AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

ภาษาที่สาม 10 ภาษา ที่พ่อแม่ควรให้ลูกเรียนเพื่ออนาคตที่แสนสดใส

ภาษาที่สาม …อีกหนึ่งภาษาที่พ่อแม่ควรรู้ เพราะในการเรียนภาษาที่สอง หรือภาษาอังกฤษ ที่เป็นภาษาหลักนั้น หลายๆ คนก็คงจะพอรู้ถึงความสำคัญกันมาบ้างแล้ว แต่ถ้าลูกของคุณได้ภาษาที่ 3 ก็จะทำให้ดูมีโปรไฟล์ที่ดีขึ้นมาทันตาเลยทีเดียว

ไม่มีใครปฏิเสธว่าในยุคนี้ “ภาษา” มีอิทธิพลต่อมนุษย์มากขนาดไหน ยิ่งรู้ภาษาจำนวนมากยิ่งได้เปรียบมาก การรู้เพียงภาษาไทย และภาษาอังกฤษคงไม่เพียงพอเสียแล้ว ต้องรู้ภาษาที่สามด้วย สิ่งที่คนรุ่นใหม่ทุกคนควรจะมีและถือเป็นข้อได้เปรียบที่นอกจาก ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ แล้ว เราต้องพัฒนาทักษะทางด้านภาษาของตัวเองให้โดดเด่นขึ้นไม่ให้น้อยหน้าใคร ภาษาที่สามจึงเปรียบเสมือนความสามารถพิเศษ ยิ่งถ้าพูดได้มากกว่าสามภาษาขึ้นไปก็จะยิ่งทำให้ทุกองค์กร และทุกสถาบันการศึกษาต้องรีบคว้าตัวไว้อย่างแน่นอนกับ 10 สุดยอดภาษาที่จำเป็นอย่างยิ่งในอนาคตของลูกๆ จะมีภาษาอะไรที่น่าสนใจและควรค่าแก่การเรียนเพิ่มเติมบ้างไปชมกันเลย…

10 ภาษาที่สาม ที่พ่อแม่ควรให้ลูกเรียน

1. ภาษาจีนกลาง (Mandarin / 普通话) “สวัสดี” ในภาษาจีนกลางพูดว่า “Ni hao” (หนี-ห่าว)

ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คนใช้ภาษาจีนมีกว่าพันล้านคนซึ่งเป็นภาษาที่ใช้พูดมากที่สุดในโลก และประเทศจีนเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมใหญ่เป็นอันดับที่สองของโลก ซึ่งเร็วๆนี้คาดว่าน่าจะขึ้นมาเป็นอันดับ1 จึงจำเป็นมากในอนาคตในการติดต่อธุรกิจและการท่องเที่ยวที่เห็นได้ชัดว่ามีนักท่องเที่ยวชาวจีนมาเที่ยวในบ้านเราเพิ่มมากขึ้นทุกวันและแน่นอนว่ามีผลต่อโอกาสในอาชีพ การงานในอนาคตข้างหน้าและเป็นข้อได้เปรียบอย่างยิ่ง

การเรียนรู้ภาษาจีนกลางจึงจำเป็นและสำคัญมากในอนาคต รวมไปถึงผลการสำรวจภาษาที่มีการใช้มากที่สุดในอินเตอร์เน็ตภาษาจีนติดอยู่ในอันดับที่ 2 ของโลก รองจากภาษาอังกฤษ แม้จะเป็นภาษาที่ถือได้ว่ายากต่อการเรียนรู้ภาษาหนึ่ง แต่หากคุณสามารถสื่อสารทั้งเขียนและพูดภาษาจีนกลางได้เป็นอย่างดีแล้วหละก็ รับรองว่ามีผลต่ออาชีพหน้าที่การงานในอนาคตอย่างแน่นอน

2. ภาษาสเปน (Spanish / Español) “สวัสดี” ในภาษาสเปนพูดว่า “Hola” (โอ-ลา)

ภาษาสเปนเป็นภาษาที่ใช้ในสามทวีป ได้แก่ อเมริกาใต้ ยุโรป และแอฟริกา คนพูดภาษาสเปนได้กว่า 400 ล้านคน และยังเป็นภาษาที่สองในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีแนวโน้มว่าภาษาสเปนจะเติบโตขึ้นไปเรื่อยๆอย่างรวดเร็ว มีความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจธุรกิจระหว่างประเทศ และเป็นภาษาที่นิยมมากในการศึกษาต่อในระดับมหาลัยของประเทศสหรัฐอเมริกา ถือว่าภาษาสเปนเป็นภาษาที่กำลังมาแรง เด็ก ๆ ควรศึกษาไว้เพื่อความได้เปรียบของเราในอนาคต

เป็นภาษาที่มีความสำคัญในด้านของเศรษฐกิจและธุรกิจระหว่างประเทศ จำเป็นต่อการประกอบอาชีพของประชากร ภาษาสเปนจึงเป็นที่นิยมมากในการศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยของประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้มีการคาดการณ์ไว้ว่า คนที่มีสามารถพูดและสื่อสารภาษาสเปนได้ดีจะทำให้มีอัตราค่าจ้างเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 1.7 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ภาษาสเปนยังเป็นภาษาที่ใช้ในอินเตอร์เน็ตมากที่สุดอยู่ในอันดับที่ 3 รองจากภาษาจีน และภาษาอังกฤษ นั่นเอง

3. ภาษาญี่ปุ่น ( Japanese/ 日本語 ) “สวัสดี” ในภาษาญี่ปุ่นพูดว่า “Hajimemashite” (ฮะ-จิ-เมะ-มะ-ชิ-เตะ)

ปัจจุบันมีบริษัทญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก เช่น ผลิตสินค้าอุตสาหกรรม ยานยนต์ ไฟฟ้า เครื่องจักร อาหารและอุตสาหกรรมอื่นๆ ซึ่งถ้าเรารู้และศึกษาภาษาญี่ปุ่น โอกาสที่จะได้งานทำก็จะมีมากกว่าคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อซื้อขาย ด้านธุรกิจ การค้า หรือการทำงานร่วมกับองค์กรญี่ปุ่นก็จะได้รับความไว้วางใจมากกว่าคนที่สื่อสารภาษาญี่ปุ่นไม่ได้เลย นี่ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการที่เราสามารถสื่อสารภาษาญี่ปุ่นได้

ในหลายองค์กรจึงต้องการบุคลากรที่มีความรู้ด้านภาษาญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก เนื่องจากคนในประเทศญี่ปุ่นยังพูดภาษาอังกฤษได้น้อย จึงต้องการคนที่สื่อสารภาษาญี่ปุ่นได้ดี จึงทำให้มีค่าตอบแทนที่ค่อนข้าง

อ่านต่อ >> “10 ภาษาที่สาม ที่พ่อแม่ควรให้ลูกเรียน” คลิกหน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

4. ภาษาฝรั่งเศส (French/ Français) “สวัสดี” ในภาษาฝรั่งเศสพูดว่า “Bonjour” (บงชูร์)

ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาที่มีจำนวนประชากรทั้ง 5 ทวีปใช้พูดมากกว่า 200 ล้านคน ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาที่ในองค์กรต่างๆระดับโลกใช้สื่อสารกัน เช่น สหภาพยุโรป ไอโอซี ยูเนสโก้ และองค์การสหประชาชาติ ปัจจุบันการท่องเที่ยวในประเทศไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว มีนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศสเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ถ้าคุณรู้ภาษาฝรั่งเศส มีโอกาศที่คุณจะได้ทำงานด้านท่องเที่ยวและอาชีพอื่นที่เกี่ยวข้องอีกมากมาย

ภาษาฝรั่งเศสเป็นอีกหนึ่งภาษาที่มีการใช้อย่างแพร่หลายสูงถึง 129 ล้านคนทั่ว กว่า 40 ประเทศ และยังเป็น 1 ใน 10 ของภาษาที่พบมากที่สุดในอินเตอร์เน็ต ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาที่ง่ายต่อการเรียนรู้เพราะคล้ายกับภาษาอังกฤษมาก ยกตัวอย่างในประเทศแคนาดามีผู้ที่ต้องการเรียนรู้ภาษาฝรั่งเศสเป็นอย่างมาก เพราะตำแหน่งงานส่วนใหญ่จะต้องใช้ภาษาฝรั่งเศสในการสื่อสาร จนถึงขั้นมีการคิดประเมินค่าจ้างไว้ว่าคนที่สามารถพูดภาษาฝรั่งเศสได้จะมีค่าจ้างเพิ่งขึ้นถึง 2.7% เลยทีเดียว

5. ภาษาโปรตุเกส (Portuguese/ Português) “สวัสดี” ในภาษาโปรตุเกสพูดว่า “Olá” (โอ-ล๊ะ)

เป็นภาษาราชการในหลายประเทศทั่วโลก อาทิเช่น ประเทศโปรตุเกส บราซิล แองโกลา โมซัมบิก และประเทศติมอร์-เลสเต เป็นต้น หากพิจารณาในด้านของเศรษฐกิจแล้วจะเห็นได้ว่าประเทศส่วนใหญ่ที่ใช้ภาษาโปรตุเกสจะเป็นประเทศที่กำลังพัฒนาอยู่ในแถบทวีปอเมริกาใต้ โดยเฉพาะประเทศบราซิลที่มีขนาดใหญ่และมีประชากรจำนวนมาก กำลังต้องการที่จะขยายเศรษฐกิจออกไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก แต่ยังขาดแคลนคนที่สามารถพูดและใช้ภาษาโปรตุเกสได้เป็นอย่างดี ถือเป็นข้อได้เปรียบและมีประโยชน์มากเพราะคนที่มีความรู้ด้านภาษาโปรตุเกสนี้มีน้อย แต่การเรียนรู้ภาษาโปรตุเกสต้องบอกเลยว่ายากกว่าภาษาสเปน แต่ก็ไม่ยากเท่ากับภาษาอังกฤษ และฝรั่งเศส ถือว่าเป็นอีกภาษาที่น่าสนใจมากๆค่ะ

6. ภาษาเยอรมัน (German/ Deutsch) “สวัสดี” ในภาษาเยอรมันพูดว่า “Hallo” (ฮา-โล)

แม้ภาษาเยอรมันจะไม่ได้เป็นหนึ่งในภาษาของสหประชาชาติ แต่ก็เป็นภาษาราชการของประเทศมหาอำนาจด้านเศรษฐกิจของยุโรปหลายประเทศ นอกจากประเทศเยอรมนีที่ใช้ภาษาเยอรมันเป็นภาษาราชการแล้ว ยังมีประเทศใกล้เคียงที่ใช้ภาษาเยอรมันเป็นภาษาพูดอีกด้วย รวมแล้วประมาณ 100 ล้านคน จึงทำให้ภาษาเยอรมันเป็นภาษาที่มีคนพูดมากที่สุดในยุโรปอีกด้วย อย่างประเทศเยอรมนีที่มีความแข็งแกร่ง และมีเสถียรภาพด้านเศรษฐกิจมากที่สุดในสหภาพยุโรป ความสามารถในการพูดภาษาเยอรมันจึงมีประโยชน์และสำคัญมากในด้านการทำธุรกิจระหว่างประเทศกับประเทศในแถบยุโรป หรือแม้แต่ประเทศไทยเองก็มีบริษัทมากมายที่มาจากประเทศเยอรมัน จึงเป็นที่คาดการณ์ว่าผู้ที่สามารถสื่อสารภาษาเยอรมันได้จะทำให้มีอัตราค่าจ้างสูงขึ้นประมาณ 4% และยังเป็นภาษาที่ง่ายต่อการเรียนรู้เพราะมีลักษณะคล้ายภาษาอังกฤษ แต่จะยากในส่วนของไวยากรณ์

อ่านต่อ >> “10 ภาษาที่สาม ที่พ่อแม่ควรให้ลูกเรียน” คลิกหน้า 3

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

7. ภาษาอาหรับ (Arabic /العربيةالعربية) “สวัสดี” ในภาษาอาหรับพูดว่า “Al salaam a’alaykum” (อัสสะลามมุอะลัยกุม)

ภาษาอาหรับเป็นหนึ่งในภาษาของสหประชาชาติและเป็นภาษาราชการของกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง เช่น อิรัก คูเวต จอร์แดน อิสราเอล แอลจีเรีย บาห์เรน ปาเลสไตน์ และซาอุดีอาระเบีย จะเห็นได้ว่าภาษาอาหรับเป็นภาษาของศาสนาอิสลามที่เติบโตได้อย่างรวดเร็วที่สุด และมีแนวโน้มว่าจะขยายตัวมากขึ้นทุกปี ปัจจุบันมีผู้พูดภาษาอาหรับได้ทั้งหมด 246 ล้านคนจากทั่วโลก มากเป็นอันดับที่ 6 เลยทีเดียว สาเหตุสำคัญที่ทำให้ภาษาอาหรับเป็นอีกหนึ่งภาษาที่น่าสนใจนั่นก็คือ กลุ่มประเทศในตะวันออกเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นประเทศที่มีอิทธิพลในเศรษฐกิจน้ำมันโลก ทำให้ภาษาอาหรับเป็นภาษาที่คนต้องการเรียนรู้เพื่อใช้สื่อสารมากขึ้น แต่สำหรับผู้ที่สนใจอยากจะเรียนภาษาอาหรับต้องบอกเลยว่า เป็นภาษาที่มีระดับความยากอยู่ในอันดับที่ 3 รองจากภาษาจีนและภาษาญี่ปุ่นเลยทีเดียว เนื่องจากว่ามีระบบการเขียนที่ยาก และหลักไวยากรณ์ที่ซับซ้อนนั่นเองค่ะ

8. ภาษารัสเซีย (Russian/ русский язык) “สวัสดี” ในภาษารัสเซียพูดว่า “Zdravstvuite” (สดร๊าสต-วุย-ถิ)

ภาษารัสเซียเป็น 1 ใน 5 ของภาษาที่แพร่หลายมากที่สุดในโลก หนึ่งในลิสต์ภาษาที่เราต้องเรียนรู้เพราะเป็นทั้งภาษาสากล และภาษาทางการของสหประชาชาติ และปัจจุบันระหว่างไทยและรัสเซียมีการเปิดเสรีด้านวีซ่า ทำให้เราเดินทางเข้าประเทศรัสเซียโดยไม่ต้องขอวีซ่า สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวระหว่างประเทศได้อย่างเสรี เป็นการช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวและรายได้จากการท่องเที่ยวระหว่างกัน มีชาวรัสเซียเลือกที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นจำนวนกว่าล้านคนต่อปี ซึ่งมีอัตราเพิ่มขึ้นในทุกปีมากกว่าทุกประเทศ ถือเป็นการขยายตัวอย่างก้าวกระโดดของนักท่องเที่ยว ยิ่งทำให้ขาดแคลนผู้เชี่ยวชาญและผู้ที่รู้ภาษารัสเซีย จึงเป็นข้อได้เปรียบเมื่อรู้ภาษานี้

9. ภาษาเกาหลี (Korean/ 한국어) “สวัสดี” ในภาษาเกาหลีพูดว่า “안녕하세요.” (อัน-นยอง-ฮา-เซ-โย)

กระแส “เกาหลีฟีเวอร์” ยังแรงไม่หาย ซึ่งประเทศเกาหลีนั้น ได้ติดต่อกับเราในเรื่องต่างๆ อย่างเช่น การค้า เศรษฐกิจ ความมั่นคงทางศาสนา และการเมือง  ทำให้ภาษาเกาหลีมีความสำคัญมากขึ้น  เกาหลีใต้เป็นประเทศที่มีความมหัศจรรย์ทางด้านเศรษฐกิจเป็นอย่างมากในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะยังคงเป็นหนึ่งประเทศที่เติบโตเร็วที่สุดในเชิงพาณิชย์สำรับอนาคตข้างหน้า อีกทั้งยังมีสถานศึกษาและโรงเรียนกวดวิชาบางแห่งเปิดสอนภาษาเกาหลีขึ้นเพื่อให้ผู้ที่สนใจเข้ามาศึกษา  และในตอนนี้บ้านเราก็เข้าสู่ AEC แล้ว ทำให้ต้องศึกษาภาษาที่สามกันมากขึ้น  ใครที่คิดอยากจะศึกษาภาษาอื่นเพิ่มเติม ภาษาเกาหลีก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อยเหมือนกันนะคะ

10. ภาษาฮินดี (Hindi / हिन्दी, हिंदी) “สวัสดี” ในภาษาฮินดีพูดว่า “Namaste / Namaskar” (นมัสเต / นมัสการ)

ภาษาอันดับที่ 4 ที่มีคนใช้มากที่สุดในโลก “ภาษาฮินดี” เป็นภาษาราชการของสาธารณรัฐอินเดีย และเป็นภาษาที่ใช้สื่อสารกันทั่วไปของประเทศในแถบเอเชียใต้ เช่น ปากีสถาน เนปาล บังคลาเทศ ภูฏาน เป็นต้น โดยเฉพาะประเทศอินเดียที่ในปัจจุบันมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ค่อนข้างสูง และยังเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลกอยู่ในอันดับ 2 รองจากประเทศจีน ทำให้ภาษาฮินดีมีผู้ใช้ทั้งหมด 497 ล้านคน มีความสำคัญต่อการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลกมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น อินเดียก็อยู่ในกลุ่มประเทศ AEC+6 ด้วย ในประเทศไทยมีสมาคมนักธุรกิจชาวอินเดียและชุมชนชาวอินเดียอยู่หลายกลุ่ม ซึ่งเกือบทั้งหมดยังนิยมใช้ภาษาฮินดีเป็นภาษากลางในการสื่อสารกัน แต่ภาษาฮินดีก็ไม่ได้เป็นภาษาสากลในประเทศอินเดียซะทีเดียว เพราะคนที่พูดฮินดีส่วนใหญ่ก็จะใช้ภาษาอังกฤษได้ดีด้วยเช่นเดียวกัน

อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก!


รวบรวมข้อมูลและอ้างอิงจาก : www.manager.co.th , dailynewsdig.com , akarlin.com

https://lingos.co/blog/best-languages-to-learn-in-the-world/

www.sprachcaffe.com