อุทาหรณ์ เด็กถูกเพื่อนแกล้งที่โรงเรียน ไม่ใช่แค่เมืองไทยเท่านั้นที่มีคลิปหลุดออกมาให้เห็นตามโซเซียลต่างๆ แต่ที่เมืองนอกก็มีเหมือนกัน ซึ่งปัญหานี้ดูเหมือนจะไม่มีทางแก้ไขให้หมดไปง่ายๆ ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีคลิปเตือนให้พ่อแม่หมั่นสังเกตพฤติกรรมอาการของลูกหลังกลับมาจากโรงเรียน เพื่อป้องกันปัญหาฆ่าตัวตายจากความกดดันกันค่ะ
อุทาหรณ์ เด็กถูกเพื่อนแกล้งที่โรงเรียน จนฆ่าตัวตาย
ผู้เขียนมีโอกาสได้ดูคลิปๆ นึงที่เพื่อนส่งมาให้ หลังจากดูจบแล้วรู้สึกจุกในอกมาก เพราะเป็นภาพเหตุการณ์ของหนุ่มน้อยวัย 8 ขวบที่ชื่อ Gabriel Taye กำลังถูกเพื่อนๆ ที่โรงเรียนรุมรังแกจนล้มลงไปกองกับพื้น กว่าจะมีคนมาช่วยเหลือร่างกายและสภาพจิตใจก็บอบช้ำมาก
หนุ่มน้อย Gabriel ถูกรุมทำร้ายในห้องน้ำของโรงเรียน ซึ่งถ้าดูจากภาพวีดีโอจะเห็นว่ามีอยู่จังหวะหนึ่งที่คุณครูเปิดประตูออกมาจากห้องเรียน แต่กลับไม่เห็นว่ามีเด็กนักเรียนกำลังตกอยู่ในสถานการณ์เลวร้ายนี้ และที่น่าเศร้าคือหลังจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้ 2 วัน Gabriel หนุ่มน้อยผู้น่าสงสารก็จบชีวิตตัวเองด้วยการฆ่าตัวตาย โดยที่เขาไม่ได้บอกสาเหตุจูงใจที่นำไปสู่การฆ่าตัวตายให้พ่อกับแม่รู้เลยสักนิด
บทความแนะนำ แม่ช็อก ลูกสาวถูกเพื่อนแกล้งจนอวัยวะเพศบวม
แต่สุดท้ายครอบครัวก็สืบจนรู้เรื่องว่าเพราะเหตุใดลูกชายตัวน้อยของพวกเขาถึงได้ฆ่าตัวตาย อยากให้พ่อแม่ได้ดูคลิปวีดิโอนี้ด้วยกันค่ะ เพื่อที่จะได้เตือนตัวเองว่าต้องให้ความสำคัญกับลูกให้มากขึ้น ต้องถามไถ่ พูดคุยกับลูกว่าเขามีปัญหาอะไรที่ยากลำบากในที่โรงเรียนหรือไม่ อย่าปล่อยให้ลูกต้องเก็บกดแก้ไขปัญหาเพียงลำพัง เพราะนั่นสามารถนำไปสู่โศกนาฏกรรมที่น่าเศร้าสะเทือนใจไปตลาดกาลได้ค่ะ
เชื่อว่าทุกคนในฐานะพ่อแม่หวังเหลือเกินค่ะว่า ปัญหาเด็กถูกเพื่อนแกล้ง หรือรุมรังแกจะหมดไปจากสังคมโรงเรียน เพราะโรงเรียนควรจะเป็นสถานที่ปลอดภัยสำหรับเด็กทุกคน เพื่อที่จะได้ศึกษาเล่าเรียนกันอย่างมีความสุขมากกว่าที่จะมาคอยระแวงว่าจะถูกเพื่อนๆ กลั่นแกล้ง
อ่านต่อ พ่อแม่จะรู้ได้อย่างไรว่าลูกถูกเพื่อนแกล้ง คลิกหน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
ลูกถูกเพื่อนแกล้งที่โรงเรียน พ่อแม่จะรู้ได้อย่างไร?
อย่างที่รู้กันว่าครอบครัว พ่อแม่ คือคนที่ลูกอยู่ด้วยแล้วจะรู้สึกอบอุ่นปลอดภัยทุกครั้ง ดังนั้นเมื่อถึงเวลาที่ต้องส่งลูกเข้าโรงเรียน ไม่ว่าลูกจะเรียนอยู่ชั้นอนุบาล วัยปฐมศึกษา หรือชั้นมัธยม จนเข้ามหาวิทยาลัย พ่อแม่ก็ยังต้องเข้ามามีบทบาทอย่างเหมาะสม เพื่อให้ลูกไม่รู้สึกโดดเดี่ยวอ้างว้างเมื่อเจอกับปัญหาต่างๆ นั่นเองค่ะ แต่ในช่วงวัยอนุบาล และชั้นประถมต้น เป็นช่วงที่ลูกต้องปรับตัวให้เข้ากับเพื่อน กับคุณครู และบรรยากาศใหม่ๆ ในโรงเรียน แน่นอนว่าปัญหาการถูกเพื่อนแกล้ง โดยหยอกล้อเล่นแรงๆ ที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งแน่นแนว่าลูกอาจไม่คุ้นชิน ทำให้แยกตัวออกห่างเพื่อนๆ เมื่อลูกยิ่งถอยเพื่อนๆ ก็ยิ่งแกล้งมากไปอีก แต่ไม่ว่าลูกจะถูกแกล้ง โดนรุมรังแกยังไง พ่อแม่ คุณครูเมื่อทราบเรื่องแล้วก็ต้องให้การช่วยเหลือ หาทางแก้ไขให้เร็วที่สุดค่ะ
- พ่อแม่ต้องย้ำบอกลูกเสมอๆ ว่า หากเขาถูกเพื่อนแกล้ง หรือมีปัญหาอุปสรรคอะไรที่โรงเรียน จะต้องบอกพ่อกับ แม่ หรือคุณครูทันที ควรบอกลูกด้วยว่าการพูดระบายปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องน่ากังวลอะไร เพราะการที่ลูกกล้าจะบอก จะพูดในเรื่องที่เกิดขึ้นตัวลูกก็จะได้รับการช่วยเหลือ และจะทำให้มีความสุขกับการเล่นกับเพื่อน ชอบอยากที่จะไปโรงเรียนมากขึ้นด้วย
- สอนลูกก่อนเข้าโรงเรียนว่า หากลูกถูกเพื่อนล้อเล่นแรงๆ หรือแกล้งมากๆ ลูกต้องควบคุมตัวเองอย่าแสดงอาการ กลัวให้เพื่อนที่แกล้งเห็น เพราะถ้าลูกแสดงอาการเข้มแข็ง ไม่กลัว พร้อมจะป้องกันตัว(ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่า สอนให้ลูกใช้กำลังนะคะ) เพื่อนคนที่ชอบเข้ามาแกล้ง มาล้อแรงๆ ก็จะไม่กล้าเข้ามา
- สอนลูกเสมอว่าถ้า หนูมีของเล่น หรือขนม ควรแบ่งปันให้กับเพื่อนๆ ด้วย หรือถ้าเพื่อนคนไหนต้องการความช่วยเหลือ ถ้าเราช่วยได้ควรให้ความช่วยเหลือเพื่อน เพราะการผูกมิตรจะเป็นการเพิ่มเกราะป้องกันตัวเองจากการถูกรุมแกล้งได้
บทความแนะนำ ทำอย่างไรเมื่อ…ลูกไม่อยากไปโรงเรียน !!
และที่สำคัญมากที่สุดคือ พ่อแม่ควรแจ้งให้คุณครูประจำชั้นลูกทราบด้วยถึงพฤติกรรมของเพื่อนลูก ที่ชอบมารุมแกล้ง รุมรังแก เพื่อที่ผู้ปกครองทั้งสองฝ่าย และคุณครูจะได้หาทางแก้ไขร่วมกัน เพราะหากปล่อยเรื่องไว้เด็กที่ถูกแกล้งก็จะเกิดความกดดัน และไม่มีความสุขกับการไปโรงเรียน จนสุดท้ายเด็กอาจหาทางออกด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้อง เหมือนอย่างกับหนุ่มน้อย Gabriel Taye ได้ค่ะ
อ่านต่อ สอนลูกให้รับมือเป็นเมื่อถูกเพื่อนแกล้ง คลิกหน้า 3
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
วิธีสอนลูกให้รับมืออย่างฉลาดเมื่อถูกเพื่อนที่โรงเรียนแกล้ง
พ่อแม่ทุกคนรักลูกเหมือนกันค่ะ ไม่ว่าจะลูกเรา หรือลูกเขา เมื่อเด็กๆ อยู่ที่โรงเรียนไม่ลูกเราไปแกล้งเขา ก็ลูกเขามาแกล้งลูกเรา ซึ่งหากพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายต่างหัวร้อนเข้าหากัน แน่นอนว่าย่อมไม่มีทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ค่ะ สำหรับครอบครัวไหนที่กำลังเจอกับปัญหาเรื่องลูกถูกเพื่อนที่โรงเรียนแกล้ง หรือเพื่อเป็นการสอนลูกให้รู้จักวิธีป้องกันตัวเองแบบฉลาดที่ไม่ต้องใช้ความรุนแรงเข้าใส่กัน คุณพ่อคุณแม่ลองดูวิธีสอนลูกรับมือจากเพื่อนแกล้ง ตามนี้ค่ะ
1. หลีกเลี่ยงพื้นเสี่ยง
ถ้าลูกเป็นเด็กตัวเล็กกว่าเพื่อนในชั้นเรียน ตรงนี้เคยเกิดขึ้นจริงกับลูกญาติผู้เขียนเองค่ะ เพราะความที่เป็นเด็กตัวเล็กจึงมักถูกเพื่อนๆ ในห้องบางคนแกล้งเอาเข้าให้ ทั้งดึงสมุดบ้าง เอารองเท้าไปซ่อนบ้าง ร้องไห้กลับบ้านทุกทีเลยค่ะ ผู้ใหญ่อย่างเราเห็นแล้วก็อดสงสารไม่ได้ และนี่คือสิ่งที่ผู้เขียน และญาติสอนลูกหลานคือ ให้อยู่ในพื้นที่ปลอดภัยที่มีกลุ่มเพื่อนตัวเอง และอยู่ใกล้สายตาคุณครู อย่าไปเดิน หรือนั่งเล่นคนเดียว เพื่อที่จะได้ไม่มีช่วงจังหวะให้เพื่อนที่ไม่ค่อยชอบรุมแกล้งได้
2. ต้องสังเกตและพูดคุยกับลูก
พ่อแม่ หรือคุณครูประจำชั้น เมื่อสังเกตเห็นว่าลูกเงียบลงกว่าปกติ จะต้องรีบเข้าไปพูดคุยสอบถามอย่างนุ่มนวลทันที การที่ลูกไม่ได้รับการสนใจ หรือใส่ใจจากผู้ใหญ่ที่เขาไว้ใจ เขาก็จะยิ่งปิดปากและเก็บตัวเงียบ ดังนั้นพ่อแม่ควรคุยกับลูกสอบถามว่าเกิดปัญหาเรื่องใดขึ้นที่โรงเรียน โดยแสดงให้ลูกเห็นว่า พ่อแม่เป็นที่พึ่งพาได้ และพร้อมที่จะแก้ปัญหาที่เขาต้องเจออยู่ได้
3. สอนลูกให้เชื่อมั่นในตัวเอง
เด็กที่มีความมั่นใจ กล้าแสดงออกในสิ่งที่ถูกต้องมักเป็นที่น่าสนใจของเพื่อนๆ และเพื่อนมักเกรงใจ ผิดกับเด็กที่ไม่กล้าคิด ไม่กล้าพูด ขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง บางครั้งอาจตกเป็นเป้าของการถูกรังแกได้ ดังนั้นพ่อแม่ควรสอนให้ลูกมั่นใจและเชื่อมั่นในตัวเขาเอง ว่าเขาก็ทำได้ คิดได้อย่างสร้างสรรค์ไม่แพ้ไปจากเพื่อนเลย เมื่อลูกเข้มแข็งขึ้นเขาก็จะกล้าที่จะพูดโต้แย้งเพื่อปกป้องตัวเอง กล้าขอความช่วยเหลือเมื่อเขาต้องตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน การที่ลูกเป็นเด็กมีปากมีเสียง แสดงตัวตนจุดยืนของตัวเองได้ ก็จะทำให้เขาปลอดภัยจากกลุ่มเพื่อนที่นิสัยเกเรได้ไม่ยากค่ะ
4. ให้เด็กกล้าตัดสินใจเมื่อถูกรังแก
เด็กที่ถูกรังแก ก็มักจะโดนรังแกอยู่เป็นประจำ ดังนั้นการฝึกให้เด็กกล้าตัดสินใจ เมื่อถูกรังแกจะทำให้เขาได้เรียนรู้เองว่า จะต้องทำอย่างไรเพื่อให้เขาเลิกโดนรังแก[1]
5. ฝึกให้มีความใจเย็น
เด็กที่มีนิสัยเกเรมักจะแกล้ง รังแกเด็กที่แสดงอาการกลัว หรืออ่อนแออยู่เป็นประจำ ดังนั้นควรสอนให้ลูกพยายามที่จะซ่อนความรู้สึกกลัวหรืออ่อนแอ ไม่ให้เด็กเกเรเห็นหรือรับรู้ เพื่อป้องกันการโดนรังแกอยู่เป็นประจำ[2]
แน่นอนว่าเมื่อพ่อแม่ส่งลูกไปโรงเรียนแล้ว เราไม่สามารถรู้ก่อนล่วงหน้าได้เลยว่าลูกๆ ของเราจะเข้ากับเพื่อนได้ไหม ลูกจะไปแกล้งใครที่โรงเรียน หรือลูกเป็นฝ่ายถูกรุมรังแก แต่ไม่ว่าจะอย่างใดเราในฐานะพ่อแม่ก็คงไม่อยากให้เกิดขึ้นกับลูกเราทั้งสองแบบใช่ไหมคะ ดังนั้นสิ่งสำคัญที่พ่อแม่ควรสอนลูกเสมอๆ คือ หากลูกถูกเพื่อนแกล้งให้ตั้งสติ และไม่ใช้กำลังความรุนแรงในการป้องกันตัวเอง และเมื่อไม่ใช้กำลังกับเพื่อนแล้ว ลูกก็ต้องไม่ถอยทำตัวเป็นคนขี้กลัว เพราะเมื่อลูกยิ่งกลัว เพื่อนก็จะยิ่งได้ใจและยิ่งรุมแกล้ง รุมรังแกอยู่ตลอดเวลา ที่สำคัญที่สุดคือลูกต้องกล้าที่จะบอกครู บอกพ่อแม่ให้ช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นไปในทางที่ถูกต้อง ลูกไม่ควรเก็บเอามากดดันตัวเองไว้ฝ่ายเดียวเด็ดขาด การที่พ่อแม่สอนให้ลูกรู้จักสู้และถอยอย่างฉลาด เป็นเหมือนการเพิ่มพลังความมั่นใจ และความแข็งแกร่งให้ติดตัวลูกไปจนเติบใหญ่ ใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่นในสังคมได้แบบอยู่รอดปลอดภัยค่ะ …ด้วยความใส่ใจและห่วงใย
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อบทความเรื่องอื่นที่น่าสนใจคลิก
ทำอย่างไรเมื่อ…ลูกไม่อยากไปโรงเรียน !!
30 คำถามหลังเลิกเรียน ไขปริศนาปัญหาที่โรงเรียนลูก
16 ภาพทั้งฮาและน่ารัก ของเด็กๆ ก่อน VS หลัง ไปโรงเรียนวันแรก
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลอ้างอิงจาก
www.catdumb.com
[1],[2] women.kapook.com