ดราม่า ลูกเทพ ทุบรถ เตือนพ่อแม่ หยุดเลี้ยงลูกแบบเทพเจ้า - amarinbabyandkids
ลูกเทพ

เตือนใจพ่อแม่! เลี้ยงลูกแบบเทพเจ้า เลี้ยงด้วยรักหรือทำลายกันแน่?

event
ลูกเทพ
ลูกเทพ

คุณกำลังเลี้ยงลูกแบบ ลูกเทพ อยู่หรือไม่? เช่นเดียวกับข่าวนี้ ที่ชายหนุ่มวัย 21 ถูกตั้งฉายาว่าเป็น “ลูกเทพ ทุบรถ” ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่นไปทั่ว และคนที่เดือดร้อนที่สุดคงหนีไม่พ้นผู้เป็นแม่

เนื่องจากเมื่อต้นปี 2560 มีข่าวโด่งดังจากกรณี นายเจต (นามสมมติ) อายุ 21 ปี ฉายา “ลูกเทพ” ที่บุกเข้าไปทุบรถและเผารถประชาชน ในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ศรีสะเกษ เขต 1 ต่อเนื่องกว่า 10 คัน เพื่อประชดที่ขอเงินแม่ไม่ได้ และ นางรุ (นามสมมติ)

ซึ่งล่าสุดนายเจตและผู้เป็นแม่ ได้พร้อมใจเดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษ โดยนางรุ ผู้เป็นแม่ได้มอบเงินจำนวน 300,000 บาท (สามแสนบาทถ้วน) ให้แก่นายเจตเพื่อเป็นทุนในการศึกษาระดับปริญญาตรี นำไปซื้ออุปกรณ์ในการเรียนชกมวยสากล ซื้อกล้องในการเรียนถ่ายภาพ และใช้อื่นๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์ โดยมีเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายไพฑูรย์ คล้ายมั่ง หัวหน้าสำนักงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษ และคณะเจ้าหน้าที่ ได้เป็นคนกลางในเหตุการณ์นี้

“ลูกเทพ ทุบรถ” รับเงิน 3 แสนจากแม่เป็นก้อนสุดท้าย
พร้อมทำข้อตกลงเลิกก่อความเดือดร้อน

โดยนายไพฑูรย์ คล้ายมั่ง หัวหน้าสำนักงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า จากกรณีที่นางรุ (นามสมมติ) ซึ่งเป็นแม่ของลูกเทพ ได้เข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษว่า นายเจต (นามสมมติ) ซึ่งเป็นบุตรของตัวเอง ได้ขอเงินหลายครั้ง ครั้งละจำนวนมาก เมื่อปฏิเสธนายเจตมักข่มขู่ ใช้ความรุนแรง และก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนให้แก่ตนและผู้อื่น จากกรณีที่ก่อเหตุทุบรถยนต์ประชาชนเพื่อเป็นการประชดมารดาบ่อยครั้งตามที่เคยมีการเสนอข่าวทางสื่อมวลชน จนทำให้นางรุได้รับความเดือดร้อนเสียหาย อับอาย และหวาดระแวง ไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติสุข

โดยระยะนี้นายเจตได้ขอเงินจากนางรุจำนวน 300,000 บาท (สามแสนบาทถ้วน) ซึ่งนางรุกังวลใจว่าหากไม่ยินยอมมอบเงินให้แก่นายเจตอาจจะมีอาการเครียดและก่อเหตุรุนแรงจนอาจทำให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อนเหมือนดังเช่นในอดีตที่ผ่านมา แม้ว่านายเจต เคยให้คำมั่นสัญญากับนางรุว่าจะไม่ใช้วิธีประชดในการขอเงินด้วยวิธีรุนแรงเหมือนในอดีตที่ผ่านมาก็ตาม

นายไพฑูรย์ จึงกล่าวต่ออีกว่า ทั้งนางรุและนายเจตได้เข้าพบเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษเพื่อช่วยเป็นพยานในการมอบเงินให้แก่นายเจต โดยเงินดังกล่าวนายเจตจะนำไปใช้เป็นทุนในการศึกษาซึ่งขณะนี้ได้ศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 2 คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง นำไปซื้ออุปกรณ์ในการเรียนชกมวยสากล ซึ่งขณะนี้ได้ไปฝึกซ้อมที่สถาบันพลศึกษาศรีสะเกษ นำไปซื้อกล้องถ่ายภาพ ใช้จ่ายในการเรียนถ่ายภาพ และใช้อื่นๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์ โดยนายเจตขอสังคมให้โอกาสกลับตนเป็นคนดี ซึ่งได้ให้ทำบันทึกข้อตกลงไว้ต่อกัน ดังนี้

1. บุตรขอรับเงินจากมารดาจำนวน 300,000 บาท (สามแสนบาทถ้วน) และมารดาตกลงว่าจะมอบเงินจำนวนดังกล่าวให้แก่บุตรตามความประสงค์ ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษ โดยเงินดังกล่าวเป็นเงินก้อนสุดท้ายในชีวิตที่จะมอบให้แก่บุตร

2. บุตรได้รับเงินจากมารดาตามข้อ 1 ครบถ้วนตามความประสงค์แล้ว โดยนับจากนี้เป็นต้นไป หากบุตรยังคงรบกวนมารดาไม่ว่าโดยวิธีการใด ไม่ว่าการรบกวนนั้นจะเป็นไปเพื่อให้ได้ไปซึ่งทรัพย์สินของมารดาหรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดก็ตาม หากการรบกวนดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตตามปกติสุขหรือเป็นการละเมิดสิทธิของมารดาหรือบุคคลอื่น มารดาย่อมทรงไว้สิทธิเด็ดขาดในการดำเนินการกับบุตรทั้งโดยกระบวนการยุติธรรมทางแพ่งและทางอาญาจนถึงที่สุด

อ่านต่อ >> เตือนใจพ่อแม่! หยุดเลี้ยงลูกแบบ “เทพเจ้า” คลิกหน้า 2


ขอบคุณข้อมุลข่าวและภาพจาก : mgronline.com

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up