สังเกตไหมว่าเมื่อขึ้นขวบปีที่สอง ทุกความวุ่นวายมักมาจากคำว่า “ไม่”ของเจ้าตัวดี ตั้งแต่ไม่อยากสวมเสื้อ ไม่ออกข้างนอก ประเดี๋ยวก็ไม่ยอมกลับเข้าบ้านรู้ไหมว่าความสนุกก็อยู่ตรงที่ได้ปฏิเสธคนไม่มีเหตุผลอื่นใด แต่สำหรับ “เหตุผลของพัฒนาการ” แล้ว มันแปลว่าเขากำลังพัฒนาความเป็นปัจเจกอย่างไรละ
กลับมาเรื่องอาบน้ำ แล้วเราจะทำอย่างไรนะให้การอาบน้ำอันแสนเพลิดเพลินไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อลูกน้อยวัยกบฏ
อย่าพันธนาการ บางครั้งตัวช่วยอย่างเก้าอี้อาบน้ำหรืออุปกรณ์ที่พันธนาการให้ลูกต้องนั่งนิ่งอยู่กับที่ อาจถึงเวลาต้องเก็บใส่กล่องเมื่อลูกส่ายหน้าอย่างเดียว บรรยากาศในการอาบน้ำผ่อนคลายยิ่งขึ้น
สร้างสีสัน แทนที่จะเรียก “ได้เวลาอาบน้ำแล้วจ้า” ให้เปลี่ยนเป็น “ว้าว! มาดูเร็ว แม่ทำฟองสบู่ไว้เต็มอ่าง (กะละมัง) เลย” “มาเล่นเรือเหาะ เก็บฟองสบู่กันนะ” หรือ “นี่…เดี๋ยวแม่จะวาดฟองสบู่เป็นรูปเอลโม่บนพุงหนูนะ”
เปลี่ยนเวลา บางทีการเลื่อนเวลาให้เร็วขึ้นก็ได้ผลนะ เช่นเคยอาบหลังอาหารเปลี่ยนเป็นในช่วงเช้าก่อนอาหารกลางวันดูบ้าง ความประหลาดใจของลูกช่วยลดอาการต่อต้านได้อย่างไม่น่าเชื่อ ถึงแม้การเปลี่ยนนี้อาจหมายถึงเขาจะไม่ได้อาบน้ำในช่วงที่เลอะที่สุด แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้อาบเลยทั้งวัน
อาบด้วยกันนะ เรือดำน้ำลำเดียวก็สนุกนะ แต่จะให้เพลินกว่านั้น น่าจะมีของเล่นเล็กๆ น้อยๆ เป็นผองเพื่อนหลายชิ้นอยู่ในนั้น พ่อแม่และเพื่อนหรือญาติที่แก่กว่าก็เป็นเพื่อนอาบน้ำที่ดี แต่ถ้าหากคุณพ่อคุณแม่ไม่สะดวกใจที่จะเปลื้องผ้า(ทั้งหมด)อาบกับลูกก็ไม่เป็นไร สวมอะไรปิดไว้บ้างก็ไม่ว่ากัน
ใช้วิธีเช็ดตัว หากสิ้นหวังจริงๆ ก็อย่าใช้ไม้แข็งทีเดียว อาการกบฏนั้นฝังลึก เจ้าตัวน้อยไม่มียอมแพ้ง่ายๆ หรอก อาจเกิดสงครามระลอกใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมได้ ใช้ผ้าขนหนูนุ่มๆ ชุบน้ำบิดให้หมาดเช็ดตัวไปก่อน(ระวังเรื่องน้ำเย็นหรือร้อนเกินไป ผิวของเด็กบอบบางและไวต่อความรู้สึกมากกว่าเราฉะนั้นต้องบวกลบอุณหภูมิแทนลูกด้วย อย่าใช้ความรู้สึกของคุณตัดสินเพียงอย่างเดียว) ด.ช.สรธร ศิลาคุ้ม
บทความโดย: กองบรรณาธิการนิตยสารเรียลพาเรนติ้ง
ภาพโดย: