จบปัญหา ลูกไม่ฟังพ่อแม่ ด้วย 5 วิธีสุดง่าย … คราวนี้แหละไม่ต้องพูดซ้ำ ๆ ให้ต้องเหนื่อย!
เหนื่อยกันไหมคะ กับการที่ต้องคอยจ้ำจี้จ้ำไช แค่จะให้ลูกทำอะไรแต่ละที ต้องพูดไปหลาย ๆ รอบ แถมพูดอะไรก็ไม่ค่อยจะยอมฟัง พฤติกรรมที่ไม่น่ารักของลูกนี้ จะแก้ไข ลูกไม่ฟังพ่อแม่ ได้อย่างไรนั้น วันนี้ทีมงาน Amarin Baby and Kids ได้เตรียมข้อมูลดี ๆ มาไว้ให้สำหรับคุณพ่อคุณแม่ทุกท่านแล้วละค่ะ
ทราบไหมคะว่า หนึ่งในเหตุผลที่อาจทำให้เจ้าตัวเล็กไม่ยอมฟังสิ่งที่พ่อแม่พูด หรือต่อต้าน อาจเป็นเพราะคุณพ่อคุณแม่พูดมากหรือพูดวกวน ยืดยาว จนลูกไม่มีโอกาสได้พูด อธิบายหรือเสนอความเห็นใด ๆ และนั่นเองถือเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ลูกไม่ยอมรับฟัง และแสดงออกเป็นการต่อต้านแทน
นอกเหนือจากสาเหตุที่ ลูกไม่ฟังพ่อแม่ เพราะต้องการต่อต้านเพื่อเอาคืนแล้ว ยังมีอีกหลากหลายสาเหตุนะคะที่ทำให้ลูกมักไม่ค่อยได้ยินในสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่พูด ยกตัวอย่างเช่น
- อยากลองของ – เมื่อถึงวัยหนึ่งของลูก ๆ จะมีพฤติกรรมบางอย่างที่เราเรียกกันว่า ช่วงลองของ ลูกเลือกที่จะไม่ทำในสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่อยากให้พวกเขาทำ เพราะพวกเขาต้องการที่จะรู้ว่า ถ้าเขาไม่ทำ พวกเขาจะเจออะไร พ่อแม่จะตีเขาไหม แล้วจะมีวิธีการแก้ปัญหานี้อย่างไร
- อยากเอาชนะ – ลูกอยากเป็นผู้นำ อยากที่จะเป็นใหญ่ในการตัดสินใจทำบางสิ่งบางอย่างด้วยตัวเองบ้าง ดังนั้น จึงมีความคิดบางอย่างเกิดขึ้นว่า พวกเขาจะไม่ทำ พ่อแม่ต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายทำ ซึ่งความคิดนี้มักควบคู่มากับการกระทำค่ะ ยกตัวอย่างเช่น สายตา ลูกอาจจะชอบทำตาโต ตาดุ หรือบางทีทำตาค้อนใส่ เป็นต้น
- ลูกไม่ได้ยิน – บางทีเวลาที่เราพูดอะไรไปแล้วลูกไม่ปฏิบัติตาม อาจเป็นเพราะลูกของคุณพ่อคุณแม่อาจจะไม่ได้ยิน หรือเข้าใจในสื่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องการ จึงเลือกที่จะนิ่งเฉย ไม่ถาม มากกว่าเลือกที่จะปฏิบัติตามความต้องการของคุณพ่อคุณแม่
- สนใจสิ่งอื่นมากกว่า – บ่อยครั้งที่จะพบว่า เวลาที่ลูกกำลังทำบางสิ่งบางอย่างอยู่ แล้วพอคุณพ่อคุณแม่บอกให้ทำอะไร ลูกจะนิ่ง พอตะโกนเรียกดัง ๆ อีกสักครั้งถึงสองครั้ง หรือไปสะกิดตัวลูก ๆ ก็จะมีท่าทีตกใจสะดุ้ง … นั่นละค่ะ คือการแสดงออกให้คุณพ่อคุณแม่ได้เห็นว่า ลูกของเรานั้นกำลังใจจดใจจ่อกับสิ่งหรือกิจกรรมที่อยู่ตรงหน้ามากกว่าคุณพ่อคุณแม่ เป็นต้น
- ลูกมีปัญหาด้านการรับฟัง – ลูกอาจจะไม่ได้ยินคำสั่งของคุณพ่อคุณแม่เพราะพวกเขาอาจจะกำลังประสบกับปัญหาเกี่ยวกับเรื่องหูอยู่ก็เป็นได้นะคะ ทางออกที่ดีที่สุดคือ การเฝ้าสังเกตพฤติกรรมของลูกให้ดีค่ะ หากลูกยังไม่มีอะไรดีขึ้นละก็ แนะนำให้พาไปพบแพทย์จะดีที่สุดนะคะ จะได้เช็คกันไปเลยค่ะว่า ที่ลูกไม่ได้ยินนั้นเป็นเพราะกำลังมีปัญหาเกี่ยวกับหูอยู่หรือไม่
ลูกไม่ฟังพ่อแม่ แก้ไขได้ด้วย 5 วิธีนี้!
-
- เป็นผู้รับฟังบ้าง – หากคุณพ่อคุณแม่อยากให้ลูกเชื่อฟังในสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่สอนละก็แนะนำให้สวมบทบาทเป็นผู้ฟังที่ดีบ้าง คอยรับฟังในสิ่งที่ลูกพยายามบอก หรือเล่าให้ฟัง บ้างเพื่อจะได้เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูก ลูกก็จะได้รับรู้ว่า ใครพูดอะไรก็ต้องรับฟังบ้าง ไม่ใช่จะเอาแต่คอยเถียง หรือดื้อรั้น
- ปรับเปลี่ยนวิธีการพูด – พยายามหลีกเลี่ยงการใช้น้ำเสียงที่ดุดันค่ะ เพราะการดุดัน ไม่ได้ทำให้ลูกสามารถช่วยเหลือตัวเอง หรือทำให้ลูกเชื่อฟังได้เลย อีกทั้งยังยิ่งส่งผลทำให้ลูกเบื่อหน่าย และไม่อยากที่จะตามใจคุณพ่อคุณแม่ ดังนั้น เรามาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้วยการพูดกับลูกด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนมากกว่าการดุดันกันเถอะนะคะ หรือจะลองหาตัวช่วยก็ได้นะคะ ยกตัวอย่างเช่น ตุ๊กตา คุณพ่อคุณแม่อาจจะอาศัยตุ๊กตา หรือหุ่นยนต์ตัวโปรดของลูกเป็นหุ่นเชิด แล้วคอยพูดผ่าน เป็นต้น
-
- ส่งสัญญาณบอก – อย่าสั่งให้ลูกทำอะไร ในขณะที่คุณพ่อคุณแม่ยังอยู่อีกฟากหนึ่งของห้องหรือขณะที่หันหลังให้ลูก เมื่อต้องการบอกให้ลูกได้ทำบางสิ่งบางอย่างนั้น อยากให้คุณพ่อคุณแม่ควรควรเดินเข้าไปใกล้ตัวลูก มองตา แล้วพูดช้า ๆ ด้วยเสียงนุ่มนวล จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งค่ะ หากก้มตัวให้อยู่ในระดับเดียวกับลูกได้
- ใช้วิธีอื่น – ถ้าการพูดไม่ทำให้เขาสนใจลองหาวิธีอื่นที่จะเรียกความสนใจลูกดูนะคะ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าลูกไม่ยอมฟังเมื่อคุณเตือนหลายครั้งแล้วว่าอย่ายุ่งกับตู้เก็บเอกสารนั้น คุณอาจพาเขาไปห้องอื่น หรือให้ทำกิจกรรมอื่นเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ หรือหากลูกไม่ยอมตอบรับเมื่อคุณเรียกไปกินข้าว คุณก็สามารถเข้าไปแยกเขาออกมาจากสิ่งที่กำลังเล่นอยู่ อุ้มไปนั่งที่โต๊ะได้เลย แต่ควรระวังว่าอย่าลากตัวลูกออกมานอกจากจำเป็นจริง ๆ เท่านั้น พยายามพูดกับเขาด้วยท่าทีที่จริงจัง เช่น “แม่รู้ว่าลูกยังอยากเล่น แต่ไปกินข้าวก่อนนะ ให้คุณไดโนเสาร์รอแป๊บหนึ่ง หรือลูกจะเอามันมาไว้ที่โต๊ะอาหารก็ได้จ้ะ” เป็นต้น
- กล่าวชื่นชม – ถ้าลูกรับฟัง (จริง ๆ ไม่ใช่เพียงแค่ได้ยิน) หรือทำในสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่บอกได้ละก็ อย่าเพิกเฉยค่ะ ให้คุณพ่อคุณแม่กล่าวคำชมเชยลูกบ้าง เช่น “เก่งมากๆ เลยจ้ะที่หนูลุกขึ้นทันทีตอนที่แม่เรียกกินข้าว” ลูกจะได้รู้สึกมีกำลังใจอยากที่จะทำในสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่บอกให้ทำอีก
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ จะเห็นได้ว่าแต่ละวิธีนั้นง่ายนิดเดียว ไม่ยากเกินกว่าที่คุณพ่อคุณแม่อย่างเราจะทำ ลองนำวิธีเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้กันดูนะคะ
บทความโดย: กองบรรณาธิการ Amarin Baby & Kids
อ่านต่อบทความอื่นที่น่าสนใจ:
- ปลูกฝังและ สอนลูกทำทาน เพื่ออนาคตที่ดีในวันข้างหน้า
- แม่ สอนลูกให้รู้จักเอาตัวรอด ให้ได้ก่อนสายเกินไป
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่