คุณพ่อ คุณแม่อาจจะสงสัย ว่า ลูกน้อยฟันผุ จะเกี่ยวข้องกับโรคหัวใจได้อย่างไร ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับโรคหัวใจกันก่อน โรคหัวใจสามารถแบ่งออกเป็น โรคหัวใจแต่กำเนิด กับโรคหัวใจที่เกิดขึ้นภายหลัง อาจมีความรุนแรง และเสียชีวิตในเวลาอันสั้น ถ้ารักษาไม่ถูกวิธี หรือไม่มีอาการ
ถ้าคุณพ่อ คุณแม่ไม่สามารถทราบได้ว่าลูกน้อยเป็นโรคหัวใจหรือไม่ การดูแลสุขภาพปากและฟัน จึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญในการป้องกันภาวะแทรกซ้อน เพราะปากเป็นช่องทางผ่านของอาหาร เป็นที่ซ่อนตัวของเชื้อโรค โดยเฉพาะเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งอาจซึมเข้าสู่กระแสเลือด เพราะเกิดจากการแปรงฟันไม่ถูกวิธี การถอนฟัน หรือการตัดต่อมทอนซิล เป็นต้น เมื่อเชื้อเข้าสู่กระแสเลือดไปถึงหัวใจ คนที่มีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ และมีความผิดปกติของระบบไหลเวียนเลือด เชื้อแบคทีเรียดังกล่าวจะเข้าไปผสม และทำให้เกิดก้อนติดเชื้อที่หัวใจ
อ่านต่อ “การดูแลสุขภาพปากให้ลูกน้อย” คลิกหน้า 2
การดูแลสุขภาพปากให้ลูกน้อย
ถ้าลูกน้อยฟันขึ้นแล้ว คุณพ่อ คุณแม่ควรทำความสะอาดช่องปาก และฟันด้วยแปรงสีฟัน เลือกขนาดที่พอเหมาะ มีลักษณะอ่อนนุ่ม เลือกใช้ยาสีฟันสำหรับเด็ก เพราะในเด็กเล็กอาจกลืนยาสีฟันเข้าไป จึงไม่ควรใช้ยาสีฟันสำหรับผู้ใหญ่ เพราะถ้าลูกน้อยกลืนยาสีฟันเข้าไปจำนวนมาก อาจเกิดภาวะพิษจากฟลูออไรด์ได้
การแปรงฟันที่ถูกวิธีจะทำให้ลูกน้อยทำความสะอาดฟันได้ทั่วปาก แปรงครั้งละ 2 นาทีขึ้นไป จะช่วยป้องกันฟันผุและเหงือกอักเสบได้ ควรตรวจสุขภาพฟันปีละ 2 ครั้ง และควรรีบไปพบทันตแพทย์ทุกครั้งเมื่อพบว่าฟันผุ ถ้าลูกฟันผุ หรือมีรากฟันอักเสบ การแปรงฟันควรเบามือ ใช้ขนแปรงที่อ่อนนุ่มเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันเลือดออก และทำให้เชื้อโรคเข้าสู่กระแสเลือดได้ง่าย
ถ้าลูกน้อยที่เป็นโรคหัวใจไปรักษาฟัน หรือทำฟัน คุณพ่อ คุณแม่ควรแจ้งคุณหมอก่อนทุกครั้งว่าลูกน้อยเป็นโรคหัวใจ เพื่อที่คุณหมอจะได้ให้ยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อโรคก่อนทำการรักษา
อ่านต่อ “การดูแลสุขภาพปากให้ลูกน้อย (เพิ่มเติม)” คลิกหน้า 3
นพ.อิทธิชัย วัชรีคุปต์ แพทย์สาขาอายุรกรรมทั่วไป โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท แนะนำเพิ่มเติมในการดูแลสุขภาพฟันเป็นข้อ ๆ ดังต่อไปนี้
2.ควรเปลี่ยนแปรงสีฟัน 3 เดือน/1 ครั้ง เนื่องจากเป็นแหล่งสะสมเชื้อแบคทีเรีย และหัวแปรงสึกตามการใช้งาน
3.ควรเลือกยาสีฟันที่ผสมฟลูออไรด์เพื่อช่วยป้องกันผิวเคลือบฟัน
4.ควรใช้ไหมขัดฟันวันละ 1 ครั้ง เนื่องจากไหมขัดฟันช่วยขจัดทั้งคราบอาหาร และคราบแบคทีเรียระหว่างฟัน
5.หลีกเลี่ยงการรับประทานขนมขบเคี้ยว ขนมเหนียวๆ โดยเฉพาะที่มีน้ำตาล และพยายามลดน้ำตาลแต่ละวัน
7.ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ ช่วยลดความเป็นกรดในช่องปากได้ดี
8.หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่ผสมน้ำตาล
9.หลังการดื่มน้ำผลไม้ หรือเครื่องดื่มที่มีรสหวาน ควรบ้วนปากหลายๆ ครั้งทันที
10.ไม่ควรแปรงฟันภายใน 1 ชั่วโมงหลังอาหาร นม หรือเครื่องดื่มรสเปรี้ยว เช่น น้ำอัดลม ของดอง อาหารรสเปรี้ยว เป็นต้น เนื่องจากกรดทำให้สารเคลือบฟันอ่อนตัว ทำให้สารเคลือบฟันบางลง
เครดิต: มูลนิธิเด็กโรคหัวใจ, คมชัดลึก, ผู้จัดการออนไลน์, อาจารย์แพทย์หญิงขนิษฐา ลายลักษณ์ดำรง ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร