อยากให้ลูกเที่ยวสนุกและปลอดภัย อย่าลืมท่อง 5 ข้อให้ขึ้นใจก่อน “พาลูกออกนอกบ้าน”
สมัยนี้รู้หน้าไม่รู้ใจ คนสนิทใกล้ตัวก็ใช่ว่าจะไว้ใจได้ ออกไปไหนก็ต้องคอยระแวดระวัง ไหนจะคนแปลกหน้า ไหนจะเชื้อโรคและโรคระบาดต่าง ๆ อีก หากมัวแต่กังวลอยู่แบบนี้แล้วการพาลูกไปเที่ยวนอกบ้านจะสนุกไปได้อย่างไรละคะจริงไหม
ดังนั้น สิ่งที่คนเป็นพ่อเป็นแม่อย่างเราจะทำได้ก็คือ การเตรียมรับมือ รู้เท่าทัน พร้อมทั้งหาวิธีการป้องกันต่างหากละ ซึ่งในวันนี้ทีมงาน Amarin Baby & Kids ก็ได้เตรียมหลักปฏิบัติที่คุณพ่อคุณแม่ทุกคนควรทำทุกครั้งก่อนพาลูกน้อยเที่ยวนอกบ้าน มาฝากกันด้วยนะคะ แต่ก่อนที่เราจะไปดูนั้น คุณพ่อคุณแม่บางคนที่มีลูกเล็ก ๆ ก็อาจจะเกิดข้อสงสัยว่า
อยากพาลูกไปนอกบ้านแต่จะพาออกไปตอนกี่เดือนดีถึงจะปลอดภัย?
อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วนะคะว่า เด็กเล็ก ๆ มักจะมีภูมิต้านทานต่ำ อาจทำให้เกิดความเสี่ยงกับลูกในการได้รับเชื้อต่าง ๆ ได้ง่าย เพราะตลอดระยะเวลาที่ลูกน้อยอยู่ในครรภ์ของคุณแม่ ลูกจะได้รับภูมิคุ้มกันจากแม่ผ่านทางสายสะดือ โดยภูมิกันที่ว่านี้จะมีค่าสูงเทียบเท่ากับของผู้ใหญ่เลยละค่ะ แต่จะค่อย ๆ ลดลงไปเรื่อย ๆ ภายในสองถึงสามเดือน และจะเริ่มสร้างภูมิคุ้มกันด้วยตัวเอง โดยการได้รับกองทัพเสริมนั่นก็คือ พลังของนมแม่นั่นเอง ส่งผลให้ทารกในช่วงสามเดือนแรกนั้น เป็นช่วงที่มีภูมิคุ้มกันต่ำที่สุด จึงยังไม่ควรพาลูกออกนอกบ้านในช่วงนี้ เพราะเสียงต่อการได้รับเชื้อโรคต่าง ๆ ได้ง่าย
อ่านการเตรียมตัวก่อนพาลูกน้อยออกจากบ้าน
วิธีการเตรียมตัวก่อนพาลูกน้อยออกจากบ้าน
- หาเวลาเดินทางที่เหมาะสม โดยพิจารณาจากระยะทางของจุดหมายว่า อยู่ใกล้หรือไกลมากน้อยเพียงใด และควรจะออกจากบ้านกันกี่โมง ถ้าเช้าไปลูกจะไหวหรือไม่
- อย่ามองข้ามเวลาอาหารของลูก เพราะระยะทางที่แสนจะยาวไกล อาจทำให้ลูกพลาดมื้ออาหารระหว่างวันไปได้อย่างง่ายดาย อย่ามัวแต่คิดว่า เดี๋ยวไปดูร้านข้างหน้า หวังน้ำบ่อหน้าไปเรื่อย ๆ อาจจะทำให้ลูกพลาดอาหารมื้อนั้นไปเลยก็ได้ ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรเตรียมทำอาหารว่างง่าย ๆ ไปให้ลูกทานด้วยนะคะ อย่างน้อยในระหว่างทางก่อนถึงร้านอาหารหรือที่หมาย ลูกก็ยังได้ทานอะไรรองท้องได้บ้าง
- เช็คอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการเดินทางให้พร้อม ไม่ว่าจะเป็น คาร์ซีท รถเข็น ของเล่น ยาประจำตัว ยาลดไข้ ยาแก้แพ้ ยาแก้ท้องเสีย ปรอทวัดไข้ หรือของใช้ส่วนตัวลูกไปด้วยให้พร้อม
- การเลือกที่พัก สำหรับบ้านไหนที่ยังมีลูกเล็ก แต่หัวใจรักการผจญภัยละก็ การพาลูกไปนอนเต้นท์ หรือที่ไหนที่อากาศชื้นมากเกินไปหรืออาจเป็นแหล่งสุ่มเสี่ยงต่อยุงหรือแมลงต่าง ๆ ละก็ พยายามหลีกเลี่ยงไปก่อนนะคะ และควรมองหาที่พักที่สะดวกสบายและปลอดภัยนิดนึง ทั้งนี้ไม่ใช่อะไรหรอกค่ะ แต่อย่างน้อยก็สามารถลดความเสี่ยงลงได้บ้าง
- เช็คห้องพักให้ดี สมัยนี้แล้วมีการรีวิวที่พักต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นที่พักของคู่รัก หรือที่พักที่เหมาะกับการพาลูก ๆ ไปเที่ยว ทำให้การเลือกที่พักนั้นง่ายขึ้นกว่าเมื่อก่อนเป็นอย่างมาก และที่สำคัญสำหรับลูกเล็ก ๆ เลย อย่าลืมเช็คกับที่พักด้วยนะคะว่า เขามีเตียงเด็กเล็กให้ด้วยหรือไม่
- เอาใจใส่ลูกให้มาก การที่ลูกน้อยต้องอยู่ห่างไกลจากที่ ๆ เคยคุ้นเคย ก็อาจจะมีบ้างที่ลูกอาจจะตื่นสถานที่ ร้องไห้เสียงดัง อึดอัดและไม่สบายตัว การที่คุณพ่อคุณแม่จะคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง และเบี่ยงเบนความสนใจของลูกให้ไปสนใจอะไรที่ดูแล้วน่าสนใจแทนนั้นเป็นสิ่งที่ดีและควรทำเป็นอย่างยิ่งเลยละค่ะ
5 ข้อควรทำก่อนพาลูกออกนอกบ้าน คลิก!
เครดิต: MGR Online
5 วิธีปฏิบัติก่อน พาลูกออกนอกบ้าน
- อย่าไว้ใจคนแปลกหน้า สอนให้ลูกรู้และเข้าใจเสมอว่า คนแปลกหน้าอย่างไรก็คือคนแปลกหน้า เวลาที่จะต้องพาลูกไปไหนนั้น ด้วยความน่ารักน่าเอ็นดูของลูก ทำให้ใคร ๆ ที่เราไม่รู้จักต่างก็พาชมและก็ขอที่จะสัมผัสลูกด้วยการอุ้ม กอดหรือหอม หากคุณพ่อคุณแม่เคลิ้มตามกับคำชมหรือคำขอเหล่านั้น อาจจะทำให้ลูกของเราได้รับความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคหรือการลักพาตัวมากขึ้น ดังนั้น นอกจากการสอนลูกให้ระวังคนแปลกหน้าแล้ว ก็ควรที่จะสอนหรือตั้งรหัสลับอะไรก็ได้ ที่มีเพียงแต่คุณกับลูกเท่านั้นที่รู้ อะไรแบบนี้เป็นต้น
- จับตาดูลูกอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา เพื่อความปลอดภัยอย่าริวางใจฝากลูกไว้กับใครมากเกินไป เพราะลูกอาจจะถูกคนแปลกหน้าหรือคนร้ายล่อลวงไปทำมิดีมิร้าย หรืออาจจะวิ่งออกมานอกถนนก็เป็นได้
- บอกจุดหมายปลายทางกับลูกทุกครั้งที่เดินทาง เพื่อฝึกการจดจำและสร้างพัฒนาการให้กับเขา เช่น “วันนี้เราจะไปหาคุณตาคุณยายกันนะ” เด็กก็จะจำได้ว่าวันนี้เขาต้องเจอกับใครบ้าง ต้องเดินทางผ่านเส้นทางไหน เมื่อเจอสิ่งที่ผิดไปจากที่เคยเจอ ลูกจะได้ทราบว่ามันผิดปกติแล้วนะ เป็นต้น
- ฝึกให้เด็กจำชื่อเบอร์โทรศัพท์คนที่บ้าน เรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้เสมอ หากวันหนึ่ง คุณกับลูกเล็กพลัดหลงกันระหว่างเดินทางหรือเดินเที่ยว ข้อมูลสำคัญที่ควรฝึกให้ลูกจำให้ได้คือ ชื่อของคุณพ่อคุณแม่ หรือเบอร์โทรศัพท์ของคนที่ติดต่อได้ ซึ่งหากลูกยังเล็กเกินไป ควรพกป้าย taq เขียนชื่อและเบอร์โทรศัพท์ของคุณใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อหรือกระเป๋ากางเกงของลูก
5. สอนให้ลูกรู้จักเล่ห์เหลี่ยมคนร้าย อย่าเพิ่งคิดว่าลูกของคุณนั้นยังเด็กเกินไปที่จะสอน เมื่อเด็กเริ่มหัดพูดและเดินได้ แสดงว่าพัฒนาการของเขาเดินหน้าพอที่จะรับรู้สิ่งที่คุณสอน คุณต้องรู้จักบอกเขาว่าสิ่งไหนอันตราย สิ่งไหนปลอดภัย แต่ถ้าลูกวัย 2 ขวบขึ้นไป วิธีง่าย ๆ คือ สอนให้เขาเดินหนีและปฏิเสธคนที่ไม่น่าไว้ใจ แต่ถ้าเด็กวัยอนุบาล สอนเขาว่าเมื่อเจอคนแปลกหน้า ก็ต้องบอกเขาว่าลักษณะแบบนี้อันตรายอย่างไร เช่น ไม่ควรรับขนม ไม่ควรพูดคุยด้วย และไม่ปล่อยให้ลูกไปกับคนอื่นที่ไม่ใช่ญาติ
ในทางปฏิบัติจริงนั้น มีอะไรมากมายเลยค่ะที่เราควรท่องให้ขึ้นใจก่อนพาลูกออกนอกบ้าน ขึ้นอยู่ที่ว่าแต่ละครอบครัวมีวิธีการกันอย่างไร แต่สำหรับ 5 ข้อที่มาฝากในวันนี้ ถือเป็นข้อสำคัญ ๆ ที่พวกเราทุกคนนั้นไม่ควรมองข้ามจริง ๆ
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่