4.สอนให้ลูกรู้จักทำงานบ้านให้เป็น
ในยุคปัจจุบัน งานบ้าน ไม่ใช่เรื่องของผู้หญิงเพียงฝ่ายเดียว การสอนให้ลูกชายรู้จักทำงานบ้าน ถือเป็นเรื่องที่ดีมากๆ เพราะช่วยฝึกเรื่องความรับผิดชอบให้ลูกตั้งแต่ยังเล็กๆ เมื่อโตขึ้นไปมีครอบครัว ก็จะสามารถช่วยภรรยาทำงานบ้านได้ ช่วยลดความเหนื่อยให้คุณแม่ น้องสาว พี่สาว และคนรัก ที่ต้องทำงานนอกบ้านเหมือนกัน หรือถ้าในอนาคตลูกชาย อยากจะอยู่เป็นโสด ก็จะสามารถช่วยเหลือ และดูแลตัวเองได้ ลูกจะรู้จัก ซักผ้า รีดผ้า ล้างจาน ขัดห้องน้ำ กวาดบ้าน ถูบ้านได้ด้วยตัวเอง
ลูกผู้ชายไม่ใช่น้อย ถูกสอนให้เป็นคนเข้มแข็ง คุณพ่อ คุณแม่หลายคน มักจะบอกกับลูกเสมอว่า “เป็นผู้ชายต้องไม่ร้องไห้” เด็กจึงเข้าใจไปเองว่าการไม่ร้องไห้ คือความเข้มแข็ง จึงไม่ยอมร้องไห้ต่อหน้าคนอื่น ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้ว เด็กผู้ชายก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ที่มีความรู้สึก รู้จักความเจ็บปวดได้เท่าๆ กับเด็กผู้หญิง ถ้าคุณพ่อ คุณแม่เปิดโอกาสให้ลูกได้แสดงความรู้สึกออกมาบ้าง ก็จะเป็นเรื่องที่ดีกับตัวลูกน้อย ถ้าลูกร้องไห้แล้วมีน้ำตา ก็ไม่ควรไปต่อว่าลูก ปลดปล่อยความรู้สึกเสียใจที่เก็บกดอยู่ข้างในออกมาดีกว่าปล่อยให้ลูกไปหาทางระบายความรู้สึกนั้นออกมาแบบผิดๆ
ลูกชายที่แข็งแรง และร่าเริงแจ่มใส ย่อมโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ การปล่อยให้ลูกออกไปพบเจอกับธรรมชาติจึงเป็นเรื่องที่ดี อาจหากิจกรรมช่วยเหลือสังคม ให้ลูกเป็นจิตอาสาช่วยเหลือชุมชน ฝึกให้เขาเป็นคนที่มีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือคนอื่น ไม่นิ่งเฉยเวลาคนอื่นเดือดร้อน
7.อดทนกับการเลี้ยงลูกชายให้มาก
ลูกชาย เมื่อถึงวัยที่ร่างกายเจริญเติบโตเต็มที่ จิตใจของเขาก็ยังคงเดิม คุณพ่อ คุณแม่อาจจะคิดว่าควรฝึกความเป็นผู้ใหญ่ให้เขาได้แล้ว แต่เมื่อลูกทำไม่ได้ ก็เกิดความผิดหวัง โมโห อารมณ์เสียใส่ลูก เด็กผู้ชาย เมื่อโตขึ้น เขาต้องการกำลังใจ และคำแนะนำที่จะปฏิบัติตัวให้เหมาะสมเหมือนกับตอนที่ยังเล็กๆ เพียงแค่คุณพ่อ คุณแม่ปรับให้เข้ากับอายุ และวัยของเขา และเพิ่มความอดทนให้มากขึ้นกว่าเดิม