหล่านี้ ได้รับการสนับสนุนจากคุณพ่อคุณแม่นั่นเอง ไม่ว่าจะเป็น การเปิดคลิปการ์ตูน หรือให้ลูกดูหนังที่เป็นภาษาอังกฤษ เป็นต้น เพราะฉะนั้น การที่เราจะฝึกให้ลูกกลายเป็นเด็กสองภาษาก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
อ่านต่อ 4 ข้อได้เปรียบของการที่ลูกพูดภาษที่สองได้ >>
4 ข้อได้เปรียบของการเป็น เด็กสองภาษา
(1) ประโยชน์ทางด้านภาษา การฝึกให้ลูกได้รู้จักกับภาษาที่สองนั้น ถือเป็นการฝึกสมองอย่างดี เพราะสมองจะถูกกระตุ้นให้เรียนรู้คำศัพท์และไวยากรณ์ของทั้งสองภาษา และเมื่อลูกพูดได้ก็ค่อยหาวิธีเปลี่ยนจากภาษาหนึ่งไปใช้อีกภาษาหนึ่งให้ได้ด้วย ข้อดีกว่านั้นคือ เด็กสองภาษาไม่เพียงแต่รู้คำศัพท์ของภาษาที่สองเท่านั้น แต่ยังสามารถเปรียบเทียบ แปล ผสมคำ ในแต่ละภาษาและเข้าใจความหมายของคำเหล่านั้นด้วย การใช้สมองในเรื่องภาษา จึงเป็นแบบฝึกหัดอันซับซ้อนที่เข้ามาในชีวิตของเด็กสองภาษาอย่างเป็นธรรมชาติตั้งแต่ยังเด็ก
(2) ประโยชน์ทางวิชาการ จากมุมมองทางวิชาการ เด็กสองภาษามีข้อได้เปรียบมากมาย งานวิจัยพบว่า เมื่อถึงเวลาตอบข้อสอบ เด็กสองภาษาจะมีความคิดสร้างสรรค์และตอบได้ละเอียดมากกว่าเด็กที่รู้แค่ภาษาเดียว อาจเป็นเพราะรู้คำศัพท์ในหลายภาษาจึงทำให้เกิดความคิดพลิกแพลงและยืดหยุ่นกว่าก็ได้ นอกจากนี้ยังมีข้อมูลที่ได้จากการศึกษาเด็กชั้นประถมในรัฐลุยเซียนา ยืนยันได้ว่า การเรียนภาษาต่างชาติช่วยให้ผลการเรียนของเด็กโดยรวมดีขึ้น เด็กสองภาษามีนิสัยฝึกคิดเชิงวิเคราะห์ตั้งแต่เล็ก เพราะเรียนรู้ที่จะฝึกแตกคำออกเป็นส่วน ๆ ผ่านการเรียนภาษา งานวิจัยพบว่า เด็กสองภาษามีความสามารถในการรับรู้และแยกหน่วยเสียง จึงเข้าใจเสียงที่แตกต่างกันในหนึ่งคำได้ ซึ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเด็กก่อนวัยเรียนและวัยอนุบาล เพราะขั้นแรกของการฝึกอ่านคือ ต้องเรียนรู้ที่จะฟัง และแตกคำหนึ่งคำให้เป็นเสียงที่แตกต่างกันให้ได้ก่อน
(3) ประโยชน์ทางกระบวนการคิด ทำให้ลูกมีความสามารถในการคิดและการแก้ปัญหาต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น สมองคนเราจะใช้ภาษาเป็นตัวแยกแยะและจัดระบบความคิดที่เป็นนามธรรม เป็นต้น งานวิจัยยังเผยว่า การรู้สองภาษาส่งเสริมความคิดเชิงนามธรรมอีกด้วย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เด็กสองภาษาซึ่งเชี่ยวชาญในการเปรียบเทียบและแยกแยะคำต่าง ๆ อยู่แล้ว จะได้เปรียบอีกในเรื่องการขบคิดปัญหาและค้นหาวิธีแก้ไขในทุกสถานการณ์ นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งงานวิจัยชี้ว่า สมองของเด็กสองภาษามีความสามารถดีกว่าในด้านแก้ไขปัญหา ความคิดสร้างสรรค์ และการจดจำ เด็กสองภาษาที่ชำนาญทั้งสองภาษาจะทำแบบทดสอบไอคิวได้สูงกว่าเพื่อนร่วมชั้นเล็กน้อย ซึ่งไม่ได้เป็นเพราะว่าเกิดมาเฉลียวฉลาดกว่า แต่เป็นเพราะเขามีประสบการณ์ในการพูดสลับภาษา จึงเป็นคนที่แก้ปัญหาได้พลิกแพลงกว่านั่นเอง
(4) ประโยชน์ทางด้านครอบครัวและชุมชน การรู้สองภาษาไม่ใช่แค่เรียนรู้คำในสองภาษาเท่านั้น แต่เป็นการเชื่อมโยงสองวัฒนธรรมที่แตกต่างกันเข้าด้วยกัน แม้เด็กจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตน แต่ก็อาศัยอยู่ในครอบครัว ชุมชนและโลกใบนี้ด้วย การเป็นเด็กสองภาษาจึงทำให้เขามีทักษะที่ดีกว่าในเรื่องของการสื่อสาร การเข้าใจโลกรอบตัว รับรู้ความต่างทางวัฒนธรรม และเข้าใจบทบาทอันหลากหลายของตัวเองในโลกใบนี้
เมื่อประโยชน์มากมายขนาดนี้แล้ว อย่ารอช้าค่ะ เรามาช่วยกันฝึกฝนลูกให้เป็นเด็กสองภาษากันง่าย ๆ ด้วยการฝึกพูด ฝึกคิด และฝึกอ่านไปพร้อม ๆ กัน โดยเริ่มจากศัพท์ง่าย ๆ ใกล้ตัวกันก่อนก็ได้นะคะ ของแบบนี้ยิ่งเร็วยิ่งได้เปรียบนะเออ
เครดิต: Womanlearns
อ่านต่อเรื่องอื่นที่น่าสนใจ:
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่