กระตุ้น พัฒนาการ สมองลูก ทำงานดี ในฐานะพ่อแม่การได้เห็นลูกเติบโตขึ้นอย่างแข็งแรงสมบูรณ์ ทั้งร่างกาย จิตใจและพัฒนาการต่างๆ โดยที่ไม่มีอุปสรรคใดมาขัดขวาง ย่อมเป็นสิ่งที่พ่อแม่อยากให้เกิดขึ้นกับลูกของตัวเอง ยิ่งโดยเฉพาะพัฒนาการการเรียนรู้ที่มาจากการทำงานของพัฒนาการสมองที่ดี ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีเคล็ดลับวีธี การเลี้ยงดู ให้ สมองลูก ทำงานดี มาแนะนำให้ได้ทราบกันค่ะ
กระตุ้น พัฒนาการ สมองลูก ทำงานดี : สมองมีความสำคัญในการเรียนรู้ของเด็กอย่างไรบ้าง ?
พญ.สินดี จำเริญนุสิต กุมารเวชศาสตร์พัฒนาการและพฤติกรรมเด็ก โรงพยาบาลเวชธานี1 ได้กล่าวถึงความสำคัญของสมองที่สัมพันธ์กับการเรียนรู้ของเด็ก ดังนี้…
- สมองควบคุมและโปรแกรมการเจริญเติบโตของร่างกายทั้งหมด
- สมองควบคุมการทำงานของระบบร่างกาย เนื้อเยื่อและเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย และพัฒนาการของสมองเป็นรากฐานของการพัฒนาทุกด้าน ทั้งร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สติปัญญา ความเฉลียวฉลาด ภาษา วัฒนธรรม ทักษะการสื่อสาร สังคม มนุษยสัมพันธ์ คุณธรรมและจริยธรรม
- สมองเป็นระบบของการรับรู้ ประมวลข้อมูล การเรียนรู้ เก็บความจำและประสบการณ์ต่างๆ ที่สร้างโลกทัศน์เกี่ยวกับความเข้าใจเกี่ยวกับตัวเราและความสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม
- สมองควบคุมการตอบสนองต่อสิ่งเร้าต่างๆ ควบคุมพฤติกรรม ความประพฤติ และการแสดงออกของปฎิสัมพันธ์กับผู้คนและสิ่งแวดล้อม เป็นรากฐานของบุคลิกภาพ
- สมองเรียนรู้ภาษา วัฒนธรรม
- สมองควบคุมสมาธิ ความสนใจ การตัดสินใจ จริยธรรม
อ่านต่อ >> “10 วิธี กระตุ้น พัฒนาการ สมองลูก ทำงานดี” คลิกหน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการให้ลูกเป็นเด็กที่มีพัฒนาการการทำงานที่ดี เรียนรู้ได้อย่างชาญฉลาด ปัจจัยสำคัญต้องเกิดจากการถูกกระตุ้น ให้ได้คิด ได้ทำในสิ่งที่สร้างสรรค์ การฝึกให้ลูกเป็นเด็กคิดนอกกรอบ คิดเป็น ทำเป็น และคิดแบบมีจินตนาการ จะยิ่งช่วยส่งเสริมให้ลูกเป็นที่ประสิทธิภาพทางความคิดได้ค่ะ เอาเป็นว่าเรามาช่วยกัน กระตุ้น พัฒนาการ สมองลูก ทำงานดี กันตั้งแต่ตอนที่ลูกยังเป็นเด็กเล็กๆ กัน ตามเคล็ดลับทั้ง 10 วิธี ที่จะเป็นประโยชน์กับเด็กๆ ทุกคน จาก Play Academy
1. กินอาหารดี ดื่มน้ำเพียงพอ นอนหลับพักผ่อนเต็มที่
ในสมองของคนเราประกอบด้วยน้ำถึง 85% และต้องการออกซิเจนมากถึง 20% ของออกซิเจนที่เข้าสู่ร่างกายจึงจะสามารถทำงานได้ดี พ่อแม่ควรฝึกให้ลูกดื่มน้ำให้มาก นอกจากนั้น ควรปลูกฝังนิสัยการรับประทานอาหารที่ผ่านการปรุงแต่งน้อยที่สุด และฝึกให้ลูกเข้านอนตรงเวลา และนอนหลับไม่น้อยกว่า 8 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อให้ร่างกายมีภูมิต้านทานทั้งในระยะสั้น และระยะยาว เมื่อสุขภาพร่างกายแข็งแรง ลูกก็พร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในทุกวันแล้วค่ะ
2. กระตุ้นประสาทสัมผัสผ่านการลงมือทำ
หากประสาทสัมผัสถูกกระทบเข้ากับสิ่งเร้า จะเกิดเป็นกระแสประสาทวิ่งไปสู่สมอง สมองจะรับรู้ข้อมูล และส่งข้อมูลไปยังอวัยวะที่เกี่ยวข้องโดยผ่านเส้นใยสมองที่ทำหน้าที่รับ และส่งข้อมูล เมื่อลูกได้รับการกระตุ้นประสาทสัมผัสด้วยวิธีการที่เหมาะสมจะทำให้เกิดการเชื่อมโยงของเส้นใยประสาทในปริมาณที่พอเหมาะ นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า สมองลูกมีเส้นใยสมอง และจุดเชื่อมต่อมากเท่าไร ลูกก็จะยิ่งฉลาด และมีความสามารถสูงขึ้น
3. เล่านิทานจัดหาหนังสือที่หลากหลายให้กับลูก
การอ่านนิทานกับลูกทุกวัน จะช่วยส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ต่อยอดจินตนาการ ฝึกทักษะการฟัง ยิ่งเป็นนิทานประเภทที่มีคำกลอน เด็กเล็กๆ จะชอบฟังเป็นพิเศษ เพราะ มีเสียงคล้องจองกันสนุกสนาน นิทานยังช่วยสร้างคลังคำศัพท์อันเป็นพื้นฐานของการเรียนรู้ภาษาให้แก่เด็ก นอกจากนั้น คุณพ่อ คุณแม่ยังสามารถปลูกฝังจริยธรรมผ่านนิทานได้ด้วย
4. เล่นกีฬาหรือออกกำลังกาย
การส่งเสริมให้ลูกได้เล่นกีฬา หรืออกกำลังกายเป็นประจำ จะช่วยให้ลูกได้ใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ และมัดเล็ก ซึ่งมีผลโดยตรงต่อพัฒนาการทางสมอง ในเด็กที่มีโอกาสใช้กล้ามเนื้อต่างๆในร่างกายอย่างเหมาะสม จะช่วยให้มีพัฒนาการที่ดี นอกจากนั้น กีฬา และการออกกำลังกายยังช่วยเสริมสร้างสมาธิ วินัย และความภาคภูมิใจในตัวเอง
5. ใช้ชีวิตกับธรรมชาติ
การให้ลูกได้ลองออกไปชีชีวิตที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ จะช่วยให้ลูกรับรู้ได้ถึงความสุขจากความเรียบง่าย เมื่อคุณพ่อคุณแม่ปลูกฝังไปนานๆ เด็กที่เข้าใจธรรมชาติจะเข้าใจชีวิตด้วย เข้าใจว่า “ไม่มีอะไรแน่นอน” และความไม่แน่นอนนี้เป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งเป็นพัฒนาการทางปัญญา จิตใจ และทักษะชีวิตที่ดี
อ่านต่อ >> “10 สุดยอดอาหารบำรุงสมองลูกน้อย” คลิกหน้า 3
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
ทำอย่างไรเพื่อช่วยเพิ่มพลังสมองให้ลูก ?
คุณพ่อคุณแม่ต้องดูแลเรื่องอาหารและโภชนาการของลูกอย่างใกล้ชิด “อาหารบำรุงสมอง” สามารถกระตุ้นการเจริญเติบโตของสมองลูกน้อย ช่วยให้สมองแจ่มใส ความจำดี และมีสมาธิมากขึ้นได้ การกินอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอาหารเช้า และดื่มน้ำให้เพียงพอ จะช่วยให้สมองของลูกมีประสิทธิภาพในการคิด การเรียนรู้ในเรื่องต่างๆ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญจากสมาคมนักกำหนดอาหารแห่งสหรัฐอเมริกา (American Dietetic Association หรือ ADA) อย่าง Bethany Thayer, Andrea Giancoli และ Sarah Krieger ได้ให้ความเห็นว่า “ความจริงแล้ว สมองคนเราต้องการอาหารและการบำรุงอย่างยิ่ง สมองเป็นอวัยวะร่างกายชิ้นแรกสุดที่จะดูดซึมสารอาหารจากสิ่งที่กินเข้าไป” หากคุณพ่อคุณแม่อยากทราบว่ามีอาหารอะไรบ้างที่ดีกับสมองของลูก สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ค่ะ 10 สุดยอด “อาหารบำรุงสมอง” ลูกน้อย
Good to know… “ศ.เกียรติคุณ นพ.จอมจักร จันทรสกุล เปิดเผยว่า สมองเป็นอวัยวะมหัศจรรย์ที่มีความซับซ้อนมาก เพราะเป็นอวัยวะหลักที่ทำหน้าที่เสมือนห้องบัญชาการควบคุมระบบต่างๆ ในร่างกาย นอกจากนี้ยังเป็นยังเป็นจุดเริ่มต้นของความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการที่ก่อเกิดสิ่งต่างๆ มากมายบนโลกใบนี้”2
อ่านต่อ >> “วิธี กระตุ้น สมองลูก ทำงานดี” คลิกหน้า 4
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
6. เปิดโอกาสให้ลูกได้แก้ปัญหาด้วยตัวเอง
พ่อแม่ควรฝึกให้ลูกได้แก้ปัญหาต่างๆ ด้วยตัวเองบ้าง เด็กที่เรียนรู้การแก้ปัญหาได้ด้วยตัวเองจะไม่ย่อท้อต่อปัญหา รู้จักใช้สมองส่วนหน้าที่เกี่ยวกับการคิดวิเคราะห์ได้ แก้ปัญหาเป็น และสื่อสารความคิดของตนเองให้ผู้อื่นเข้าใจได้ ลูกจะเรียนรู้ “การพึ่งตนเอง” เมื่อวันหนึ่งที่เขาต้องเผชิญโลกนี้คนเดียวเขาจะก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆไปได้ นอกจากนั้น ลูกยังได้เรียนรู้ความแตกต่างของผู้คน และรู้จักปรับตัวให้ดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุขซึ่งเป็นทักษะชีวิตที่สำคัญมาก
7. หลีกเลี่ยงการใช้สื่อ Digital และ Online
เด็กที่ได้สัมผัสอยู่กับจอมือถือ ไอแพด หรือคอมพิวเตอร์ปล่อยๆ หรือแทบจะตลอดเวลานั้น จะทำให้วงจรสมองส่วนพึงพอใจ (Brain Reward Circuit) มีระดับสูงเกินปกติ เด็กที่เสพย์สื่อ Online และ Digital จนเกินพอดีนั้นเป็นไปในแนวทางเดียวกับการเสพย์สารเสพติด ทำให้เด็กจดจ่ออยู่กับกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้ไม่นาน อารมณ์ฉุนเฉียวง่าย และมีความพร่องด้านการใช้ภาษา เพราะอยู่กับการสื่อสารทางเดียว
8. กอด หอม ชมเชย
การแสดงออกถึงความรักที่พ่อแม่มีให้กับลูกด้วยการกอด หอม และชมเชยอย่างสมเหตุสมผล จะทำให้ลูกเกิดความภาคภูมิใจในตัวเอง ลูกจะเชื่อว่าเขาจะสามารถคิดและทำได้ทุกอย่าง ที่ถึงแม้ว่าผลลัพธ์จะออกมาดีหรือไม่ดีเท่ากับใครนั้นก็ไม่สำคัญ เพราะว่าเขาได้ทำดีที่สุดอย่างเต็มที่แล้ว
9. การเล่นสมมติ
การเล่นสมมติถือเป็นกิจกรรมกระตุ้นสมองให้คิดอย่างมีจินตนาการได้อย่างดี สมองจะได้คิดเชื่อมโยงจากสิ่งหนึ่งไปยังอีกสิ่งหนึ่งได้ดี การเล่นสมมติเป็นจุดเริ่มต้นที่ช่วยให้เด็กมีการคิดแบบริเริ่มทำสิ่งสร้างสรรค์
10. ทำกิจกรรมดนตรีและการเคลื่อนไหว
มีงานวิจัยที่พบว่าเสียงดนตรีสามารถเพิ่มความคิดที่เป็นเหตุเป็นผลได้ ดนตรียังใช้พัฒนาสมองซีกขวาที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการมองภาพรวมได้ดี กิจกรรมดนตรี และการเคลื่อนไหวง่ายๆที่พ่อแม่สามารถทำกับลูกได้ เช่น ร้องเพลงกับลูก ช่วยกันคิดท่าทางประกอบเพลง แต่งเพลงร่วมกัน สิ่งเหล่านี้เป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัวที่จะประทับอยู่ในความทรงจำของเด็กตลอดไป
พ่อแม่คือคนสำคัญในการช่วยให้ลูกมีพัฒนาการสมองที่ดี ดังนั้นหากอยากให้ลูกเป็นเด็กที่คิดดี คิดสร้างสรรค์ พ่อแม่ต้องรู้จักวิธีกระตุ้น และส่งเสริมอย่างถูกและเหมาะสมกับวัยของลูกด้วย เพื่อที่ลูกจะได้เติบโตขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพพัฒนาการด้านร่างกาย และพัฒนาการด้านสติปัญญา …ด้วยความห่วงใยค่ะ
อ่านต่อบทความเรื่องอื่นที่น่าสนใจ
4 กิจกรรม ช่วยพัฒนาสมองส่วนหน้าให้ลูกน้อย
14 อาหารห้าม! ทำลายสมองลูก
“เล่นสมมติ” ดีต่อลูกเล็กครบทั้งกาย ใจ สมอง แถมสนุกไม่ธรรมดา!
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิง
1พญ.สินดี จำเริญนุสิต กุมารเวชศาสตร์พัฒนาการและพฤติกรรมเด็ก โรงพยาบาลเวชธานี. www.vejthani.com
2www.thairath.co.th
Play Academy