ตามความเชื่อโบราณนั้น เมื่อฟันน้ำนมของลูกหลุดออกมา คุณพ่อคุณแม่มักโยนฟันไปที่ใต้เตียง หรือ โยนทิ้งจาก ดาดฟ้าของบ้าน แต่ใครจะคาดคิดว่า ฟันน้ำนม นั้นมีประโยชน์มหาศาลถึงขนาดสามารถช่วยชีวิตคนได้
ประโยชน์จาก ฟันน้ำนม ของลูกน้อย
ในความจริงที่พ่อแม่ทั่วไปรู้จักเกี่ยวกับประโยชน์ของฟันน้ำนม แต่ก็มีผู้ปกครองส่วนใหญ่มักจะสงสัยว่าเพราะอะไรถึงต้องดูแลฟันน้ำนม เนื่องจากเมื่อฟันน้ำนมผุไม่นานก็จะหลุดและมีฟันแท้ขึ้นมาใหม่ไม่ควรลงทุนหรือต้องดูแลอะไรมาก แต่แท้จริงแล้วฟันน้ำนมมีความสำคัญมาก ดังนี้
- ฟันน้ำนมที่ดี ช่วยในการเคี้ยวอาหาร เพื่อให้เด็กๆได้รับสารอาหารที่เหมาะสม เพื่อการพัฒนาร่างกายให้เจริญเติบโตได้ดี ในการวิจัยพบว่าเด็กที่มีฟันผุหลายซี่ ทำให้มีการเจริญเติบโตที่ต่ำกว่ามาตรฐาน
- ฟันน้ำนมที่ดี ช่วยในเรียนรู้ในการพูด การออกเสียงที่ชัดเจนถูกต้อง
- ฟันน้ำนม ช่วยพัฒนาบุคลิกภาพที่ดี โดยธรรมชาติในหมู่เด็กจะมีการล้อเลียนกันอยู่แล้ว เมื่อมีใครที่มีฟันผุหรือฟันถูกถอนไปก่อนกำหนดทำให้เกิดการล้อเลียนกัน ทำให้ความไม่มั่นใจเกิดขึ้น
- ฟันน้ำนม ช่วยในการกันซี่ของฟันแท้ที่จะขึ้นมาใหม่ เพราะโดยธรรมชาติของฟันจะเคลื่อนมาข้างหน้าเป็นปกติ หากมีการสูญเสียฟันน้ำนมไปก่อนกำหนด ฟันแท้ที่อยู่ข้างล่างจะไม่มีพื้นที่พอที่จะขึ้นมา ทำให้เกิดปัญหาการซ้อนหรือฟันเก
- กระตุ้นการเจริญเติบโตของขากรรไกร แรงบดเคี้ยวจากฟันน้ำนมจะกระตุ้นการเจริญเติบโตของขากรรไกรให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อให้มีพื้นที่เพียงพอสำหรับฟันแท้ที่มีขนาดใหญ่กว่าฟันน้ำนม
และเมื่อฟันน้ำนมของลูกๆ เริ่มหลุด บรรดาคุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายต่างพากันดีใจ เพราะการที่ฟันน้ำนมของลูกหลุดนั้น แสดงถึงการเจริญเติบโตของลูกอีกขั้นหนึ่ง ตามความเชื่อโบราณเมื่อฟันน้ำนมของลูกหลุดออก ผู้ใหญ่จะให้บอกลูกๆ ว่าให้โยนฟันไปที่ใต้เตียง หรือ โยนทิ้งจาก ดาดฟ้าของบ้าน ทางด้านชาวตะวันตกก็มีความเชื่อเรื่องเทพพิทักษ์ฟัน ซึ่งพ่อแม่ มักจะบอกลูกๆให้เก็บฟันน้ำนมนั้นไว้ที่ใต้หมอน เพื่อรอเทพพิทักษ์ฟัน มาเอาฟันนั้นไป แล้วนำของขวัญหรือเงินมาแลกเปลี่ยนเป็นการตอบแทน
อ่านต่อ >> “ประโยชน์ของสเต็มเซลล์จากฟันน้ำนม” คลิกหน้า 2
…แต่ใครจะคิดว่า ฟันน้ำนม นั้นมีประโยชน์มหาศาลถึงขนาดสามารถช่วยชีวิตคนได้ เพราะฟันน้ำนมของเด็กอายุ 6-8 ขวบ โดยเฉลี่ยฟันน้ำนมจะหลุดประมาณ 20ซี่ และในฟันน้ำนมนั้นจะอุดมไปด้วยสเต็มเซลล์ Stem cell หรือเซลล์ต้นกำเนิด ซึ่งสามารถช่วยในเรื่องของระบบประสาท กระดูก ให้กับผู้ป่วยโรคหัวใจอีกด้วย มีพ่อแม่จำนวนไม่น้อยที่พยายามเก็บรักษาเลือดจากสายสะดือทารกไว้ แต่หลายคนพลาดโอกาสนี้ไป ซึ่งฟันน้ำนมของลูกนั้นกลับให้ผลลัพธ์ที่ไม่ต่างจากเลือดของสายสะดือ
สเต็มเซลล์ (Stem cell) คือ เซลล์ต้นกำเนิด ซึ่งเป็นเซลล์ตั้งต้นของเซลล์ทุกชนิดในร่างกายของเรา สามารถแบ่งตัวเพิ่มจำนวนได้เองพัฒนาจนกลายเป็นเนื้อเยื่อหรืออวัยวะได้ โดยสเต็มเซลล์มีอยู่สองแบบคือ เซลล์ต้นกำเนิดในตัวอ่อน (Embryonic stem cell) กับแบบที่อยู่ในเซลล์ของสิ่งมีชีวิตที่โตเต็มวัยแล้ว (Adult stem cell)แพทย์พบว่า สเต็มเซลล์ที่อยู่ในเนื้อเยื่อของโพรงประสาทฟันสามารถเพาะเลี้ยงและเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็วเมื่ออยู่ในสภาวะที่เหมาะสม มีศักยภาพพัฒนาเป็นเนื้อเยื่อและอวัยวะได้มากกว่า 200 ชนิด
ชนิดของเซลล์ต้นกำเนิดจากฟัน
- Adipocytes ใช้ประโยชน์สำหรับซ่อมแซมการถูกทำลายของกล้ามเนื้อหัวใจ ซึ่งเป็นสาเหตุจาก โรคหัวใจวาย อย่างรุนแรง
- Chondrocytes and Osteoblasts ใช้ประโยชน์ในการเจริญเป็นกระดูก และกระดูกอ่อน ที่มีความเหมาะสมสำหรับการปลูกถ่าย และมีการทดลองใช้เพื่อปลูกฟันในสัตว์ทดลอง
- Mesenchymal Stem Cells ใช้ประโยชน์ในการซ่อมแซมการบาดเจ็บของไขสันหลัง ใช้ในการฟื้นฟูความรู้สึกและการเคลื่อนไหวของผู้ป่วยที่เป็นอัมพาต และยังพบว่า Mesenchymal Stem Cells มีศักยภาพในการรักษา (Therapeutic Potential) มากกว่า Adult Stem Cells ชนิดอื่นๆ
ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถเก็บสเต็มเซลล์จากฟันน้ำนมหกซี่หน้าบนและล่างและฟันกรามซี่สุดท้ายหรือฟันคุดแต่จำเป็นต้องเก็บรักษาอย่างถูกวิธี
โดยเก็บรักษาฟันน้ำนมภายใน 48 ชั่วโมง ทันทีหลังจากที่ฟันน้ำนมหลุดออก เพราะถ้าไม่อย่างนั้นจะทำให้ สเต็มเซลล์ตาย ซึ่งในอนาคตอาจมีการใช้สเต็มเซลล์ จากฟันน้ำนมมาช่วยในการรักษา ซึ่งจะทำให้เด็กๆไม่ต้องเจอ กับความเจ็บปวดทรมานจากการ รักษาเหล่านี้อีกต่อไป
อ่านต่อ >> “ข้อดีของการเก็บสเต็มเซลล์จากฟันน้ำนม” คลิกหน้า 3
การจัดเก็บสเต็มเซลล์จากฟันดีอย่างไร?
ข้อมูลจากธนาคารจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิดฟัน อธิบายถึงข้อดีของการจัดเก็บสเต็มเซลล์จากฟัน ดังนี้
- การเก็บสเต็มเซลล์จากฟันสามารถเก็บได้หลายครั้ง โดยที่ฟันน้ำนม สามารถเก็บได้ถึง 12 ซี่ ซึ่งจะหลุดในช่วงอายุ 5 – 12 ปี และการเก็บจากฟันกรามแท้ซี่สุดท้ายหรือฟันคุด สามารถเก็บได้ 4 ซี่ ซึ่งสามารถทำได้ตั้งแต่อายุ 17 ปีขึ้นไป
- กระบวนการเก็บไม่ยุ่งยาก สามารถให้ทันตแพทย์เก็บฟันให้ หรือเก็บได้เองกรณีเป็นฟันน้ำนมที่หลุดร่วงตามธรรมชาติ
- นิตยสารหมอชาวบ้านแนะวิธีการถนอมฟันที่เพิ่งหลุดจากเหงือกไว้ว่า ให้แช่ฟันในนมสด ถ้าเป็นนมยูเอชทีก็แช่ฟันลงไปในกล่องนมเลย แล้วผนึกให้ดี ถ้าเป็นไปได้ นำกล่องนมนั้นแช่ในถุงหรือกระติกบรรจุน้ำแข็งอีกที
- ในกรณีที่ต้องการเพาะสเต็มเซลล์จากฟันน้ำนมให้รีบส่งไปห้องแล็บทันที
- สเต็มเซลล์จากฟัน มีความสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์ชนิดอื่นๆ ได้ดีกว่า สเต็มเซลล์ที่ได้จากแหล่งอื่นๆ ของร่างกาย
- การใช้สเต็มเซลล์ของตนเองในการปลูกถ่าย เป็นการรักษาโรคด้วยวิธี Stem cell therapy ที่มีความปลอดภัยสูงมาก
- ฟันซี่เดียวใช้กันได้ทั้งครอบครัว สเต็มเซลล์จากฟันอาจสามารถใช้ในการรักษาโรคในญาติสายตรง เช่น พี่น้อง บิดามารดา ปู่ย่าตายาย เป็นต้น
- ไม่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคต่างๆ จากผู้อื่น เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้สเต็มเซลล์จากผู้อื่น หรือการใช้สเต็มเซลล์จากสัตว์
เมื่อรู้ประโยชน์ของฟันน้ำนมอย่างนี้แล้ว คราวหน้าหากฟันน้ำนมของลูกน้อยหลุดออก ก่อนจะทิ้งลงถังขยะ คุณพ่อคุณแม่สามารถพิจารณาถึงความจำเป็นในอนาคต เพราะไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่แน่แค่ฟันน้ำนมของลูกอาจจะช่วยชีวิตลูกไว้ก็ได้
ซึ่งในปัจจุบันมีสถานบริการรับเก็บสเต็มเซลล์จากฟันน้ำนมได้ เช่น บริษัท ไบโอ เอ็มเอสซี จำกัด, stemade banking smiles, สีลมเด็นตัลบิลดิ้ง (SILOM DENTAL BUILDING) เป็นต้น
อ่านต่อบทความน่าสนใจ
คลิกอ่าน >> วิธีการรักษาโรคด้วย “สเต็มเซลล์”
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.manager.co.th , info.gotomanager.com , www.liekr.com ,