AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

ลูกโกรธ ลูกโมโห เรื่องธรรมดา แต่ต้องสอนลูกแสดงออก “ให้เป็น”

เมื่อ ลูกโกรธ โมโห หงุดหงิด จนบางครั้งแสดงจินตนาการสุดโต่งจนออกแนว “เด็กก้าวร้าว” ทั้งที่ไม่เคยให้ลูกเสพสื่อที่ใช้ความรุนแรง คุณพ่อคุณแม่ก็คงกังวลใจไม่น้อย มาดูเคสจริงจากคุณแม่ท่านหนึ่งกันค่ะ

Q: ลูกอนุบาล 2 อายุ 4 ขวบแล้ว เวลาโมโห หงุดหงิดจากโรงเรียน ก็จะบอกไม่ชอบครู ไม่รักเพื่อนคนนั้นคนนี้ บางทีไปไกลขนาด “จะยิงเลย อยากขับรถถังไปทับ อยากเตะไปนอกโลกโน่น ฯลฯ” จินตนาการอย่างนี้ แปลว่าเขาเป็นเด็กก้าวร้าวหรือเปล่าคะ ที่บ้านเราก็ไม่ได้ทำอะไรหรือให้เขาดูสื่อที่รุนแรงเลย แปลกใจและกังวลมาก ขอคำแนะนำด้วยค่ะ

ลูกโกรธ ลูกโมโห เรื่องธรรมดา แต่ต้องสอนลูกแสดงออก “ให้เป็น”

เกิดมาไม่เหมือนกัน บางคนเลี้ยงง่าย บางคนเลี้ยงยาก ขึ้นอยู่กับพื้นฐานทางอารมณ์เป็นอย่างไร มีคำศัพท์เรียกว่า temperament ซึ่งประกอบด้วยองค์ประกอบหลายส่วน ฟังดูมีวิชาการเป็นอันมาก

แต่อย่าไปสนใจเลย หันมาสนใจลูกของเราดีกว่า เด็กอายุ 4 ขวบมีอะไรให้เขาลองผิดลองถูกอีกมาก เขาโมโหใครกลับบ้านบ่อยๆ นั้นเพราะพื้นฐานทางอารมณ์เขาเป็นเช่นนั้นเอง คำถามคือทันทีที่เขาพูดว่าไม่ชอบครู ไม่รักเพื่อน เราควรทำตัวอย่างไร

อ่านต่อ “พ่อแม่ควรทำอย่างเมื่อลูกพูดหรือบ่นด้วยความโกรธ” หน้า 2

หลักการพื้นฐานยังคงเป็นการฟัง พ่อแม่ฝึกเป็นผู้ฟังที่ดี ปล่อยเขาเล่า คิดเสียว่าเขากำลังได้โอกาสฝึกทักษะเล่าเรื่องที่ดี ไม่มีคนขัด เราสามารถถามเพิ่มเติมได้ด้วยกริยาท่าทางสนใจอย่างเต็มที่ “ครูทำอย่างนั้นเลยหรอ“ “อั้ยย่ะ เพื่อนคนนี้ชื่อว่าอะไรนะ” จะทำอะไรก็ทำไปเถอะครับ ทำให้เขารู้ว่าเราใส่ใจ

ถ้าเขาเล่าเลยเถิดไปว่าชกเพื่อนไปแล้วหนึ่งที เรามีหน้าที่บอกเขาว่า “คราวหลังไม่ทำ” ถ้าเกิดเรื่องแบบนี้ให้เดินไปบอกครูดีกว่า บอกเขาว่า “พ่อและแม่อยากให้ลูก…..” ทำอย่างไรกับปัญหาที่เกิดขึ้นก็ว่าไป   ถ้าเขาบอกว่าครั้งหน้าจะตื้บให้ติดดิน เรามีหน้าที่บอกเขาว่า “พ่อแม่ไม่อยากให้ลูก….” ไม่อยากให้ทำอะไรก็ว่าไป จะให้หรือไม่ให้เหตุผลผมไม่ถือ (แต่นักจิตวิทยาบางสำนักจะแนะนำให้เหตุผลทุกครั้ง) ในวัย 4 ขวบนี้เรามีหน้าที่บอกตรงๆ และสอนตรงๆ อย่างสั้น ง่าย และชัดเจน อะไรได้ อะไรไม่ได้

“บางทีไปไกลขนาดจะยิงเลย อยากขับรถถังไปทับ อยากเตะไปนอกโลกโน่น” อันนี้น่าชื่นใจว่าเขาสามารถจดจำและใช้ภาษาได้ดีมากครับ อย่าได้ตีความหรือฟูมฟายให้มากความ เรามีหน้าที่ฟังและอู้หู อื้อหือ โอ๊ยโยะ โหยแฮะ ไปเรื่อยแหละครับ ทำให้เขารู้ว่าเราฟังอยู่ ฟังอย่างตั้งใจ สนใจ และใส่ใจด้วย

ที่คุณพ่อคุณแม่ถามคำถามนี้มา ผมเดาว่าเพราะพวกเราไม่อยากให้ลูกทำร้ายคนอื่น คงมิใช่เพราะไม่ต้องการให้ ลูกโกรธ หรือโมโหใคร ใช่มั้ยครับ เรื่องที่คนเราเข้าใจผิดกันมากคือมักคิดว่าอารมณ์โกรธและความโมโหเป็นของไม่ดีที่ต้องกำจัดทิ้ง ซึ่งว่าที่จริงมันก็ไม่ค่อยดีจริงๆ นั่นแหละ แต่จะอย่างไรก็ตาม หากอยากให้ลูกของเราเป็นคนธรรมดาก็ควรต้องยอมรับ ฝึกยอมรับ และฝึกให้ลูกของเรายอมรับอารมณ์โกรธและความขี้โมโหของตนเอง

อ่านต่อ “โกรธได้ ไม่ผิด แสดงออกอย่างไร สำคัญกว่า” หน้า 3

มีประโยคหนึ่งที่ผมพูดกับผู้ป่วยเสมอคือ “ความโกรธไม่ใช่ความผิด วิธีแสดงออกต่างหากที่อาจจะผิด”

ถ้าคุณพ่อคุณแม่อยากให้ ลูกโกรธ ไม่เป็น โมโหไม่เป็น คงส่งคำถามมาผิดที่แล้วล่ะครับ ให้ไปถามที่อื่น แต่ถ้าต้องการให้ลูกของเราโกรธเป็น โมโหเป็น และแสดงออกเป็นด้วย ก็ล้อมวงเข้ามาได้เลย หลักง่ายๆ มีว่าหากเอาแต่ขี้โกรธแล้วไม่หาทางระบายเลย อนาคตก็คงพบจิตแพทย์ หากขี้โมโหแล้วแสดงออกด้วยวาจา ด้วยกล้ามเนื้อ ทำลายข้าวของ ทำร้ายผู้คน อนาคตคงได้พบตำรวจ

จะเห็นว่าคำตอบที่ถูกต้องคือ โกรธได้ โมโหได้ และแสดงออกให้เป็น

เขาเป็นเด็กสี่ขวบจะให้เขาแสดงออกได้อย่างไร ก็เป็นหน้าที่ของเราจะค่อยๆ สอน มีเวลาสอนตั้งสิบปี กว่าเขาจะเข้าใกล้วัยรุ่น เริ่มด้วยการรับฟังและยอมรับความโกรธของเขาดังที่เล่ามา หากคนเป็นพ่อแม่ยอมรับความโกรธของเขาได้แล้ว เขาก็ยอมรับความโกรธของตนเองได้และจัดการมันได้ในที่สุด

 

บทความโดย: นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ จิตแพทย์ แผนกจิตเวช โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์

ภาพ: Shutterstock

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

รับมือแบบวิน-วิน เตาะแตะหัวฟัดหัวเหวี่ยง

เลี้ยงลูกอารมณ์ดี มีความสุข ไม่ก้าวร้าว