3. ให้ลูกสวดมนต์ และทำสมาธิ
วิธีนี้นอกจากจะทำให้แกเป็นเด็กที่มีสมาธิขึ้นแล้ว ยังรู้จักควบคุมอารมณ์ตัวเองได้มากขึ้น ยิ่งฝึกตั้งแต่เด็กรับรองว่าจะเป็นเด็กที่ใจเย็น มีสติอยู่กับตัว
♥ Must read : สวดมนต์ ก่อนนอน ช่วย ฝึกสมาธิเด็ก
4. ลูกต้องหัดแสดงความคิดเห็นและรับฟังเป็น
อาจจะหาเวลาพูดคุย ให้ลูกๆ ถาม-ตอบโอกาสสมมุติต่างๆ เช่น ถ้าเวลามีเพื่อนมาดึงของเล่นในมือหนูไป หนูจะทำอย่างไร หรือทำไมหนูถึงไม่ชอบ…. แล้วปล่อยให้เด็กๆ พูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมาคุณพ่อคุณแม่ก็ต้องพูดคุยถึงเหตุผลและให้ลูกรับฟัง แรกๆ อาจจะยังทำไม่ได้ แต่ทำซ้ำไปเรื่อยๆ ลูกจะค่อยๆ ปรับอารมณ์ตัวเองให้ดีขึ้นได้
5. พูดคุยและรับฟัง เมื่อลูกเกรี้ยวกราด
เพราะทุกอย่างเริ่มต้นด้วยความรัก การที่ลูกกำลังโมโห พ่อแม่อย่าเพิ่งดุลูกอย่างเดียวเพราะถึงลูกจะทะเลาะกับพี่น้องหรือเพื่อน แต่คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องใช้สติกับลูกด้วย แล้วเข้าไปพูดคุยและรับฟังความรู้สึกของลูก แสดงให้เขาเห็นว่านี่คือความโกรธ ทำไมเขาถึงโกรธ บอกเล่าถึงเหตุผลถ้าสิ่งที่เขาทำไม่ถูกต้อง และให้วิธีทางในการตอบโต้ที่ดีกว่า
♥ Must read : บันได 6 ขั้น ช่วยพ่อแม่ ปราบลูกเกรี้ยวกราด
6. ใช้กีฬาเข้าช่วย
เพราะการเล่นกีฬาย่อมมีแพ้และชนะสลับกันไป เมื่อเขาชนะก็ต้องสอนเขาว่าอย่าคาดหวังมากเกินไป เพราะวันหนึ่งเขาอาจจะเป็นฝ่ายแพ้บ้างก็ได้ และเมื่อเขาแพ้ก็ต้องสอนให้เขามีกำลังใจที่จะลุกขึ้นมาสู้ เพื่อวันหนึ่งจะกลับมาเป็นผู้ชนะบ้าง และกีฬายังเป็นตัวช่วยให้ลูกๆ จัดการอารมณ์ตัวเองในแต่ละช่วงวัยได้ดี และยังฝึกให้เขาอยู่ในกฎกติกา มีระเบียบวินัยด้วย
7. ความรักจากพ่อแม่สำคัญที่สุด
เด็ก ๆ บางคนแสดงอารมณ์เกรี้ยวกราดเพราะจริงๆ แล้วเขารู้สึกว่าอยากได้ความรักจากพ่อแม่ อยากให้พ่อแม่สนใจ เลยทำตัวเรียกร้องความสนใจ หากคุณพ่อคุณแม่หมั่นแสดงความรัก ทำให้เขารู้สึกว่าพ่อแม่รักเขาเสมอ และเขาสำคัญกับพ่อแม่ ด้วยการยิ้ม โอบกอด อารมณ์เกรี้ยวกราดของเขาจะค่อยๆ ลดลงได้เอง
อย่างไรก็ดี ความฉลาดทางอารมณ์ เป็นความสามารถส่วนหนึ่งของคนเราที่เกี่ยวข้องกับการรับรู้ ความเข้าใจ อารมณ์ ความรู้สึกของตนเอง และนำเอาพลังแห่งอารมณ์และความรู้สึกนั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพทำให้เกิดการพัฒนาในด้านต่าง ๆ รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลด้วย
ซึ่งสำหรับเด็กที่มีความฉลาดทางอารมณ์จะเป็นผู้ที่มีสุขภาพจิตดี มีความสุขสามารถเผชิญกับความคับข้องใจแก้ไขปัญหาต่างๆได้อย่างราบรื่นควบคุมตนเองได้ สามารถที่จะรอคอยและตอบสนองความต้องการได้ มีสัมพันธภาพที่ดีกับบุคคลรอบข้าง เป็นผู้นำและสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นลูกน้อยก็ควรได้รับการพัฒนาทั้ง IQ และ EQ ไปพร้อม ๆ กัน เพื่อให้เป็นผู้ที่เก่ง ดี และมีความสุข ประสบความสำเร็จทั้งด้านการเรียน การทำงาน และประสบความสำเร็จในชีวิตได้อย่างราบรื่น
อ่านต่อ “บทความดี ๆ น่าสนใจ” คลิก!
- เทคนิคดีๆสร้าง IQ EQ และ MQ ให้เจ้าตัวเล็ก
- 12 วิธีเพิ่ม IQ ให้ลูกฉลาดตั้งแต่อยู่ในท้อง
- 5Q วิธีเลี้ยงลูก ให้ฉลาดอย่างสมดุล
ขอบคุณข้อมูลจาก : taamkru.com , www.paolohospital.com