AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

20 วิธี เสริมสร้างพลังสมองให้ลูกน้อย

20 วิธี เสริมสร้างพลังสมองให้ลูก

สร้างพลังสมองให้ลูก …เพราะลูกน้อยช่วงวัยตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 3 ขวบ เป็นช่วงที่สมองของเด็กมีการเจริญเติบโตมากกว่าช่วงวัยอื่นๆ หากสมองได้รับการกระตุ้นด้วยกิจกรรมที่เหมาะสมและได้รับโภชนาการที่ดีจะช่วยส่งเสริมให้สมองมีการพัฒนาได้อย่างเต็มศักยภาพ ซึ่งจะเป็นพื้นฐานที่ดีสำหรับการเรียนรู้ต่อไปในอนาคต

อย่างไรก็ตาม แม้สมองจะมีความสำคัญ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าวิธีการที่ทำให้สมองมีพัฒนาการ มีการเจริญเติบโตที่สมบูรณ์จะมีความสลับซับซ้อนและยุ่งยากแต่อย่างใด ตรงกันข้าม ทุกอย่างเป็นไปตาม หลักธรรมชาติ อะไรที่ฝืนธรรมชาติ อะไรที่เกินธรรมชาติ อาจส่งผลเสียต่อการเจริญเติบโตหรือพัฒนาการของสมองได้

ต่อไปนี้คือตัวอย่างของกิจกรรมง่ายๆ และโภชนาการที่ดีตามหลักธรรมชาติที่พ่อแม่สามารถลงมือทำเพื่อส่งเสริมพัฒนาการและการเจริญเติบโตของสมองของลูกได้ด้วย ดังนี้

17 กิจกรรมเสริม สร้างพลังสมองให้ลูก

  1. พูดคุยเล่นกับลูก แม้เขาจะยังพูดไม่ได้ เสียงสูงๆ ต่ำๆ ของพ่อแม่จะกระตุ้นประสาทการได้ยิน ท่าทางประกอบคำพูดจะบ่งบอกความหมายของคำพูด มันคือจุดเริ่มต้นของการรู้ภาษา รวมทั้งความสามารถในการสื่อสาร
  2. เล่นกับลูกบ่อยๆ จับปูดำขยำปูนา ตบแผะ จ้ำจี้ ฯลฯ การเล่นเช่นนี้ช่วยให้เด็กได้เรียนรู้การเคลื่อนไหวมือ ขา ร่างกาย ส่งผลต่อพัฒนาการของสมองที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหว
  3. ฝึกอ่านใจลูก และตอบสนองต่อความต้องการของลูกให้ถูก การชี้นิ้วมือแบบนี้หมายถึงอะไร เสียงแบบนี้เขาต้องการอะไร การตอบสนองตรงกับความต้องการจะทำให้เขารู้สึกว่าตนเองมีค่า สิ่งนี้ช่วยพัฒนาสมองส่วนอารมณ์และความรู้สึกของเขาให้มีความสมบูรณ์
  4. ใช้หนังสือภาพ (Picture Book) หมั่นชวนลูกดูหนังสือภาพ เพราะนอกจากจะช่วยกระตุ้นสายตาและการมองแล้ว ยังช่วยให้เขาได้เรียนรู้ภาษา เรียนรู้สิ่งรอบตัวผ่านหนังสือภาพได้อีก
  5. ร้องเพลงกล่อมลูก เสียงสูงๆ ต่ำๆ แถมมีจังหวะด้วยช่วยกระตุ้นสมองได้ดี พัฒนาการของภาษา สมาธิ การคิด ความจำจะถูกกระตุ้นจากเสียงเพลง ข้อสำคัญยังตอกย้ำว่าเรารักเขา
  6. หาของเล่นที่ช่วยพัฒนากล้ามเนื้อมัดใหญ่ มัดเล็ก ของเล่นที่ช่วยพัฒนาความคิด จินตนาการ ฝึกความอดทน ฝึกการแก้ปัญหามาให้ลูกเล่น ไม่จำเป็นต้องเป็นของแพงหรือมีกลไกซับซ้อน ขอเพียงช่วยสร้างสิ่งที่กล่าวไว้ให้ลูกเราได้ก็พอ
  7. การโอบกอด สัมผัส ลูบผม หอมแก้ม ดูเป็นเรื่องง่ายๆ แต่ช่วยกระตุ้นการหลั่ง Nerve Growth Factor ซึ่งจะไปกระตุ้นสมองให้มีพัฒนาการและเติบโตได้อย่างสมบูรณ์ ข้อสำคัญคือส่งสัญญาณให้เขารับรู้ว่าเรารักเขา
  8. เวลาลูกร้อง ตอบสนองให้ไว เพราะเด็กทุกคนต้องการความปลอดภัย เมื่อเขารู้สึกว่าตนเองปลอดภัย สมองของเขาก็จะพัฒนาได้อย่างสมบูรณ์ ในสภาวะที่ไม่ปลอดภัย สมองจะพัฒนาเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับการหนีภัยเท่านั้น

อ่านต่อ >> วิธีเสริมสร้างพลังสมองให้ลูกน้อย ข้อ 10 – 18 คลิกหน้า 2

  1. การนวดตัว เวลาที่เด็กเครียดช่วยให้เด็กผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี เวลาเขาไม่สบาย เวลาที่เขาเสียใจ ลองช่วยนวดก็น่าจะดี อย่าลืมว่าเวลาเด็กเครียดสมองของเขาจะไม่พัฒนา
  2. เล่นก่อกองทรายพาลูกน้อยไปเที่ยวทะเล หรือมีบ่อทรายขนาดเล็ก ๆ หน้าบ้าน เพื่อให้ลูกได้เล่นก่อกองทราย ซึ่งการก่อกองทรายจะได้ฝึกใช้จินตนาการได้อย่างดีเยี่ยม ได้คิดว่าก่อกองทรายเป็นรูปอะไร ได้ฝึกการคิดวางแผนว่าต้องไปตักทรายมาก่อน จะทำอย่างไรให้ทรายแข็งตัว ไม่ล้ม และที่สำคัญยังได้ฝึกการสัมผัส ได้จับทราย ขยำทราย เป็นการบริหารกล้ามเนื้อมืออีกด้วย
  3. ชวนติดสติ๊กเกอร์ในห้องน้ำ ลองหาซื้อสติ๊กเกอร์ลายการ์ตูนรูปสัตว์ตัวโปรดของลูกน้อยมา แล้วชวนลูกติดในห้องน้ำ เพื่อให้บรรยากาศการอาบน้ำมีความสุข ระหว่างการอาบน้ำได้เรียนรู้สัตว์ชนิดต่าง ๆ และที่สำคัญยังเป็นการฝึกให้ลูกน้อยมีวินัยในการอาบน้ำที่ดี
  4. เล่นนิทานประกอบท่าทาง โดยให้ลูกคิดเรื่องที่จะเล่าเกี่ยวกับตัวเอง เช่น หนูอยากเป็นเจ้าหญิง แล้วให้ลูกแต่งตัวเป็นเจ้าหญิง เปิดเพลงให้เขาได้เต้น หรือให้ลูกเล่าว่าเจ้าหญิงเป็นอย่างไร ทำไมหนูถึงอยากเป็นเจ้าหญิง ให้เขาได้แสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่ และบอกว่าเรื่องที่ลูกเล่าน่าสนใจจังเลย ทำให้ลูกได้ใช้จินตนาการในการคิดเรื่องราว รู้จักการเชื่อมโยงเรื่องราว และยังทำให้ลูกมีความมั่นใจ กล้าแสดงออก
  5. ช่วยกันจัดบรรยากาศบ้านให้โล่ง ปลอดภัยเพราะลูกน้อยวัยนี้เป็นวัยที่อยากเรียนรู้ อยากที่จะเดินสำรวจสิ่งต่างๆ ในบ้าน การจัดสถานที่ให้โล่ง เป็นสัดส่วน มีระเบียบ จะทำให้ลูกน้อยรู้ว่าสิ่งของต่าง ๆ อยู่ตรงไหน ต้องเอาของไปเก็บตรงไหน ฝึกการคิดวางแผนได้ดี และการที่บ้านมีระเบียบเรียบร้อยยังช่วยเพิ่มความปลอดภัย ไม่ต้องคอยกังวลว่าจะได้รับอุบัติเหตุ ทำให้ลูกน้อยเล่นได้อย่างอิสระ อยากเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ภายในบ้านมากขึ้น
  6. มีความคงเส้นคงวา ตอบสนองต่อเด็กอย่างชัดเจนและในทัศนะท่าทีแบบเดิมต่อพฤติกรรมแบบเดิมของเด็ก ความคงเส้นคงวาของเราจะทำให้เด็กสามารถคาดการณ์สิ่งต่างๆ ได้อย่างไม่สับสน ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการเรียนรู้ของเขา
  7. เป็นต้นแบบในการแสดงความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นให้ลูกเห็น และในจังหวะที่เหมาะที่ควร การสอนให้ลูกรู้จักเห็นอกเห็นใจผู้อื่นสอนได้ด้วยการทำให้เห็น ไม่ใช่สอนด้วยคำพูด
  8. ทำตัวของเราให้สนุกไปกับกิจกรรมของลูก เพราะการช่วยบอกเขาว่า “เรื่องของหนู น่าสนใจจริงๆ” ทำให้เขาเกิดความมั่นใจ ซึ่งจะเป็นแรงเสริมต่อพฤติกรรมการเรียนรู้ของเด็ก
  9. ทำทุกอย่างที่ว่ามาทั้งหมดด้วยความรัก และความเข้าใจในตัวเขา อย่าเอาลูกไปเทียบกับคนโน้นคนนี้ เพราะเขาก็คือเขา ไม่มีทางที่จะเหมือนคนอื่นไปทั้งหมด

อ่านต่อ >> 3 โภชนาการดี เพิ่มพลังสมองให้ลูกน้อย คลิกหน้า 3

          นอกจากกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการต่าง ๆ ที่กล่าวมาแล้ว การเสริมโภชนาการที่ดีจะช่วยให้สมองน้อย ๆ มีการพัฒนาที่สมบูรณ์ และต่อยอดจินตนาการอย่างไร้ขีดจำกัดค่ะ

3 โภชนาการดี เพิ่มพลังสมอง

1. นม คือ โภชนาการที่ดีที่สุดสำหรับลูกน้อย

อย่างไรก็ตามเมื่อลูกเริ่มโตขึ้นคุณแม่ควรเสริมสร้างพลังสมองและพลังการเรียนรู้ของลูกน้อยด้วยการให้ลูกน้อยดื่มนมผงอย่างต่อเนื่องและนานที่สุด เพราะนมผงเป็นโภชนาการที่คิดค้นและพัฒนาขึ้นเพื่อให้เหมาะสมต่อพัฒนาการของเด็กในแต่ละช่วงวัย ด้วยการเสริมสารอาหารที่จำเป็นและมีประโยชน์มากมาย ซึ่งจะช่วยให้ลูกน้อยทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่

2. เรื่องอาหารการกินให้เป็นไปตามธรรมชาติของวัย

เด็กควรได้รับสารอาหารอะไร ควรเพิ่มสารอาหารอะไร แต่สิ่งที่อยากจะย้ำเกี่ยวกับเรื่องอาหารก็คือ “อย่าให้ลูกกินหวาน” โดยเฉพาะรสหวานที่มาจากน้ำตาลซึ่งเป็นสารโมเลกุลเล็ก เพราะมันจะถูกดูดซึมอย่างรวดเร็ว ทำให้ปริมาณน้ำตาลในเลือดสูงเกินความพอดี ทำให้ร่างกายต้องขับสารบางอย่างออกมาเพื่อขจัดน้ำตาลที่เกินพอดีนี้ ผลก็คือทำให้น้ำตาลในเลือดต่ำกว่าปกติภายในเวลาอันรวดเร็ว ในการทำงานของสมองนั้น สมองต้องการน้ำตาลในระดับที่พอดี ไม่มากหรือน้อยเกินไป ส่วนรสหวานที่มาจากผลไม้ ผัก หรือธัญพืช เป็นสารที่มีขนาดโมเลกุลใหญ่ ซึ่งจะค่อยๆ ถูกดูดซึมเข้าไปในร่างกาย จึงไม่ก่อให้เกิดผลเสียต่อพัฒนาการของสมอง

3. เวลาอาหารของลูกอย่าทำให้เป็นเวลาแห่งความทุกข์

หรือเป็นการบังคับขู่เข็ญเพราะจะทำให้เขาปฏิเสธอาหาร ซึ่งจะมีผลเสียต่อพัฒนาการของสมอง ต้องทำให้ลูกรู้สึกว่าเวลาอาหารคือเวลาแห่งความสุข

การจัดกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการที่เหมาะสมกับวัยของเด็กจะช่วยให้สมองมีการพัฒนาที่สมบูรณ์ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการเรียนรู้และต่อยอดจินตนาการอย่างไร้ขีดจำกัดค่ะ…หวังว่าคงช่วยให้พ่อแม่เกิดความสบายใจว่า การพัฒนาสมองลูก การช่วยให้สมองของลูกมีความสดใสกระฉับกระเฉงอยู่ตลอดเวลานั้น ไม่ใช่เรื่องยาก ขอเพียงเราเข้าใจหลักธรรมชาติ ของสมองเท่านั้นเอง