พบกับ วิธีเลือกรถเข็นเด็ก พร้อมประวัติและที่มา ที่หลาย ๆ คนอยากรู้!!
คุณพ่อคุณแม่เคยสงสัยหรืออยากรู้กันไหมคะว่า “รถเข็นเด็ก” ที่เราใช้กันทุกวันนี้นั้นมีที่มาอย่างไร แล้วกว่าจะมาเป็นรถที่ทันสมัยนั้น เขามีพัฒนาการมาแบบไหน วันนี้ทีมงาน Amarin Baby and Kids จะมาไขข้อข้องใจนี้กันค่ะ
ย้อนรอยกลับไปกว่า 200 ปีที่แล้ว รถเข็นนั้นเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในสมัยของ วิลเลียม เคนท์ ซึ่งเป็นสถาปนิกออกแบบรถเข็นคนแรก โดยรถเข็นเด็กนั้นถูกสร้างขึ้นในสมัยของ ดยุค แห่งเดวอนเซอร์ โดยออกแบบให้สัตว์เลี้ยงและคนสามารถลากรถเข็นได้
หลังจากนั้น ได้ถูกดัดแปลงขึ้นอีกครั้งโดย เบนจามิน พอตเตอร์ เขาได้ดัดแปลงรถเข็นเด็กจากที่ใช้ลากจูง เป็นการใช้แรงดันผลักรถเข็นให้เคลื่อนที่ จนมีผู้สนใจเป็นจำนวนมาก ทำให้กลายเป็นธุรกิจใหม่เกิดขึ้น
ใน ค.ศ. 1895 เริ่มมีการดัดแปลงรถเข็นเด็กให้มีสี่ล้อ มีความกว้างเพิ่มมากขึ้น
ในปี 1913 เริ่มมีการทำหลังคาคลุมรถกันแล้วด้วยนะคะ
ต่อมาในปี 1951 รถเข็นเด็กเริ่มมีความทันสมัยมากขึ้น เริ่มมีหลายขนาด ที่สำคัญเริ่มเล็กลงเพื่อให้สะดวกต่อการพกพา
ตัดกลับมาที่ยุคปัจจุบัน จะเห็นได้ว่า รถเข็นเด็กนั้นมีให้เราเลือกมากมายหลากหลายชนิดจริง ๆ เลยใช่ไหมคะ ขึ้นอยู่กับความประสงค์ของคุณแม่ว่า อยากได้แบบไหน บางครอบครัว อยากมีลูกแฝดหรือลูกหลายคน ก็อาจจะมองหารถเข็นที่สามารถพาลูกไปได้พร้อม ๆ กัน แต่ไม่ว่าจะด้วยวัตถุประสงค์อะไรก็แล้วแต่ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ วิธีการเลือกรถเข็นเด็กให้ถูกต้องและปลอดภัยนั่นเอง ซึ่งในวันนี้ ทีมงานได้มี 5 วิธีมาแนะนำคุณพ่อคุณแม่กันค่ะ
5 วิธีเลือกรถเข็นเด็ก ให้ถูกต้องและปลอดภัย
1.อายุการใช้งาน ปัจจุบันเทคโนโลยีมีความทันสมัยมากขึ้นจนสามารถผลิตรถเข็นที่ดีและปลอดภัย และสามารถนำมาใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึง 3 ปี ทำให้คุณพ่อคุณแม่ไม่จำเป็นที่จะต้องซื้อรถเข็นบ่อย ๆ
2.คุณภาพของรถเข็น คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกรถเข็นที่มีคงทนและแข็งแรง อย่าลืมนะคะว่า พื้นผิวถนนหรือสถานที่ ๆ เราไปนั้นมีความแตกต่างกัน การเลือกรถเข็นที่มีคุณภาพนั้นจะเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้รถเข็นของลูกนั้นใช้งานได้นานขึ้น
3.ควรเลือกรถเข็นที่เก็บง่าย และไม่หนักมาก และจะเป็นประโยชน์มากเลยละค่ะ ถ้าหากรถเข็นที่เราเลือกซื้อนั้น สามารถพับเก็บลงได้ด้วยการใช้แขนแค่ข้างเดียว อย่าลืมนะคะว่า ในบางครั้ง คุณแม่อาจจะต้องใช้มือนึงอุ้มลูกหรือถือของ แล้วอีกมือนึงก็จะต้องใช้พับเก็บรถเข็น มิเช่นนั้นละก็ พะรุงพะรังแย่เลยละค่ะ
4. เลือกซื้อรถเข็นที่รับประกันการใช้งาน ก่อนซื้ออย่าลืมเช็คให้ดีก่อนนะคะว่า รถเข็นที่เราจะซื้อนั้น มีประกันคุณภาพหรือไม่ เผื่อเกิดเหตุอะไร เราจะได้สามารถเคลมประกันได้
5.ทำความสะอาดง่าย อย่าลืมนะคะว่า รถเข็นคันนี้เป็นของลูก การที่จะมีสิ่งของขนม อาหารหรือนมนั้นหกเลอะเทอะได้นั้นอาจเป็นเรื่องปกติ ซึ่งการทำความสะอาดนั้น ก็จะต้องง่ายและสามารถทำให้ทั่วถึงได้เช่นกัน มิเช่นนั้น อาจจะมีมดหรือตัวแมลงมากัดลูกได้ค่ะ
ขอบคุณที่มา: Catdumb, Phil&Teds และ Med Thai
อ่านต่อเรื่องอื่นที่น่าสนใจ:
- เทคนิคง่ายๆ ในการ “อาบน้ำเด็กแรกเกิด” สำหรับพ่อแม่มือใหม่
- 17 ท่า นวดทารก ช่วยทำให้สุขภาพและพัฒนาการดี
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่