เมื่ออยู่ในบ้านหากคุณพ่อคุณแม่ได้มีโอกาสหันมองสิ่งของรอบๆ ตัว ไม่ว่าจะเป็นของใช้ภายในบ้าน ของเล่นลูก ของกระจุกกระจิกของคุณแม่ เครื่องไม้เครื่องมือช่างแสนรักของคุณพ่อ หรือแม้กระทั่งหมอนใบนุ่มนิ่ม เราอาจไม่เคยนึกฝันก็ได้ว่า ในวันหนึ่งสิ่งของคุ้นเคยเหล่านี้จะสามารถทำให้ลูกเป็นอันตราย หรือ ลูกน้อยเสี่ยงเสียชีวิต ได้
ซึ่งส่วนหนึ่งเพราะเด็กก็คือเด็ก บางครั้งอุบัติเหตุร้ายแรงเกิดขึ้นเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องดูแล และเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด ไม่ควรละเลยสิ่งของใกล้ตัวของลูก เพราะไม่เช่นนั้นอาจนำมาซึ่งเหตุสะเทือนใจก็เป็นได้
Amarin Baby & Kids ได้รวบรวม สิ่งของอันตรายต่อเด็ก ที่เคยทำให้ลูกน้อยเสี่ยงตายมาเป็นอุทาหรณ์ฝากคุณพ่อคุณแม่กัน เพื่อจะได้รู้เท่าทัน และป้องกันไม่ให้ลูกน้อยที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของคุณ ต้องพบกับนาทีฉุกเฉิน และนำมาซึ่งความเสี่ยงต่อชีวิตได้
1. ของเล่น และสิ่งของชิ้นเล็กๆ
ในการเลือกซื้อของเล่นให้ลูก คุณพ่อคุณแม่ต้องเลือกเหมาะสมกับวัยของลูกด้วย สำหรับเด็กที่อยู่ในวัยกำลังกัด กำลังชอบหยิบอะไรเข้าปาก ไม่ควรให้ของเล่นชิ้นเล็กกับลูก เพราะจะทำให้ลูกน้อยเผลอเอาของเล่นเข้าปากและติดคอได้ หรือของเล่นบางอย่างที่ไม่มีคุณภาพ (ดูได้จากมาตรฐานการรับรองที่ติดอยู่กับของเล่น) คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ควรซื้อให้ลูกเล่นเช่นกัน เพราะอาจปนเปื้อนสารเคมี ส่งผลต่อร่างกายของลูกน้อยได้
(อ่านต่อ ถ่านกระดุมติดคอลูกน้อย เสี่ยงหลอดอาหารทะลุ)
2. อุปกรณ์ซ่อมแซม
ถ้าครอบครัวไหนทำอาชีพเย็บผ้า หรือชอบร้อยเครื่องประดับ อย่างเช่น กระดุม และลูกปัดเล็กๆ หลังทำเสร็จ ควรเก็บให้เรียบร้อย อย่าให้หลงเหลืออยู่ตามพื้นเด็ดขาด และควรเก็บให้พ้นมือเด็ก เพราะไม่เช่นนั้นเด็กอาจหยิบขึ้นมาอมเล่น และเผลอกลืนลงคอไปได้ นอกจากนี้ยังรวมไปถึงอุปกรณ์ซ่อมแซมของคุณพ่อ อย่าง ตะปู น็อต ควรเก็บใส่กล่องปิดฝาให้มิดชิดเช่นกัน
3. เหรียญทุกชนิด
เคยมีกรณีเด็กเล็ก หรือแม้กระทั่งเด็กโต และผู้ใหญ่ อมเหรียญเล่น แล้วกลืนลงคอมาแล้วหลายราย อาจเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือซุกซนจนไม่ทันได้ระวัง เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่พ่อแม่ควรดูแลและเตือนอย่าให้ลูกอมเหรียญเล่นกันเด็ดขาด เพราะหากมีเหตุคับขันอาจจะตกใจ เผลอกลืนลงคอเข้าไปและจะเป็นอันตรายได้ และหากถึงมือหมอไม่ทันอาจมีอันตรายถึงแก่ชีวิต
ที่สำคัญคุณพ่อคุณแม่ต้องสังเกตอาการของลูกด้วยว่า มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปหรือเปล่า เช่น เอามือจับที่คอ หรือไอผิดปกติ หรือบ้วนน้ำลายอยู่บ่อยครั้งจนผิดวิสัย เมื่อเกิดอะไรขึ้นจะได้ช่วยเหลือ และนำส่งโรงพยาบาลได้ทันท่วงที
4. ของมีคมทุกชนิด
ของมีคมทุกชนิด ถือเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องระวังมากที่สุด โดยเฉพาะมีดปลายแหลม บางครอบครัวปอกผลไม้เสร็จแล้วลืมเก็บ หรือวางไว้ในที่ที่เด็กหยิบได้ เด็กเห็นจึงหยิบขึ้นเล่น หรือถ้าเด็กโตหน่อยอาจหยิบขึ้นมาเล่นไล่แทงกันโดยหารู้ไม่ว่าอาจเกิดการหกล้มกันได้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเลียนแบบจากหนัง หรือในละคร ดังนั้นต้องเก็บให้พ้นมือเด็ก อย่าให้เด็กเห็นว่าเก็บอยู่ที่ไหนจะดีที่สุด เพราะเมื่อพลาดพลั้งไปแล้ว ความสูญเสียที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น อาจตามมาได้
5. ขวดของเหลวมีพิษ-ยามีฤทธิ์อันตราย
บ้านไหนที่มีลูกน้อยวัย 1-3 ขวบ สำหรับเด็กเล็กนี้จะอยู่ในช่วงวัยอยากรู้อยากเห็น เมื่อเห็นอะไรเป็นต้องหยิบเข้าปากไปหมด ขวดสารเคมีหลายชนิดที่มีฤทธิ์รุนแรง แถมมีรูปร่างเหมือนกับขวดน้ำดื่ม อาจทำให้เด็กเข้าใจผิดได้
และอาจไม่เฉพาะแต่เพียงเด็กเล็กเท่านั้น เด็กโตก็สามารถเกิดขึ้นได้เช่นกัน ถ้าใครในบ้านมีการเปลี่ยนถ่ายสารเคมีจากภาชนะจริงสู่ภาชนะที่ใช้ดื่มกิน แล้วไม่บอกให้คนในบ้านทราบ ก็อาจทำให้เด็กอาจหยิบขึ้นมากินโดยไม่รู้ตัวได้เช่นกัน ดังนั้นต้องติดป้ายบอกให้ชัดเจน เก็บไว้ในที่มิดชิด และต้องห่างจากมือเด็ก
6. เปลไกวนอน
ใครที่มีลูกเล็กต้องอ่านไว้เป็นอุทาหรณ์เลยนะคะ เพราะเปลไกวของลูกน้อยนี่แหละ อาจทำให้เด็กเสี่ยงตายได้ เพราะเมื่อคุณแม่ไกวเปลจนลูกหลับแล้วก็ลุกไปทำงานบ้านตามปกติ โดยละสายตา ปล่อยให้ลูกนอนคนเดียว พอลูกตื่นขึ้นมา ไม่เจอใคร จึงปีนออกจากเปล หวังจะออกมาหาแม่ แต่อาจพลัดตกลงมาหน้าขมำ หัวแตก และปากแตกได้ หรือถ้าลงผิดท่า อาจทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ด้วย ดังนั้น เปลไกวควรเลือกแบบที่สามารถล็อกไม่ให้ไกวได้ เพื่อในเวลากลางคืน ลูกของคุณจะได้ไม่กลิ้งไปอยู่ด้านหนึ่ง แล้วติดอยู่ตรงนั้น และควรให้ขอบเปลสูงพอที่จะทำให้เด็กไม่สามารถปีนออกมาได้
(อ่านต่อ ผลิตภัณฑ์อันตราย สำหรับเด็กที่พ่อแม่ต้องระวัง)