วิธีสอนลูกให้เป็นคนดี มีคุณค่า ในสังคม …ดังสุภาษิตโบราณที่กล่าวว่า คุณค่าของคน อยู่ที่ผลของงาน แต่ถ้าผลของงานเป็นสิ่งทำลายสังคม และมนุษยชาติ เช่น คนที่เบียดเบียนผู้อื่น ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน หรือคนที่ไม่ประกอบสัมมาอาชีวะ บุคคลนั้นจะเรียกได้ว่ามีคุณค่าจริงหรือ?
คุณค่าของคนอยู่ที่ตรงไหน?
พระพุทธเจ้าตรัสสอนภิกษุว่า ให้บำเพ็ญประโยชน์ตน และประโยชน์ผู้อื่น คุณค่าของคน จึงอยู่ที่การสร้างประโยชน์และความสุข แก่ตนเอง บุพการี และเพื่อนมนุษย์ร่วมโลก โดยเป็นประโยชน์ ซึ่งมาจากวิธีที่ชอบธรรม ถ้าทำให้พ่อแม่ ญาติมิตร หรือเพื่อนร่วมโลก มีกินมีใช้ ก็ยิ่งทำให้เป็นบุคคลที่มีคุณค่ามากยิ่งขึ้นไปตามลำดับ
ความดีเป็นสิ่งที่มีคุณค่าอยู่ในตัวเองเมื่อใดที่เราลงมือ “กระทำ” ความดีงามนั้นก็จะเกิดขึ้นกับตัวเราโดยไม่มีใครห้ามได้แต่เมื่อใดก็ตามที่เราเผลอตัวเข้าไปยึดถือในความดีของตน เราก็สร้างทุกข์ให้ตัวเองยิ่งยึดมากก็กลายเป็นถือตัวว่าดีกว่าคนอื่นเอาความดีเป็นเครื่องอวดอ้างเพราะมุ่งหวังคำสรรเสริญเยินยอ
วิธีสอนลูกให้เป็นคนดี มีคุณค่า ต่อพ่อแม่และสังคม
ซึ่งบางคนอาจบอกว่าคนที่มีคุณค่านั้นคือ คนที่เก่ง คนที่มีความสามารถ บางคนอาจจะบอกว่าคนที่มีคุณค่าหมายถึงคนดีที่มีคุณธรรมประจำใจ ซึ่งสังคมไทยเราก็สามารถมองหาคนเก่งและมีความสามารถได้ไม่ยาก แต่กลายเป็นการหาคนดีที่มีคุณธรรมนั้นได้ยากยิ่งเหลือเกิน เพราะใครๆต่างก็เห็นแก่ตนเองและทำทุกอย่างเพื่อตนเอง มากกว่าจะประกอบคุณประโยชน์ให้แก่สังคม ส่วนรวมและประเทศชาติ
การจะเป็นคนดีของสังคม เราต้องรู้จักคุณสมบัติของคนดีในสังคมเสียก่อน ซึ่งเส้นทางสู่การเป็นคนดีสามารถกระทำได้คือ คนดีต้องมีคุณสมบัติการกระทำ 3 ข้อ ดังนี้
1. การกระทำด้วยกายเรียกว่า กายกรรม
กล่าวคือ การกระทำในสิ่งที่ดี ไม่เบียดเบียนผู้อื่นให้เกิดความเดือดเนื้อร้อนใจ ประพฤติปฏิบัติตนให้อยู่ในกรอบของศีลธรรมและ จริยธรรมอันดีงาม กระทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่สังคม
♥ แนะนำเรื่องควรอ่าน! : Happy Family สอนลูกให้รู้จักทำดีกับพ่อแม่แล้วชีวิตจะเป็นสุข
♥ แนะนำเรื่องควรอ่าน! : ให้ลูกทำดี ไม่ต้องมีสินบน
2. การกระทำด้วยวาจาเรียกว่า วจีกรรม
กล่าวคือ การพูดจาดี มีความ อ่อนหวาน ซื่อตรง พูดในสิ่งที่สร้างสรรค์ ไม่พูดปดหรือพูดหลอกลวงผู้อื่นให้หลงเชื่อเพื่อให้ได้มาซึ่ง ผลประโยชน์แก่ตน
♥ แนะนำเรื่องควรอ่าน! : เติมอาหารสมองให้ลูกในตอนเช้า สร้างจิตสำนึกที่ดีให้ลูก
3. การกระทำด้วยใจ เรียกว่า มโนกรรม
กล่าวคือ การเป็นผู้มีความคิดด้วย จิตอันบริสุทธิ์ คิดในสิ่งที่ดีมีประโยชน์ คิดในทางที่สร้างสรรค์ ไม่คิดร้ายแก่ผู้อื่นเพียงเพราะผลประโยชน์
♥ แนะนำเรื่องควรอ่าน! : 12ข้อคิด กับวิธีเลี้ยงลูกให้เป็นผู้มีปัญญา
และการที่พ่อแม่จะอบรมเลี้ยงดูให้ลูกเป็นคนจิตใจดี มีความประพฤติดีนั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ต้องใช้เวลาและความอดทน โดยการเลี้ยงดูให้ลูกเป็นคนดีนั้นสามารถเริ่มได้ตั้งแต่ลูกยังอยู่ในท้องแม่ด้วยซ้ำไป เพราะเด็กสามารถได้ยินเสียงตั้งแต่อายุ 5 เดือนที่ยังอยู่ในท้องของแม่ ดังนั้นพ่อแม่ควรพูดแต่สิ่งดี ๆ และเรื่องดี ๆให้ลูกฟังตั้งแต่เขาอยู่ในท้อง เพื่อเป็นการปลูกฝังให้ลูกได้ซึมซับคุณธรรมให้เป็นส่วนหนึ่งของจิตใจ ซึ่งจะมีคุณธรรมหรือความดีอะไรบ้างที่พ่อแม่ควรปลูกฝังให้กับลูก ตามไปดูกันค่ะ
อ่านต่อ >> “7 ข้อที่พ่อแม่ควรสอนลูก เพื่อให้ลูกมีคุณค่าในความดี” คลิกหน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
1.สอนให้ลูกเป็นคนมีความเมตตากรุณา
การสอนให้ลูกรู้จักช่วยเหลือ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และเสียสละ รวมทั้งไม่เบียดเบียนผู้อื่น ความดีในเรื่องนี้เป็นความดีขั้นพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ พ่อแม่สามารถสอนให้ลูกมีความเมตตากรุณาอย่างง่ายๆ เช่น การให้ลูกรู้จักเห็นอกเห็นใจคนที่ด้อยโอกาส ให้เขาได้ช่วยเหลือผู้อื่น สอนให้ลูกรู้จักดูแลสัตว์และต้นไม้ รักษาสภาพแวดล้อม อีกทั้งสอนไม่ให้ลูกแกล้งผู้อื่นหรือรังแกสัตว์
♥ แนะนำเรื่องควรอ่าน! : สอนลูกรู้จักเห็นใจผู้อื่น
2. สอนให้ลูกเป็นคนมีความกตัญญู
การรู้คุณค่าของความดีและรู้จักตอบแทนความดีของผู้มีพระคุณ ซึ่งได้แก่ พ่อแม่ คุณครู ญาติผู้ใหญ่ คำโบราณสอนไว้ว่าคนที่กตัญญูตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ ดังนั้นพ่อแม่ควรสอนให้ลูกเป็นคนที่รู้จักตอบแทนและสำนึกถึงคุณงามความดีของผู้อื่น โดยการที่พ่อแม่ต้องทำให้ลูกเห็นเป็นตัวอย่าง เช่น พ่อแม่ควรดูแลปู่ย่าตายาย และญาติผู้ใหญ่ อีกทั้งพาลูกไปเยี่ยมเยียนญาติผู้ใหญ่เมื่อมีโอกาสเสมอ ช่วยเหลือในการงานของท่านเท่าที่พอทำได้
♥ แนะนำเรื่องควรอ่าน! : 10 เทคนิคสอนลูกให้เป็นเด็กกตัญญู
♥ แนะนำเรื่องควรอ่าน! : อานิสงส์การดูแลพ่อแม่ 12 ประการ ที่ลูกกตัญญูจะได้รับ!
3. สอนให้ลูกเป็นคนมีความซื่อสัตย์
คือการประพฤติที่ตรงไปตรงมา ไม่ทุจริต ไม่หลอกลวง ไม่มีต่อหน้าอย่างลับหลังอย่าง ความดีในเรื่องนี้เป็นคุณความดีที่หาได้ยากมากในสังคมไทย แต่เป็นความประพฤติที่สำคัญมากไม่ว่าจะเป็นในสังคมหรือในองค์กรใดก็ตาม ถ้าปราศจากความซื่อสัตย์แล้ว สังคมหรือองค์กรนั้นๆก็จะประสบความวุ่นวายและล่มสลายในที่สุด
วิธีการที่พ่อแม่สอนให้ลูกมีความซื่อสัตย์ที่ได้ผลนั้นก็คือ พ่อแม่ต้องเป็นแบบอย่างในเรื่องนี้ โดยการแสดงความซื่อสัตย์ให้ลูกเห็นเป็นตัวอย่าง ทั้งในเรื่องของคำพูด คือไม่พูดจาโกหกปลิ้นปล้อนให้ลูกได้ยิน เมื่อสัญญาหรือรับปากว่าจะทำสิ่งใดก็ทำตามนั้น อีกทั้งพ่อแม่ควรมีความรักที่ซื่อสัตย์ต่อกันและกัน รวมทั้งพ่อแม่ควรเป็นคนมีความซื่อสัตย์ในเรื่องทรัพย์ สินเงินทองโดยไม่ประพฤติผิดในการคดโกงยักยอกทรัพย์สินของผู้อื่น หรืออยากได้ของผู้อื่นมาเป็นของตน
♥ แนะนำเรื่องควรอ่าน! : สอนลูกเรื่องการโกหก การขโมย และความซื่อสัตย์
4. สอนให้ลูกเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน
เพราะคนที่อ่อนน้อมถ่อมตนไปอยู่ในสังคมใดก็มักจะเป็นที่รักและเอ็นดู ไม่ว่าจะเป็นการประพฤติที่สุภาพเรียบร้อย ให้เกียรติผู้อื่นทั้งในเรื่องของคำพูดและการกระทำที่อ่อนโยน ไม่เย่อหยิ่ง และไม่หยาบกระด้าง
ดังนั้นพ่อแม่ควรสอนให้ลูกเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน โดยการฝึกให้ลูกพูดจาสุภาพเรียบร้อยตั้งแต่เด็ก สอนให้ลูกทำความเคารพผู้ใหญ่ตั้งแต่เด็กๆจนติดเป็นนิสัย เช่น การไหว้ การกราบ การเดินก้มตัวเวลาเดินผ่านผู้ใหญ่
♥ แนะนำเรื่องควรอ่าน! : วิธีสอนลูกไหว้อย่างไรให้ได้ผล
♥ แนะนำเรื่องควรอ่าน! : โรคมารยาททางสังคมบกพร่อง ระบาดหนักส่งต่อสู่รุ่นลูก !
อ่านต่อ >> “ข้อควรสอนลูกเพื่อให้ลูกมีคุณค่าในความดี” คลิกหน้า 3
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
5. สอนให้ลูกรู้จักฟังมากกว่าพูด กับทุกๆคน
การรับฟังอีกฝ่าย คือวิธีแสดงออกว่าเราใส่ใจคนคนนั้นมากแค่ไหน ซึ่งผู้ฟังที่ดีไม่ควรพูดขัดจังหวะขณะที่อีกฝ่ายยังพูดไม่จบ หรือชิงแสดงความคิดเห็นหากเขาไม่ได้ร้องขอ คุณอาจพลาดโอกาสได้ทำความรู้จักอีกฝ่ายมากขึ้น รวมถึงทำให้อีกฝ่ายเหนื่อยหน่ายที่จะคุยด้วย ในทางตรงกันข้าม การสบตา (Eye Contact) พยักหน้ารับคำ หรือตอบรับเกี่ยวกับเรื่องที่กำลังคุยไม่ว่าอีกฝ่ายเป็นใครก็ตาม จะทำให้ใครๆ เปิดใจกับคุณ และรู้สึกสบายใจที่จะคุยด้วย
6. สอนลูกเป็นผู้ให้โดยไม่หวังผลตอบแทน
บางครั้งการให้เพราะคิดจะให้ ก็ทำให้คุณรู้สึกดีอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะคุณจะไม่ต้องมัวเสียเวลาคิดว่าเค้าจะตอบแทนเราแบบไหน คุ้มไม่คุ้ม พาลจะทำให้คุณคิดว่าตัวเองไม่มีค่าเค้าถึงไม่เห็นความดี ในทางตรงกันข้าม การให้จากใจนั่นล่ะที่มีค่าที่สุด หากไม่เดือดร้อนตัวเองก็จงให้ไปเถอะ ขอแค่สบายใจที่ได้ให้ก็พอ แล้วมันจะเป็นพลังดีๆ ที่ดึงดูดสิ่งดีๆ เข้ามาหาคุณ
7. สอนลูกให้มีความเพียรพยายามมานะอดทน
ในที่นี้ หมายถึง ความบากบั่น ความกล้าหาญ การมุ่งมั่นไปข้างหน้า การไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคปัญหาใดๆ เป็นเรื่องที่สำคัญมากที่พ่อแม่ต้องสอนให้ลูกเป็นคนที่มีความเพียรพยายามมานะอดทนต่อความยากลำบาก เพราะคนที่มีความมานะอดทนจะไม่ท้อถอยแม้มีปัญหามากมายเข้ามาในชีวิต อีกทั้งรู้จักต่อสู้กับความพ่ายแพ้ในทุกรูปแบบของชีวิตด้วยความถูกต้องชอบธรรมโดยไม่ทำร้ายผู้อื่น ซึ่งคนประเภทนี้แหละที่เป็นที่ต้องการของสังคมไทยยุคปัจจุบัน
การที่พ่อแม่สอนให้ลูกเป็นคนเพียรพยายามนั้น ต้องสอนตั้งแต่เล็กๆ โดยการเริ่มต้นให้ลูกรู้จักการช่วยเหลือตัวเองในเรื่องกิจวัตรประจำวัน เช่น การอาบน้ำแต่งตัว การรับประทานอาหาร การทำการบ้าน โดยที่พ่อแม่ควรให้ลูกทำสิ่งต่างๆด้วยตัวเอง อย่าโอ๋ลูกจนเกินไป เพื่อที่ลูกจะไม่กลายเป็นลูกแหง่หรือเด็กขี้แยไร้เหตุผลไปจนโต
เชื่อว่าพ่อแม่ทุกคนย่อมอยากให้ลูกเติบโตขึ้นเป็นทั้งคนดีและเก่ง แต่จะมีประโยชน์อะไรถ้าลูกเป็นคนเก่ง มีความสามารถ แต่เป็นคนไร้ซึ่งความเมตตากรุณา ความซื่อสัตย์ ความอ่อนน้อมถ่อมตน ความกตัญญูและความอ่อนน้อมถ่อมตน เพราะคุณค่าของความเป็นคนอยู่ที่ความดี เมื่อมีคนดี สังคมย่อมดีตาม สังคมดีในอุดมคติจะเกิดขึ้นได้เมื่อทุกคนเข้าใจและเห็นพ้องกันว่า “เป็นคนดีสำคัญกว่าทุกสิ่ง” นั่นเองค่ะ
อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก!
- เทคนิคเลี้ยงลูกให้น่ารักและเป็นที่รักของผู้อื่น
- สอนลูกให้เป็นคนดี มีจริยธรรมตั้งแต่แรกเกิด
- ใช้ธรรมะสอนลูกอย่างไร ให้เป็นคนดี! โดย ท่าน ว.วชิรเมธี
บทความอ้างอิงโดย: ดร.แพง ชินพงศ์ www.manager.co.th , storylog.co