นาทีชีวิต เด็กหญิงห้อยโหนตู้เย็นเล่น เกือบพลาดท่าถูกตู้เย็นล้มทับ ทำเอาพ่อแม่ ผู้ปกครองที่เล่นโซเชียลตกอกตกใจและลุ้นกลัวว่าจะเกิดเหตุเศร้ากับเด็กหญิงตัวน้อย ที่โชคดีคุณพ่อวิ่งเข้ามาช่วยจับตู้เย็นขึ้นทันก่อนที่ตู้เย็นจะเอียงล้มลงมามากกว่านี้ ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีเรื่องราวของคลิปอุทาหรณ์เตือนใจพ่อแม่อย่าปล่อยให้ลูกเปิดตู้เย็นลำพังมาให้ดูกันค่ะ
นาทีชีวิต เด็กหญิงห้อยโหนตู้เย็นเล่น เกือบล้มทับร่าง !
เรื่องราวเตือนใจพ่อแม่ นาทีชีวิต เด็กหญิงห้อยโหนตู้เย็นเล่น จนเกือบล้มทับร่าง เป็นเรื่องจากคุณแม่เจ้าของเฟซบุ๊กชื่อ Kanc Pan ได้แชร์คลิปเตือนอุทาหรณ์อย่าปล่อยให้เด็กเล่นตู้เย็นตามลำพัง เหตุเกิดเนื่องจากลูกสาวได้เดินเข้าครัวแล้วเปิดตู้เย็น ดึงประตูตู้เย็นลักษณะกำลังเล่นห้อยโหน จนนาทีไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เพราะตู้เย็นเอียงล้มลงมาจนเกือบทับเอาร่างลูกสาว แต่โชคดีที่คุณพ่อวิ่งเข้าครัวมาช่วยเหลือไว้ทัน
บทความแนะนำ คลิก >> คำสอนของแม่ ถึงลูกสาว 30 ข้อ
ทางทีมงานได้ขออนุญาตคุณแม่เจ้าของเรื่องนำมาแชร์เพื่อเป็นการเตือนพ่อแม่ ผู้ปกครองให้ดูแลบุตร หลานอย่างใกล้ชิด ไม่ควรให้เด็กเล็กหยิบ จับ เปิดอุปกรณ์ของใช้ที่มีความเสี่ยงที่อาจจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ค่ะ
อ่านต่อ ของใช้อันตรายที่ไม่ควรให้ลูกหยิบมาเล่น คลิกหน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
5 ของใช้อันตรายในบ้านที่ต้องระวังลูก ห้ามเอาไปเล่น!!
เป็นที่รู้กันดีว่าบ้านคือวิมานที่อบอุ่น และปลอดภัย แต่บางครั้งอุปกรณ์ของใช้บางอย่างก็ไม่ได้ปลอดภัยกับทุกคนในบ้าน เสมอไป หากนำไปใช้ในวิธีที่ไม่ถูกต้องเหมาะสม ยิ่งโดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กเล็ก ยิ่งต้องเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้นเป็น พิเศษ และนี่คืออุปกรณ์ของใช้ที่อยู่ในบ้านที่อาจเป็นอันตรายกับตัวของเด็กเล็กๆ ได้ เราไปเช็กพร้อมกัน เพื่อจะได้เก็บรักษา ไว้ให้ไกลจากมือของเด็กๆ กันค่ะ
1. ลูกเหม็น
เชื่อว่าหลายๆ ครอบครัวจะต้องมีลูกเหม็นกลิ่นฉุนไว้ตามตู้เสื้อผ้า หรือไม่ก็วางไว้ในห้องน้ำ ห้องครัว เพื่อไล่แมลงสาป มด เป็นต้น ความขาววาวๆ ของลูกเหม็นอาจไปสะดุดตาของเด็กๆ แล้วนำมาเล่นกัน แล้วถ้าเผลอจับเอามาเข้าปาก หรือมือที่จับ ลูกเหม็นเล่นแล้วมาขยี้ตา ป้ายจมูก ขอบอกว่าอันตรายมากค่ะ เพราะสารแนพทาลีน (Naphthalene) ในลูกเหม็นสามารถ ทำลายเซลล์เม็ดเลือดแดงค่ะ ดังนั้นถ้าจะใช้ควรใส่ภาชนะที่ปกปิด หรือวางไว้บนพื้นที่ที่เด็กไม่สามารถหยิบนำมาเล่นกันด้วยนะคะ
2. สเปรย์ปรับอากาศ หรือสเปรย์ดับกลิ่น
ถึงแม้ว่าจะขึ้นชื่อว่าเป็นสเปรย์ปรับอากาศให้สดชื่นภายในบ้าน แต่ก็ไม่เหมาะที่คุณแม่จะวางขวดสเปรย์ปรับอากาศไว้ตามโต๊ะ หรือมุมพื้นของบ้านกันนะคะ เพราะถ้าเด็กเล็กๆ ไม่รู้แล้วนำมาเล่นฉีดใส่ใบหน้า ดวงตากัน ตรงนี้อันตรายมากค่ะ เพราะสารเคมีที่ผสมในสเปรย์ปรับอากาศสามารถส่งผลกระทบต่อฮอร์โมน สุขภาพ ระบบการเจริญพันธุ์ และการเจริญเติบโต โดยเฉพาะในเด็กหากเข้าตาอาจตาอักเสบ หรือตาบอดได้ค่ะ
3. น้ำยาล้างจาน
เป็นธรรมดาที่เด็กๆ ชอบเล่นฟองลูกโป่ง ที่ทำได้เองง่ายๆ เพียงแค่มีสบู่ หรือน้ำยาล้างจาน ที่นี้ถ้าจะให้ลูกเล่นกัน พ่อแม่ต้องอยู่ด้วยและควรเป็นคนผสมกับน้ำให้ลูก ไม่ควรปล่อยให้เด็กเล็กๆ วัยอนุบาลเขาทำกันเอง เพราะหากเด็กๆ เผลอดูดน้ำที่ผสมน้ำยาล้างจานเข้าไปสามารถทำให้เกิดพิษกับร่างกายได้ โดยเฉพาะระบบลำไส้ กระเพาะทางเดินอาหาร หากล้างท้องไม่ทันถึงขั้นเสียชีวิตได้นะคะ
บทความแนะนำ คลิก >> 13 ของใช้ในบ้านอันตราย พ่อแม่ต้องระมัดระวัง
4. ปลั๊กพ่วง
ทุกบ้านมีกันอย่างแน่นอนสำหรับปลั๊กพ่วง เพราะสามารถใช้ไฟเสียบต่อได้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายชนิด และสังเกตเห็นตรงปุ่มสวิทช์เปิด ปิดตัดไฟกันใช่ไหมคะ ที่บางทีผู้ใหญ่ก็ลืมดึงปลั๊กไฟออกแล้วเปิดสวิทช์ทิ้งไว้ ทีนี้เด็กๆ ที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์เกิดเอาแท่งดินสอ หรือนิ้วมือแหย่ลงไปอาจถูกไฟดูดได้ค่ะ
5. น้ำยาล้างห้องน้ำ
ตามท้องตลาดเดี๋ยวนี้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดห้องน้ำ อย่างน้ำยาล้างห้องน้ำทำออกมาหลายๆ สูตรพบว่ากลิ่นไม่เหม็นฉุนแต่กลิ่นออกไปทางหอมละมุนซะมากกว่า ถึงกลิ่นจะหอมแต่ก็ยังมีสารเคมีอันตรายอยู่นะคะ หากคุณแม่วางไว้ในห้องน้ำต้องวางให้ไกลจากมือของเด็กๆ หรือถ้าดีที่สุดควรเก็บไว้ในตู้เก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดอย่างมิดชิด เพื่อกันไม้ให้เด็กๆ วัยซนหยิบเอามาเล่นกันค่ะ ความอันตรายของน้ำยาล้างห้องน้ำคือ หากเข้าตาอาจตาบอดได้ หรือหากเผลอทานเข้าไปอันนี้ถ้าไปโรงพยาบาลล้างท้องไม่ทันก็อันตรายถึงชีวิตได้เหมือนกันค่ะ
อ่านต่อ 5 วิธีสอนลูกรู้จักเก็บของเล่นให้เป็นระเบียบ คลิกหน้า 3
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
5 วิธีง่ายๆ สอนลูกน้อยรู้จักเก็บของเล่นเมื่อเล่นเสร็จแล้ว
1. เริ่มสอนลูกตั้งแต่ยังเล็ก
การเริ่มสอนให้ลูกรู้จักเก็บของด้วยตัวเองเมื่อเล่นเสร็จแล้วตั้งแต่ 2 ขวบ เมื่อเด็กอายุได้ 5 ขวบ เขาจะรู้จักการจัดเก็บของให้เป็นระเบียบได้ด้วยตัวเอง โดยที่พ่อแม่ไม่ต้องคอยบอกให้เก็บของเล่นทุกครั้งที่ลูกเล่นเสร็จ
2. ทำให้ดูเป็นตัวอย่าง
คุณพ่อคุณแม่ควรเริ่มจากการเก็บของให้ดูเป็นตัวอย่าง ไม่วางของทิ้งไว้ให้เกะกะ จัดระเบียบบ้านให้สะอาดเรียบร้อยอยู่เสมอ ไม่วางกระเป๋า เสื้อผ้า หรือถังขยะเอาไว้ไม่เป็นที่เป็นทาง เพราะลูกน้อยจะซึมซับนิสัยที่ไม่ดีจากพ่อแม่ได้
3. เลือกที่เก็บของเล่นให้ลูกน้อย
การเลือกตู้ โต๊ะ ลิ้นชัก กล่องเก็บของ ตะกร้า และอุปกรณ์ต่างๆ ให้เหมาะสมกับลูกน้อย จะช่วยให้ลูกน้อยอยากเก็บของ และจัดระเบียบด้วยตัวเอง อาจเลือกกล่องสำหรับเก็บของเล่นเป็นลายการ์ตูนน่ารักๆ ที่ลูกของเราชื่นชอบ ที่เก็บเครื่องเขียน สวยๆ อาจมีการติดป้ายสัญลักษณ์บนที่เก็บที่มีฝาปิด ป้องกันฝุ่นละอองเข้ามาในกล่องด้วยจะยิ่งดี
บทความแนะนำ คลิก >> เตือนพ่อแม่!! สารดูดความชื้นทำให้ลูกน้อยตาบอด
4. แข่งกันเก็บของ
สร้างความสนุกให้ลูกด้วยการแข่งกันเก็บของ เช่น ถ้าใครชนะจะได้กินขนม เลือกตัวเลือกที่ลูกอยากได้ สร้างความ สนุกสนานให้กับทุกคนในครอบครัว แล้วลูกจะรักการมีระเบียบ
5. แสดงคำสั่ง หนักแน่น ชัดเจน
บางครั้งพ่อแม่เองก็ต้องหนักแน่นในการออกคำสั่งเมื่อเวลาที่ต้องการให้ลูกทำอะไรด้วยตัวเอง โดยเฉพาะการรับผิดชอบของเล่นของตัวเองที่เมื่อนำออกมาเล่นเสร็จแล้วก็ต้องรู้จักเก็บเข้าที่เดิมให้เป็นระเบียบ โดยที่อาจจะให้รางวัลเมื่อลูกเก็บของเข้าที่เป็นระเบียบ เช่น ได้ค่าขนมเพิ่ม แต่ถ้าไม่เก็บของให้เป็นระเบียบก็อดดูหนังการ์ตูน หรือลดค่าขนม เป็นต้น
อันตรายมีอยู่รอบตัว และก็อาจมีอยู่รอบบ้านแสนสุขของเราด้วยค่ะ ฉะนั้นทุกพื้นที่ ทุกซอก ทุกห้อง ต้องดูให้ดีว่าไม่มีอุปกรณ์ของใช้อันตรายวางอยู่สะดุดตาลูก เพราะเด็กเล็กๆ เขาไม่ทราบได้ค่ะว่าของใช้อะไรอันตราย หรือไม่อันตราย แต่ถ้าเป็นตู้เย็นนี่ต้องสอนบอกเด็กๆ เลยค่ะว่าห้ามเปิด ปิด หรือห้อยโหนตู้เย็นเล่นอย่างเด็ดขาด เพราะอาจพลาดตู้เย็นล้มลงมาทับอันตรายถึงชีวิตได้ค่ะ ถ้าผู้ปกครองไม่ทันมาเห็น และขอรวมถึงชั้นวางทีวีด้วยนะคะ ขอให้มีอะไรมายึดทีวีไว้ให้ติดชั้นวาง หรือติดผนังไปเลยยิ่งดี …ด้วยความใส่ใจและห่วงใยค่ะ
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
บทความแนะนำที่น่าสนใจคลิก
5 วิธีง่ายๆ สอนลูกน้อยเก็บของเล่น ฝึกความมีระเบียบ
สเปรย์ฉีดกล้ามเนื้อ อันตราย ที่ไม่ควรมองข้ามในเด็ก
ของเล่น เสี่ยงอันตราย 9 ประเภท ที่ไม่เหมาะให้ลูกเล่น
ขอขอบคุณคลิปและเรื่องจาก : คุณ Kanc Pan