วิธีให้กำลังใจลูก เพราะคน...เปราะบางยิ่งกว่าไข่ไก่ แม้ไข่ไก่… ต้องเคาะหนึ่งทีถึงจะแตก คน…ก็เช่นกัน หลายครั้งเพียงเพราะคำพูดคำๆ เดียวของผู้อื่นซึ่งมองไม่เห็น หัวใจก็แหลกสลายแล้ว!!
วิธีให้กำลังใจลูก “เพราะใจลูกเปราะบางยิ่งกว่าเปลือกไข่”
“เพียงคำพูดนี้” ก็สามารถเปลี่ยนชีวิตของ
ลูกที่เรียนแย่ที่สุด ให้ดีได้!
ครั้งแรก…ที่เข้าร่วมการประชุมผู้ปกครอง คุณครูชั้นอนุบาลพูดว่า…
“ลูกชายของคุณเป็นโรคอยู่ไม่สุข ไม่สามารถนั่งสงบนิ่งบนเก้าอี้ แม้เพียงสามนาที ให้ดีแล้ว ผมว่าคุณพาเขาไปตรวจเช็กที่โรงพยาบาลดีกว่าไหม?”
⇒ Must read : ลูกไฮเปอร์ กับสมาธิสั้น แตกต่างกันอย่างไร?
⇒ Must read : รวม 11 โรค กับวิธีสังเกต ลูกมีปัญหาสุขภาพจิต
ตอนเดินทางกลับบ้าน ลูกชายถามเธอว่า คุณครูพูดอะไรบ้าง!
เธอเจ็บปวดหัวใจ น้ำตาแทบจะไหลรินออกมา เพราะว่า… เด็กน้อยทั้งห้องสามสิบคน มีเพียงการกระทำและการปฏิบัติตัวของเขาแย่ที่สุด… คุณครูจึงแสดงออกถึงความดูแคลน
ทว่า… เธอยังคงบอกกับลูกชายว่า
“คุณครูชื่นชมลูก บอกว่า เดิมทีลูกไม่สามารถนั่งสงบนิ่งบนเก้าอี้แม้แต่นาทีเดียว แต่ตอนนี้สามารถนั่งได้สามนาทีแล้ว ส่วนคุณแม่คนอื่นๆ ต่างก็อิจฉาแม่ เพราะว่า ทั้งห้องมีลูกเพียงคนเดียว ที่มีการพัฒนาที่ดีขึ้น”
ค่ำวันนั้น ลูกชายของเธอกินข้าวหมดสองถ้วย ซึ่งเป็นประวัติการณ์ อีกทั้งไม่ต้องให้เธอป้อน
ลูกชาย… ขึ้นชั้นประถมแล้ว การประชุมผู้ปกครอง คุณครูพูดว่า…
“นักเรียนทั้งชั้นสี่สิบคน ผลการสอบคณิตศาสตร์ครั้งนั้น ลูกชายของคุณได้อันดับที่สี่สิบ พวกเราสงสัยว่า สติปัญญาของเขาอาจจะมีปัญหา ให้ดีแล้ว คุณควรพาเขาไปตรวจเช็กที่โรงพยาบาลนะ”
ระหว่างเดินทางกลับบ้าน น้ำตาเธอไหลรินออกมา ทว่าเมื่อกลับมาถึงบ้านแล้ว กลับพูดกับลูกชายว่า…
“คุณครูเชื่อมั่นในตัวลูกมาก เขาบอกว่า ลูกไม่ใช่เด็กที่โง่เขลา ขอเพียงแต่เพิ่มความละเอียดรอบคอบมากขึ้น ก็จะเหนือกว่า คนที่นั่งโต๊ะเดียวกันกับลูก ครั้งนี้… คนที่นั่งโต๊ะตัวเดียวกันกับลูก เขาสอบได้อันดับที่ยี่สิบเอ็ด”
ตอนที่เธอพูดคำพูดเหล่านี้ เธอพบเห็นว่า… ดวงตาของลูกชาย ค่อย ๆ เปล่งประกายแสงยิ่ง ๆ ขึ้น ใบหน้าที่เศร้าสร้อยเมื่อครู่ก็ร่าเริงขึ้นมาทันที
อีกทั้ง… เธอพบเห็นว่า ลูกชายอ่อนโยน จนทำให้เธอตกใจคล้ายดั่งเขาได้เติบใหญ่ขึ้นมากในทันที
อ่านต่อ >> “วิธีให้กำลังใจลูก เพียงคำพูดนี้ ก็สามารถแปรเปลี่ยนชีวิตลูกได้” คลิกหน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
วันรุ่งขึ้นไปโรงเรียน ก็ไปเช้ากว่าปกติ ลูกชายขึ้นชั้นมัธยมต้น เป็นอีกครั้งของการประชุมผู้ปกครอง
เธอนั่งอยู่ในที่นั่งเรียนของลูกชาย รอคอยคุณครูขานชื่อของลูกชายเธอ… เพราะว่าการประชุมผู้ปกครองทุกครั้งที่ผ่านมา รายชื่อของนักเรียนที่มีผลการเรียนย่ำแย่ จะมีรายชื่อของลูกชายเธอทุกครั้ง ทว่าครั้งนี้อยู่นอกเหนือความคาดหมายของเธอ จวบจนสิ้นสุดก็ไม่ได้ยินชื่อของลูกชายเธอ
เธอเกิดความไม่เคยชิน ก่อนกลับจึงไปถามคุณครู และคุณครูบอกกับเธอว่า…
“ดูจากผลการเรียนของลูกคุณในปัจจุบันแล้ว หากไปสอบเข้าเรียนโรงเรียนมัธยมปลายที่มีชื่อเสียง ยังมีความเสี่ยงที่สูงอยู่ แต่เขาพัฒนาขึ้นมาก”
เธอเดินออกจากโรงเรียนด้วยความดีใจ ยามนี้เธอเห็นลูกชายยืนรอคอยเธออยู่ ระหว่างทางเธอจับไหล่ของลูกชาย ภายในจิตใจรู้สึกหวานชื่นยิ่ง
เธอบอกกับลูกชายว่า…
“คุณครูประจำชั้น พอใจในตัวลูกมาก เขาบอกแล้วว่า ขอเพียงลูกมีความพยายามก็จะมีหวังยิ่งขึ้น ที่จะสอบเข้าโรงเรียนมัธยมปลายที่มีชื่อเสียง”
จบมัธยมปลายแล้ว รายชื่อนักเรียนชุดแรก ที่ทางมหาวิทยาลัยได้แจ้งผลการสอบผู้คัดเลือกได้
ยามนั้น… ทางโรงเรียนได้โทรศัพท์มา ให้ลูกชายเธอไปที่โรงเรียน เธอมีลางสังหรณ์ว่า ลูกชายของเธอจะต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงแน่ เพราะว่าตอนที่ไปสมัครสอบเธอได้พูดกับลูกชายว่า เธอเชื่อและมั่นใจว่า เขาต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยนี้แน่นอน
ลูกชายกลับมาจากโรงเรียน นำจดหมายที่มีตราประทับ จากสำนักงานของมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงโด่งดังยื่นให้เธอ จากนั้นเขาเดินมากอดแม่และก็ร่ำร้องไห้ด้วยเสียงอันดัง ร้องไปก็พูดไปว่า
“แม่… ผมรู้ว่าผมไม่ใช่เด็กที่เฉลียวฉลาด แต่ว่า บนโลกนี้มีเพียงแม่เท่านั้นที่ดีกับผมเสมอและชื่นชมผมตลอดมา ขอบคุณครับแม่… ที่ทำให้ผมเกิดมา ขอบคุณที่ทำให้ผมเป็นคนได้อย่างภาคภูมิ และอนาคตแม่จะต้องภูมิใจในตัวผม”
เขารู้เรื่องทั้งหมดจากที่ครูประจำชั้นเล่าให้ฟัง ว่าจริง ๆ แล้ว ท่านเคยพูดอะไรในตอนที่แม่ของเขาไปประชุมผู้ปกครองทุกครั้ง ครูรู้เพราะถามเขาว่าทำไมเขาถึงสอบได้ ถามว่าทำไมเขาเก่งขึ้น
พอเขาเล่าให้ครูฟัง ครูเงียบไปพักใหญ่จากนั้น เรียกให้เขามานั่งใกล้ๆ แล้วจึงเล่าความจริงให้เขาฟัง นั่นยิ่งทำให้เขารับรู้ความรักอันยิ่งใหญ่ของผู้ที่เรียกว่าแม่…
ผู้เป็นแม่ ยามนี้… เธอสุดแสนจะดีใจ ไม่สามารถกลั้นน้ำตาที่อัดอั้นมาสิบกว่าปีอีกต่อไปแล้ว จึงปล่อยให้ไหลรินร่วงลงบนซองจดหมายที่อยู่ในมือ
คำพูด..ที่ให้กำลังใจ ให้การสนับสนุน สามารถแปรเปลี่ยนแนวคิด และพฤติกรรมของคนคนหนึ่ง แม้กระทั่งแปรเปลี่ยนโชคชะตาของคนคนหนึ่ง
คำพูด..เชิงลบ บั่นทอนกำลังใจ จะทิ่มแทงหัวใจและร่างกาย ของคนคนหนึ่ง จนบาดเจ็บชอกช้ำ จวบจนกระทั่งทำลายอนาคตของผู้คนได้
มาช่วยกันเปลี่ยนสังคมที่มีมลภาวะสูง NATO (No Action Talk Only) สู่สังคมที่ขับเคลื่อนด้วยความรัก AFTA (Acting First Talk After) ด้วยกันนะคะ
เครดิต : ส่งผ่านมาตาม line
อ่านต่อ >> “วิธีสร้างพลังใจให้ลูกแบบง่าย ๆ เพื่อให้ลูกมีความมั่นใจ และภูมิใจในตัวเอง” คลิกหน้า 3
อ่านต่อ “บทความน่าสนใจ” คลิก!
- ลูกๆ ควรอ่าน 10 ข้อฉุกคิด ก่อนที่จะเถียงหรือขึ้นเสียงใส่แม่!
- ประสบการณ์จริง! พ่อจน แนะเคล็ด (ไม่) ลับ สอนลูกเรียนเก่ง
- เลี้ยงลูกให้ทรพี โดยไม่ตั้งใจ เรื่องจริงที่พ่อแม่ควรรู้
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
วิธีให้กำลังใจลูก สร้างพลังใจที่ดีให้ลูกได้
ทั้งนี้ เด็กสมาธิสั้นนั้น ตั้งแต่เล็กจนโต เพราะเขาถูกกระทำ ถูกดุด่า ว่ากล่าว ทำโทษ ทำให้ไม่เกิดความมั่นใจในตัวเอง และเหมือนคนขาดความรัก เมื่อเขาเป็นวัยรุ่น ก็เลยทำให้หลงคำพูดคนง่ายโอนเอนและอ่อนไหวต่อสถานการณ์ล่อแหลมได้ง่าย ยิ่งถ้าผู้ปกครองไม่เข้าใจเค้า และกระทำกับเค้าแบบเดิม ๆ ไม่ให้โอกาสเค้าได้คิดได้แสดงออก ได้แก้ปัญหา ก็จะยิ่งทำให้เค้าเตลิดไปไกลกว่าเดิม จนหลายๆบ้าน มักเจอปัญหา เด็กก้าวร้าว เด็กเที่ยว เด็กแว้นส์ เด็กสก้อยส์ เด็กติดยา หรือมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร
ถึงเวลาแล้วที่คุณพ่อคุณแม่ และผู้ใหญ่ต้องหันมาดูแล และประคับประคองจิตใจ ของเด็ก ๆ ไม่ก่นด่า เอาแต่อารมณ์ จนลืมว่า เด็ก ๆ ทุกคนก็มีความรู้สึก มีความอับอาย ถ้าเราอยากให้เด็ก ๆ มีความภาคภูมิใจ มั่นใจในตัวเอง รักษาศักดิ์ศรีของตัวเอง เราก็ต้องเป็นแบบอย่างที่ดี รู้จักให้เกียรติ ให้โอกาสในการแสดงออก และให้คำแนะนำ คำชมเชย คำปลอบใจ ที่สร้างสรรค์ทั้งในคำพูดและการกระทำ
เพราะความภูมิใจ ความรู้สึกว่ามีคุณค่าในตนเอง เป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกคนไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ พ่อแม่สามารถใช้การให้กำลังใจเป็นตัวช่วยให้ลูกรู้สึกภูมิใจและรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า
การเห็นคุณค่าในตนเอง คือความเชื่อว่าเรามีความเข้มแข็ง มีความสามารถในตนเอง มีคนยอมรับและเป็นที่รักของผู้อื่น เมื่อใดที่พ่อแม่ให้ความสนใจเชิงบวกกับลูกอย่างพอเพียง ชื่นชมและยอม รับในตัวลูก ก็เท่ากับช่วยให้ลูกเชื่อมั่นในตนเองด้วย
โดยทั่วไปเด็กที่มีพลังใจดีจะรู้สึกและเห็นคุณค่าในตัวเอง มีความพยายามริเริ่มทำสิ่งใหม่ๆ มีความสนใจอยากมีส่วนร่วมและมีความรับผิดชอบ ทั้งต่อตนเอง สังคม และคนรอบข้าง
ส่วนเด็กที่หมดกำลังใจหรือถูกบั่นทอนกำลังใจจะมองเห็นคุณค่าของตนเองต่ำและไม่อยากมีส่วนร่วม
พ่อแม่บางคนคิดว่าจำเป็นต้องคอยพูดย้ำซ้ำในเรื่องข้อผิดพลาด เพื่อให้ลูกปรับปรุงตัวให้ดีขึ้นหรือไม่ทำผิดซ้ำอีก แต่พฤติกรรมเช่นนี้อาจเป็นการบั่นทอนกำลังใจลูก ดังนั้น หากลูกมีข้อผิดพลาด พ่อแม่อาจใช้ประสบการณ์เกี่ยวกับข้อผิดพลาดนั้นเพื่อสอนให้เด็กเกิดการเรียนรู้และเข้าใจว่าความผิดพลาดสามารถเกิดขึ้นได้
แต่อย่างไรก็ตาม แม้จะมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น พ่อแม่ก็ยังรักและยอมรับในสิ่งที่ลูกเป็น ซึ่งอาจจะไม่ดีในระดับที่พ่อแม่ต้องการเสมอไป แต่ลูกยังจำเป็นต้องได้รับความรักและการยอมรับจากพ่อแม่ ไม่ว่าเขาจะทำได้ดีหรือไม่ก็ตาม
♥ วิธีเสริมพลังใจที่ดีสามารถทำได้ ดังนี้ √
1.ลองมองข้ามความผิดพลาดที่ลูกเคยทำในอดีต
2.คิดถึงสิ่งที่ลูกสามารถทำได้แทน
3.มองเห็นคุณสมบัติที่ดีๆในตัวลูก
4.ชื่นชมลูก
5.สังเกตความพยายามของลูก
6.ไม่กังวลล่วงหน้าว่าลูกอาจจะทำผิดพลาดอีก
7.หาวิธีการช่วยให้ลูกรู้สึกว่าลูกมีความสามารถ
8.แสดงความรักและยอม รับลูก
พ่อแม่สามารถใช้ท่าทางและคำพูดในการแสดงออกซึ่งความรักและการให้กำลังใจลูก ด้วยการกอด ส่งยิ้ม นั่งใกล้ๆ รับฟังลูกโดยไม่ขัดจังหวะ รวมทั้งใช้คำพูดที่ช่วยเสริมพลังใจ ที่ดี เช่น ขอบใจจ้ะ ลูกช่วยได้มากทีเดียว พ่อเห็นความตั้งใจของลูกนะ แม่เชื่อในการตัดสินใจของลูก ลูกกำลังทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆ
อ่านต่อ “บทความน่าสนใจ” คลิก!
- 10 คำพูดดีๆ ลูกอยากได้ยิน จากพ่อแม่
- 10 การกระทำพ่อแม่ ทำร้ายจิตใจลูก แบบไม่รู้ตัว!!!
- กฎ 9 ข้อ เลี้ยงลูกด้วยรัก และไม่ตามใจ
- 9 ทางแก้ วิธีดับทุกข์ เพราะ..ลูก ด้วยหลักธรรม ได้ผล 100%
ที่มาข้อมูล : โลกวันนี้วันสุข โดย ดร.อภันตรี สาขากร talkaboutsex.thaihealth.or.th , oknation.nationtv.tv