พ่อแม่จะ สอนลูกให้เก่ง กว่าตนเองได้อย่างไร ลองดูข้อคิดยุคใหม่ที่ควรสอนลูก เพื่อให้ลูกสามารถโตขึ้นไปใช้ชีวิตอยู่ในยุคสมัยนั้นได้อย่างรอดปลอดภัย และประสบความสำเร็จตามที่พ่อแม่ตั้งใจ
เพราะโลกมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว อีกทั้งวิชาการและเทคโนโลยีต่างๆ ที่มนุษย์สร้างขึ้นทันสมัยและทุกคนต่างรีบเร่งทำชีวิตให้ไปถึงจุดหมายตามที่คาดหวัง มีการแข่งขัน แก่งแย่งชิงดี เพื่อการเป็นที่หนึ่ง การเอาชีวิตรอดทำให้ทุกคนไม่มีเวลาให้กันมากนัก
สอนลูกให้เก่ง กว่าพ่อแม่ ด้วยข้อคิดยุคใหม่
เมื่อทุกคนต่างอยู่กับตัวเองมากขึ้น ทำให้การพึ่งพาและดูแลกันน้อยลง ครอบครัวไทยในสมัยนี้เป็นครอบครัวที่อยู่กันแบบกระจัดกระจาย พ่อ แม่ ลูก ต่างหากินหาใช้กันเอง ลูกต้องวางอนาคตของตัวเองโดยไม่ต้องการคำชี้แนะจากครอบครัวอีกต่อไป บางครั้งเด็กๆจึงเลือกเดินทางผิดไปเพราะไม่มีใครชี้ทางให้
อย่างไรก็ตาม คุณพ่อคุณแม่ควรตระหนักได้ว่า หน้าที่ๆสำคัญนอกจากการเลี้ยงดูลูกแล้ว ก็คือการสร้างพื้นฐานเพื่อนำไปสู่อนาคตที่สดใสมั่นคง Amarin Baby & Kids จึงขอแนะนำข้อคิด วิธีที่คุณพ่อคุณแม่ควรฝึกสอนลูกให้พร้อมสำหรับการเผชิญชีวิตในอนาคตได้อย่างดี ดังนี้
12 ข้อคิด สอนลูกให้เก่ง กว่าพ่อแม่
1. ‘สอนให้รับผิด’ คนที่จะเรียนรู้จากประสบการณ์ก็คือคนที่รู้ว่าตัวเองผิดแล้วคิดแก้ไข คนที่ไม่ยอมรับผิด คือ คนไร้ความรับผิดชอบในชีวิต และไม่เคยคิดแก้ไข
2. ‘สอนให้สร้างงาน’ คนส่วนใหญ่ส่งลูกเรียนเพื่อให้เขาโตขึ้นมาจะได้หางานทำได้ แต่ถ้าอยากให้ลูกมีชีวิตดีในโลกยุคใหม่ต้องให้เขาสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ขึ้นมาเอง อย่าสอนแค่หางาน สอนให้รู้วิธีสร้างงาน
3. ‘ฝึกให้ทำงานตั้งแต่ยังเด็ก’ คนที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงส่วนใหญ่ต้องเริ่มทำงานตั้งแต่อายุยังน้อย ไม่ใช่เพราะเขาแค่เก่งงาน แต่เพราะคนที่ทำงานตั้งแต่เด็ก จะรู้ค่าของเงินก่อนใครๆ
4. ‘สอนให้ลงทุนตั้งแต่อายุน้อย’ ถ้ายุคก่อนพ่อแม่มักสอนลูกออมเงิน ในยุคนี้ผมแนะนำให้พ่อแม่สอนลูกออมหุ้นตั้งแต่อยู่ประถม เพราะเมื่อเขาจบปริญญา เขาจะรวยกว่าเด็กที่ออมเงินปกติอย่างน้อย 10 เท่า
5. ‘ให้ลูกจัดการเงินของตัวเอง’ คนที่ชีวิตสบายคือคนที่รู้จักจัดการเงินของตัวเอง ไม่ควรมีเงินที่ได้มาโดยที่เขาไม่ต้องทำอะไร เหมือนจะโหด แต่ชีวิตจริงเราก็เป็นเช่นนั้นมิใช่หรือ
อ่านต่อ >> “12 ข้อคิด สอนลูกให้เก่ง กว่าพ่อแม่” คลิกหน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
6. ‘ชมลูกให้เป็น’ อย่าเอาแต่เปรียบเทียบลูกเรากับลูกคนอื่น มันไม่มีอะไรดี นอกจากฝากปมชีวิต ลดการบ่น ลดการล้อ ลดการขู่ แต่ให้สอนด้วยเหตุและผล
7. ‘ลงโทษเมื่อทำผิด’ ถ้าพ่อแม่ไม่เคยลงโทษเมื่อลูกทำผิด สุดท้ายสังคมจะลงโทษเขาอย่างสาสม รักลูกต้องสอนเรื่องผิดถูก อย่าเอาแต่ให้ท้าย
8.’สอนให้ลูกรักตัวเองเป็น’ ปัญหาหลักของเด็กยุคนี้คือ ไม่รักและมองไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง เพราะโลกยุคนี้เราใช้วัตถุและเงินในการตีค่าของคน รักตัวเองคือ การรู้จักตัวเอง และรู้จักเลือกสิ่งที่เราเองต้องการจริงๆ ไม่ใช้ชีวิตเพียงเพื่อให้คนอื่นมองว่าเราดี
9. ‘สอนการให้’ โลกยุคนี้โอกาสอยู่ที่ผู้ให้ ต้องสอนเรื่องการทำอะไรเพื่อคนอื่นแบบไม่ได้สิ่งตอบแทนด้วย ให้เขาลองทำกิจกรรมอาสา พัฒนา ฝึกช่วยเหลือคนอื่น และ การบริจาค
10. ‘สอนให้มองไกล’ เรื่องมองไกลเป็นเรื่องต้องฝึกต้องเรียนรู้ เพราะโลกทุกวันนี้สอนให้มองสั้นทั้งหมด คนที่สำเร็จกว่าคนอื่นในโลกยุคต่อไปคือคนที่ฝึกการมองการไกล
11. ‘การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญ’ เห็นความสำคัญของการเรียน มีความใฝ่รู้ในสิ่งที่ทำ ขวนขวายหาความรู้เพิ่มเติม จัดตารางเวลาสำหรับการเรียนให้ลูกอย่างเหมาะสม ไม่มากไม่น้อยเกินไป ยกตัวอย่างคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ส่วนใหญ่มีเบื้องหลังจากการเรียน มีการศึกษาที่ดี
12. ‘สอนลูกให้เลือกทำในสิ่งที่ก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดี’ ฉลาดเลือกเป็นสิ่งจำเป็น เพราะชีวิตจะดีหรือไม่ดีอยู่ที่การเลือกของเราทั้งนั้น ลองปล่อยให้ลูกได้เลือกทำในสิ่งที่เขาต้องการ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะดีหรือไม่ดี แล้วให้เวลาดูผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากสิ่งที่เขาเลือก เมื่อผลลัพธ์นั้นแย่สำหรับตัวเขา เขาจะรู้เองว่าเขาจะต้องไม่เลือกแบบนี้อีก เขาจะได้เรียนรู้จากบทเรียนที่ผิดพลาดนั้นและไม่ทำอีก และจะได้รู้ว่าทางที่ดีที่ควรเลือกทำแล้วจะทำให้ชีวิตดีนั้นคือทางใด
คำสอนที่เราสอนลูกทุกอย่างนี้ จะทำให้ลูกสามารถมีชีวิตอยู่ได้ในโลกที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงได้อย่างมั่นคงและมีความสุข เราไม่สามารถอยู่กับลูกได้ตลอดชีวิตของเขา แต่คำสอนที่ดีและการใช้เวลาร่วมกันอย่างคุ้มค่าในทุกๆวินาที จะทำให้ลูกซึมซับถึงความรักและความอบอุ่นเอาไว้เพื่อจะช่วยให้ลูกมีกำลังใจที่จะสู้และดำเนินชีวิตของเขาต่อไปในอนาคตได้อย่างดีแน่นอน
ขอบคุณบทความจาก : #ภาววิทย์กลิ่นประทุม www.pawawit.com
คนสมบูรณ์แบบประกอบด้วยคุณธรรม 7 ประการ
ทั้งนี้หากอยากให้ลูก เติบโตไปมีชีวิตที่ดี หรือใช้ชีวิตที่เก่ง เอาตัวรอดในสังคมได้ การมีทักษะชีวิตที่ดี อันเป็นความสามารถ ที่ประกอบด้วยความรู้ เจตคติ และทักษะในการที่จะจัดการกับความกดดัน ความบีบคั้น ปัญหารอบตัวในสภาพสังคมปัจจุบัน และเตรียมพร้อมสำหรับการปรับตัวในอนาคต เป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ต้องสอนฝึกสอนดังที่กล่าวมาข้างต้น
ซึ่งการจะใช้ทักษะชีวิตเป็น เป็นการดำเนินชีวิตประจำวัน เพื่อให้เกิดเป็นปัจจัยเกื้อหนุนสามารถก้าวไปสู่จุดหมายแห่งความเป็นชีวิตที่ดี ผู้ใหญ่รอบตัวจึงควรสอนให้เด็กรู้จักตนเอง เรียนรู้ที่จะปรับตัว อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข รู้จักหลีกเลี่ยงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ที่ส่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อื่น สามารถจัดการกับความกดดัน ความบีบคั้น ปัญหารอบตัว และเตรียมพร้อมสำหรับปรับตัวในอนาคต จึงจะเรียกได้ว่า เป็นคนสมบูรณ์แบบ มีคุณค่าอย่างแท้จริงของสังคม สามารถนำสังคมไปสู่สันติสุข
อ่านต่อ >> “คุณธรรม 7 ประการ เพื่อให้ลูกเป็นคนสมบูรณ์” คลิกหน้า 3
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
คุณธรรม 7 ประการที่เรียกว่า สัปปุริสธรรม 7 ดังนี้
รู้หลักและรู้จักเหตุ คือ รู้หลักการและกฎเกณฑ์ของสิ่งทั้งหลาย มีการดำเนินชีวิต ปฏิบัติกิจหน้าที่ต่างๆ อย่างรู้เข้าใจสิ่งที่จะต้องประพฤติปฏิบัติตามเหตุผล รู้ว่าตนมีหน้าที่ความรับผิดชอบอย่างไร จะต้องทำอะไร อย่างไรจึงจะบรรลุผลสำเร็จนั้น
รู้ความมุ่งหมายและรู้จักผล คือ รู้ความหมายและความมุ่งหมายของหลักการที่ต้องปฏิบัติ รู้ว่าดำเนินชีวิตอย่างนั้น เพื่อวัตถุประสงค์อะไร ทำแล้วจะเกิดผลดีหรือผลเสียอย่างไร
รู้ตน คือ รู้ตามความเป็นจริงว่า ตัวเรามีกำลัง ความรู้ ความถนัด ความสามารถ และมีคุณธรรมอย่างไร เท่าไร แล้วประพฤติปฏิบัติให้เหมาะสม ตลอดจนแก้ไขปรับปรุงตนให้เจริญงอกงามถึงความสมบูรณ์ยิ่งขึ้นไป
รู้ประมาณ คือ รู้จักพอดี ในการบริโภค การใช้จ่าย การพูดจา การปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ ตลอดจนการพักผ่อนนอนหลับและความสนุกสนานรื่นเริงทั้งหลาย
รู้กาล คือ รู้เวลาอันเหมาะสม และระยะเวลาที่พึงใช้ในการประกอบกิจ ทำหน้าที่การงาน ปฏิบัติการต่างๆ และเกี่ยวข้องกับผู้อื่น รู้ว่าเวลาไหน ควรทำอะไร อย่างไร และทำให้ตรงเวลา ให้เป็นเวลา ให้ทันเวลา ให้พอเวลา ให้เหมาะเวลา ให้ถูกเวลา รู้จักกะเวลาและวางแผนการใช้เวลาอย่างได้ผล
รู้ชุมชน คือ รู้จักถิ่น รู้การอันควรประพฤติปฏิบัติต่อชุมชนนั้น รู้ว่าควรปฏิบัติ พูด ทำ เกี่ยวข้อง รักษาระเบียบวินัย เมื่อเข้าไปอยู่ในชุมชนนั้น
รู้บุคคล คือ รู้จักและเข้าใจความแตกต่างแห่งบุคคลว่า ทั้งนิสัย ความสามารถ และคุณธรรม เป็นต้น และรู้จักที่จะปฏิบัติต่อบุคคลอื่นๆ ด้วยดีว่า ควรจะคบหา จะสัมพันธ์เกี่ยวข้องอย่างไร จึงจะได้ผลดี
ในทางกลับกัน เด็กที่ไม่มีทักษะในการใช้ชีวิต หรือใช้ทักษะชีวิตไม่เป็น จะเป็นเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่มีความภูมิใจ ไม่เห็นคุณค่าในตนเอง อาจนำไปสู่การมีบุคลิกภาพที่อ่อนแอ ต้องการพึ่งพาผู้อื่น ขาดความกระตือรือร้น ไม่กล้าคิด ไม่กล้าตัดสินใจ เกิดปัญหาในการปรับตัว มนุษยสัมพันธ์ไม่ดี และจะชดเชยปมด้อย โดยการใช้ความก้าวร้าวรุนแรง โทษผู้อื่น ต้องการเป็นผู้ชนะ เรียกร้องความสนใจ เพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับตัวเองในทางที่ไม่เหมาะสม
ดังนั้นแล้วจึงเป็นสิ่งสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ต้องอบรมสั่งสอนเลี้ยงดู พร้อมฝึกทักษะการใช้ชีวิตเพื่อให้ลูกน้อยสามารถเติบโตขึ้นได้ในสังคมปัจุบันอย่างมีความสุข
อ่านต่อ “บทความน่าสนใจ” คลิก!
- 9 เรื่องควรสอนลูก เพื่อมีอนาคตที่ดี
- 10 ทักษะใหม่ ที่เด็กไทยควรมีติดตัว เพื่อการอยู่รอดในอนาคต
- พาลูกเที่ยวแบบไหน เสริมพัฒนาการ สร้างทักษะชีวิต!
ขอบคุณข้อมูลดีๆ เรื่อง สอนลูกให้มีทักษะชีวิต (life skills) โดย อาจารย์ ประไพ ประดิษฐ์สุขถาวร ครูโรงเรียนทอสี taamkru.com