ก็แหงละ เพราะลูกวัยนี้คิดว่าก็ปากของเขานี่นา แม่มาบุกรุกอย่างนี้ลูกไม่ยอมง่ายๆ หรอก แต่เรามีตัวช่วยมาให้คุณแม่เลือกใช้ให้เหมาะกับงานใหญ่และยากของคุณอยู่แล้ว…
• ยืมชื่อคุณหมอมาอ้าง ในเมื่อพ่อกับแม่บอกความหวังดีไปหลายร้อยรอบแล้ว เจ้าหนูก็ยังไม่ทำตาม ก็อ้างชื่อคนอื่นดูบ้าง ในกรณีนี้หมายถึงคุณหมอเด็กหรือหมอฟันที่เขาไปหาเป็นประจำ “จำได้ไหม คุณลุงหมอบอกว่า ถ้าออกัสไม่อยากร้องไห้ปวดฟันและยิ้มฟันสวย ออกัสต้องทำยังไงเอ่ย”
• ให้ลูกได้เลือกแปรง พาลูกไปซื้อแปรงสีสวยด้วยกัน ให้เขาได้เลือกสีและลวดลายเอง ส่วนขนาดและคุณภาพ แม่ก็ควบคุมไปเลือกมาสัก 3 – 4 ด้าม เช้าก็เลือกใช้อันหนึ่ง เย็นก็เลือกอีกลายหนึ่ง เพลินแบบนี้ ลืมโวยแม่ไปได้มากโข
• ปล่อยลูกแปรงเองโลด ให้เขาแปรงเองโดยไม่ต้องห่วงเรื่องแปรงยังไม่ถูกวิธี หรือแปรงจะพังอะไรทั้งนั้น เพราะสิ่งสำคัญคือ ให้เขาได้ลองเพื่อที่จะได้รู้ด้วยตัวเองก่อน สิ่งที่พ่อแม่ต้องทำคือให้คำชมเพื่อสร้างกำลังใจ และไม่ว่าเขาจะแปรงฟันได้เก่งขึ้นเท่าใด คุณแม่ก็อย่าเพิ่งคิดว่าลูกจะแปรงฟันได้สะอาดแล้ว เพราะเด็กจะสามารถแปรงฟันได้เองอย่างสมบูรณ์ก็เมื่ออายุ 7 ขวบโน่นเลย ดังนั้นรอบเช้าเปิดโอกาสให้ลูกได้แสดงฝีมือแปรงเอง แต่รอบเย็นแม่เป็นผู้ช่วยแปรงให้นะลูก
• ตาลูกดูแม่แปรงบ้างนะ พอลูกแปรงฟันเสร็จ ถึงเวลาเขาจะได้ดูแม่แปรงฟันแม่บ้างแล้ว พาเขานั่งหน้ากระจก อาจให้ลูกได้นั่งตักคุณ จะได้เห็นขั้นตอนการแปรงจากคุณอย่างใกล้ชิด และถ้าหากลูกอยากจะช่วย ก็แค่ปล่อยให้ลูกได้จับแปรงในขณะที่คุณกำลังแปรงฟันอยู่ เพื่อให้เขาได้เรียนรู้ขั้นตอนที่ถูกต้องไปด้วย
• ช่วยกันตรวจทาน เมื่อแปรงเสร็จทั้งคู่ ขอให้เขาอ้าปากเพื่อคุณจะได้ช่วยดูว่าสะอาดหมดจดหรือยังมีเศษอาหารหลงเหลือในปากอีกหรือเปล่า ดูเสร็จก็ให้ลูกตรวจในช่องปากของคุณบ้าง “ให้แม่ดูหน่อยนะลูก ว่าปากและฟันของหนูสะอาดแล้วหรือยัง และลูกช่วยดูให้แม่อีกทีว่า ปากและฟันของแม่สะอาดเอี่ยมหรือยังมีเศษอาหารติดอยู่หรือเปล่า”ลองให้ลูกแปรงฟันตุ๊กตาหรือสัตว์ตัวโปรดของเขา ก็เป็นอีกวิธีประนีประนอมให้ลูกจอมไม่ วัยเตาะแตะ ยอมให้พ่อแม่หรือคนอื่นๆ ช่วยเขาแปรงฟันได้
บทความโดย: กองบรรณาธิการนิตยสารเรียลพาเรนติ้ง