การ เลี้ยงลูกชาย ในยุคนี้ มีทั้งง่าย และยาก ถ้าคุณพ่อ คุณแม่เป็นต้นแบบที่ดี ทำให้ลูกน้อยยึดถือเป็นแบบอย่าง คุณพ่อ คุณแม่ก็ไม่ต้องกังวลว่าลูกจะเลี้ยงยาก แต่ถ้าลูกน้อยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสื่อที่ไม่เหมาะสม คบเพื่อนที่ไม่ดี ก็อาจจะทำให้ลูกกลายเป็นเด็กที่เลี้ยงยากก็เป็นได้
1.ตัวอย่างที่ดี คือ พ่อแม่
การเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกน้อย เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของการเลี้ยงลูกชาย เพราะว่าลูกน้อยจะเจริญรอยตามคนเป็นพ่อ เป็นแม่ เป็นสิ่งที่ช่วยให้เขาขีดเส้นทางเดินในชีวิตของตัวเอง และยึดถือไว้เป็นแบบอย่าง ต้นแบบที่ดี ควรมีคุณลักษณะที่เหมาะสมที่ลูกผู้ชายควรมี
บอกลูกถึงสิ่งที่สามารถทำได้ และไม่ควรทำ กำหนดขอบเขตให้ชัดเจน เพราะลูกชายมักอยากละเมิดกฎข้อห้ามต่างๆ อยู่เสมอ แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็ตาม ถ้าคุณพ่อ คุณแม่ไม่เด็ดขาด ก็อาจจะส่งผลต่อไปในอนาคตได้
3.พูดคุยกับลูกบ่อยๆ
คุณพ่อ คุณแม่ที่มีลูกชาย ควรที่จะสื่อสารกับลูกมากๆ เพราะลูกผู้ชายอาจพูดคุยแบบเปิดใจไม่เก่งเท่าลูกผู้หญิง ถึงแม้จะมีไม่น้อยที่เป็นลูกชายจอมขี้อ้อน การที่คุณพ่อ คุณแม่คุยกับลูก จะช่วยให้ลูกมีที่ปรึกษา คอยรับฟังปัญหาของลูก ควรทำให้เป็นกิจวัตรประจำวัน และพูดคุยกันตั้งแต่ยังเล็กๆ จะดีที่สุด
4.สอนให้ลูกรู้จักทำงานบ้านให้เป็น
ในยุคปัจจุบัน งานบ้าน ไม่ใช่เรื่องของผู้หญิงเพียงฝ่ายเดียว การสอนให้ลูกชายรู้จักทำงานบ้าน ถือเป็นเรื่องที่ดีมากๆ เพราะช่วยฝึกเรื่องความรับผิดชอบให้ลูกตั้งแต่ยังเล็กๆ เมื่อโตขึ้นไปมีครอบครัว ก็จะสามารถช่วยภรรยาทำงานบ้านได้ ช่วยลดความเหนื่อยให้คุณแม่ น้องสาว พี่สาว และคนรัก ที่ต้องทำงานนอกบ้านเหมือนกัน หรือถ้าในอนาคตลูกชาย อยากจะอยู่เป็นโสด ก็จะสามารถช่วยเหลือ และดูแลตัวเองได้ ลูกจะรู้จัก ซักผ้า รีดผ้า ล้างจาน ขัดห้องน้ำ กวาดบ้าน ถูบ้านได้ด้วยตัวเอง
ลูกผู้ชายไม่ใช่น้อย ถูกสอนให้เป็นคนเข้มแข็ง คุณพ่อ คุณแม่หลายคน มักจะบอกกับลูกเสมอว่า “เป็นผู้ชายต้องไม่ร้องไห้” เด็กจึงเข้าใจไปเองว่าการไม่ร้องไห้ คือความเข้มแข็ง จึงไม่ยอมร้องไห้ต่อหน้าคนอื่น ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้ว เด็กผู้ชายก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ที่มีความรู้สึก รู้จักความเจ็บปวดได้เท่าๆ กับเด็กผู้หญิง ถ้าคุณพ่อ คุณแม่เปิดโอกาสให้ลูกได้แสดงความรู้สึกออกมาบ้าง ก็จะเป็นเรื่องที่ดีกับตัวลูกน้อย ถ้าลูกร้องไห้แล้วมีน้ำตา ก็ไม่ควรไปต่อว่าลูก ปลดปล่อยความรู้สึกเสียใจที่เก็บกดอยู่ข้างในออกมาดีกว่าปล่อยให้ลูกไปหาทางระบายความรู้สึกนั้นออกมาแบบผิดๆ
ลูกชายที่แข็งแรง และร่าเริงแจ่มใส ย่อมโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ การปล่อยให้ลูกออกไปพบเจอกับธรรมชาติจึงเป็นเรื่องที่ดี อาจหากิจกรรมช่วยเหลือสังคม ให้ลูกเป็นจิตอาสาช่วยเหลือชุมชน ฝึกให้เขาเป็นคนที่มีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือคนอื่น ไม่นิ่งเฉยเวลาคนอื่นเดือดร้อน
ลูกชาย เมื่อถึงวัยที่ร่างกายเจริญเติบโตเต็มที่ จิตใจของเขาก็ยังคงเดิม คุณพ่อ คุณแม่อาจจะคิดว่าควรฝึกความเป็นผู้ใหญ่ให้เขาได้แล้ว แต่เมื่อลูกทำไม่ได้ ก็เกิดความผิดหวัง โมโห อารมณ์เสียใส่ลูก เด็กผู้ชาย เมื่อโตขึ้น เขาต้องการกำลังใจ และคำแนะนำที่จะปฏิบัติตัวให้เหมาะสมเหมือนกับตอนที่ยังเล็กๆ เพียงแค่คุณพ่อ คุณแม่ปรับให้เข้ากับอายุ และวัยของเขา และเพิ่มความอดทนให้มากขึ้นกว่าเดิม
อ่านต่อ “เรื่องที่ต้องรับมือ เมื่อมีลูกชาย” คลิกหน้า 3
เรื่องที่ต้องรับมือ เมื่อมีลูกชาย
1.ลูกชายมักจะซุกซน วิ่งเล่น หกล้ม เตะโน่น ชนนี่จนเกิดบาดแผล คุณพ่อ คุณแม่ต้องเตรียม แอลกอฮอล์ล้างแผล เบตาดีน พลาสเตอร์ติดแผล ผ้าพันแผลเอาไว้ใช้ประจำบ้าน
3.บ้านไหนมีความเชื่อว่าคนในครอบครัวต้องมีลูกชายสืบสกุล บ้านนั้นปู่ย่าตายายจะโอ๋หลานหนักมากเป็นพิเศษ ทั้งตามใจ ซื้อของเล่นให้ ประคบประหงม จนบางครั้งอาจทำให้คุณพ่อ คุณแม่ไม่สบายใจ กลัวลูกน้อยจะนิสัยเสีย
5.คุณพ่อ จะรู้สึกว่าตัวเองโดนแย่งความรักไป เมื่อเห็นคุณแม่รักลูกชายมากๆ เกิดอาการน้อยใจ อยากกลายเป็นเด็กอ้อนคุณแม่บ้าง
7.เมื่อลูกชายโตเป็นหนุ่ม อย่าหวังว่าจะให้ลูกชายมากอดจูบแบบตอนเด็กๆ เพราะลูกจะรู้สึกอายเพื่อนเมื่อโตขึ้น
อ่านต่อ “เรื่องที่ต้องรับมือ เมื่อมีลูกชาย” คลิกหน้า 5
10.เวลาลูกมีเพื่อนผู้หญิงมากกว่า 2 คน สิ่งที่คุณพ่อ คุณแม่เกิดความกังวลมากที่สุด มีอยู่ 2 เรื่องคือ กลัวว่าลูกจะทำเขาท้อง กับกลัวว่าลูกจะเบี่ยงเบนทางเพศ
12.อย่าคาดหวังว่าลูกชายจะมานั่งเล่าความในใจ หรือความรู้สึกให้ฟังแบบลูกสาว เพราะลูกชายมักจะเก็บเรื่องพวกนี้ไว้เก่งมาก คุณพ่อ คุณแม่ต้องคอยสังเกต จับทางให้ถูก และเป็นฝ่ายถามให้ลูกพูดออกมา
เครดิต: http://www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9530000136328
อ่านเพิ่มเติม คลิก!
14 วิธีสอนลูกชายให้เป็นสุภาพบุรุษ
ลูกสาว ลูกชาย แตกต่าง และมีข้อดีอะไรบ้าง?
สูตร (ไม่) ลับ ทำอย่างไร แบบไหน ถึงจะได้ลูกชาย หรือลูกสาว
Save