AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

อยากให้ลูกรู้ว่ารัก พ่อแม่ต้องทำยังไง?

วิธีบอกรักลูก…แน่นอนว่าไม่มีพ่อแม่คนไหนที่ไม่รักลูก แต่ก็ไม่ใช่ลูกทุกคน ที่จะรับรู้ได้ว่าพ่อแม่รักเขาทั้ง ๆ ที่พ่อแม่รัก และเป็นห่วงลูกสุดหัวใจ แต่ทำไมความรักและความหวังดีนั้น กลับส่งไปไม่ถึงลูก?? บางครั้งเจตนาจะสอนลูก แต่ลูกกลับต่อต้าน หาว่าพ่อแม่ไม่เข้าใจ บางคราหวังดีกับลูก แต่ลูกกลับไม่ชอบใจ หาว่าเราจุ้นจ้านเกินไปหรือบางทีเป็นห่วงลูก แต่ลูกกลับรำคาญใจ หาว่าเราจู้จี้จุกจิกซะนี่

 

ที่เป็นเช่นนั้น ก็เพราะว่าการสื่อสารของเรากับลูกส่วนใหญ่ เน้นการจัดการลูกเรื่องกิจวัตรประจำวัน มากกว่าเน้นการสร้างความสัมพันธ์กับลูก

4 วิธีบอกรักลูก ให้ลูกรับรู้ได้

หากตั้งแต่ตื่นเช้าจนถึงเข้านอนตอนกลางคืน เราให้ความสำคัญลูกแต่เรื่อง กินอิ่ม นอนหลับ ตัวสะอาด การบ้านเสร็จ เล่นปลอดภัยแล้ว ก็เท่ากับว่าเวลาส่วนใหญ่ จะหมดไปกับการสั่ง จัดการ ตรวจตรา ดูแลความเรียบร้อยของลูก ส่วนเวลาในการพูดคุยกันในเรื่องอื่นๆ รวมทั้งการรับฟังความรู้สึก และความต้องการของลูก ก็จะถูกบั่นทอนลดน้อยลงไป จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ ว่าทำไมลูกถึงต่อต้าน รำคาญ เครียด และไม่อยากให้ความร่วมมือ

ที่สำคัญ หากการสื่อสารของเรา เต็มไปด้วยคำสั่ง คำบ่น คำขู่ คำต่อว่า หรือว่าการลงโทษด้วยแล้ว ไม่ว่าเราจะรัก หวังดี และห่วงใยลูกขนาดไหน ก็ยากที่ลูกจะเข้าใจถึงความรัก ความหวังดีของคุณพ่อคุณแม่

Amarin Baby & Kids กับบทความ สวย เลิศ เชิด ดี ด้วยวินัยเชิงบวก จึงขอนำเสนอวิธีการสื่อสารที่สามารถสื่อความรัก ความหวังดี ไปให้ถึงลูกได้ดังนี้ค่ะ

1. เช็คอินด้วยการกอด

การให้ความสำคัญลูกด้วยการกอดลูกในแต่ละวันให้ได้มากที่สุด ให้การกอดเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวัน เช่น เช้าเมื่อตื่นนอนสิ่งแรกที่ทำคือกอด ก่อนออกจากบ้านก็กอด เมื่อกลับมาเจอกันก็กอด ก่อนเข้านอนก็กอด หรือนั่งอยู่ด้วยกันสักพักก็เดินเข้าไปกอดได้อีกค่ะ

เหมือนกับว่าเวลาเราไปที่ไหนแล้วเรากดเช็คอินคนอื่นก็จะรับรู้ว่าเราอยู่ที่ไหนเมื่ออยู่กับลูกก็เช่นกันเดินไปเช็คอินกับลูกด้วยการกอดบ้างลูกก็จะรับรู้ว่าทั้งตัวและหัวใจของคุณพ่อคุณแม่กำลังอยู่กับเขา

ทุกครั้งที่กอดลูก นอกจากลูกจะรู้สึกได้ถึงความรักความสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่มีให้แล้วความรู้สึกดีๆ นี้ยังถูกสะสมเป็นแรงใจให้ลูกสามารถจัดการความเครียดความคับข้องใจภายในตัวเองได้สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนๆ และคุณครูได้ป้องกันพฤติกรรมการเรียกร้องความสนใจที่ไม่เหมาะสมได้กล้าที่จะเรียนรู้ลองผิดลองถูก และกล้าออกเผชิญโลกกว้างได้อย่างมั่นใจอีกด้วย

Must readแค่ “กอด” สุขภาพใจ+กาย ก็แข็งแรง
Must readอย่าสร้างช่องว่าง กว้างกว่าอ้อมกอด

อ่านต่อ >> “วิธีบอกรักเพื่อให้ลูกรับรู้ได้” คลิกหน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

2. “หัวเราะ” ก่อนเปลี่ยนกิจกรรม

 

การช่วยลูกเปลี่ยนจากกิจกรรมหนึ่งไปอีกกิจกรรมหนึ่งด้วยการสร้างเสียงหัวเราะ จะทำให้ลูกมีความพร้อมในการเปลี่ยนแปลง ยกตัวอย่างเช่น ในตอนเช้าจากที่เคยปลุกลูกแล้วให้เขาเดินไปอาบน้ำทันที ลองเปลี่ยนเป็นปลุกลูกขึ้นมาแล้วเล่นกับลูกก่อน ให้ได้มองหน้าและได้หัวเราะกันจนคุณพ่อคุณแม่รู้สึกได้ว่าลูกพร้อมที่จะไปอาบน้ำแล้วค่อยพากันไปอาบน้ำหรือแทนการบอกให้ลูกไปกินข้าวด้วยการชวนลูกว่า “ลูกลิงของแม่มาลองดูสิว่าตอนเช้าลิงเค้ากินอะไรกัน” เป็นต้น

Must read : 4 กิจกรรม ช่วยพัฒนาสมองส่วนหน้าให้ลูกน้อย
Must read : มาทำ กิจกรรมร่วมกับครอบครัว กันเถอะ

การเล่นสนุกกับลูก จะช่วยกระตุ้นสารเอนโดฟินและออกซิโทซินให้ทั้งลูกและตัวคุณพ่อคุณแม่เองซึ่งนอกจากจะช่วยกระชับความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างลูกกับเราแล้ว ยังช่วยให้ลูกสามารถจัดการกับความเครียดและความเสียใจภายในตัวเองได้อีกด้วยทำให้ลูกมีอารมณ์มั่นคง สามารถควบคุมและยับยั้งอารมณ์ของตัวเองได้และให้ความร่วมมือกับเราอย่างเต็มใจ

ในทางตรงข้ามหากว่าเราไม่เล่นกับลูกความเครียดและความเสียใจของลูกจะถูกสะสมกักเก็บเอาไว้ในใจและจะระบายออกมาเป็นพฤติกรรมไม่เหมาะสมไม่ว่าจะเป็นความก้าวร้าว การต่อต้าน นิสัยขี้งอแง นิสัยขี้โมโหหรือเก็บกดเก็บตัวนิ่งเงียบ ไม่ชอบสังคมกับใคร

Must readวิธีเล่นสนุกสร้างเสียงหัวเราะ เสริมพัฒนาการให้กับลูกน้อยวัย 0-1 ปี

อ่านต่อ >> “วิธีบอกรักเพื่อให้ลูกรับรู้ได้” คลิกหน้า 3

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

3. ปิดเครื่องมือสื่อสาร

เพราะการเล่นเครื่องมือสื่อสารไปด้วยพูดกับลูกไปด้วยจะทำให้ลูกรู้สึกได้ว่าเขานั้นมีความสำคัญกับพ่อแม่น้อยเพียงไรและแน่นอนว่าเมื่อคุณพ่อคุณแม่ไม่ให้ความสนใจกับลูกแล้วลูกก็จะเรียกร้องความสนใจหรือไม่ก็มองหาความสนใจอย่างอื่น และไม่สนใจคุณพ่อคุณแม่ด้วยเช่นกัน เราจึงมักเห็นภาพที่ลูกมองจอแท็ปเล็ตไม่วางตาและไม่ค่อยสนใจฟังสิ่งในที่คุณพ่อคุณแม่พูด

Must read : ทำอย่างไร? ให้เตาะแตะสนใจฟังแม่บ้าง
Must read : แม่ไม่สนใจมัวแต่เล่นมือถือ ลูกสาวจึงเอ่ยปากพูดประโยคนึง แม่ถึงกับไม่กล้าเล่นมือถืออีกเลย

แต่การประสานตากัน การมองหน้าลูก แล้วพูดจะทำให้ลูกรู้สึกได้ว่าเขามีตัวตนและมีความสำคัญกับพ่อแม่และที่สำคัญวิธีนี้ยังสามารถป้องกันการติดเกมและสังคมออนไลน์ของลูกได้อีกด้วย เพราะหากว่าคุณพ่อคุณแม่สนใจพูดคุยมองตากับลูกแล้วลูกก็จะสนใจอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากฟังเสียงพูดคุยสนทนากับคุณพ่อคุณแม่จริงไหมคะ

Must read : วิธีการเลี้ยงลูกอย่างชาญฉลาด ของ ‘เจ้าชายวิลเลียม’ ดยุกแห่งเคมบริดจ์ (อังกฤษ)

4. ช่วงเวลาพิเศษ 15 นาที

คือการใช้เวลากับลูกสองต่อสอง 15 นาทีทุกๆวัน และให้ในช่วงเวลาเป็นเวลาพิเศษที่อนุญาตให้ลูกได้ทำอะไรก็ได้ที่ลูกอยากจะทำด้วยกันกับคุณพ่อหรือคุณแม่ เช่น เดินเล่นด้วยกันเล่นเกมด้วยกัน เต้นด้วยกัน อ่านนิทานด้วยกัน หรือต่อจิ๊กซอว์ด้วยกันเป็นต้น

และให้เป็นช่วงเวลาที่เปิดโอกาสให้ลูกได้เป็นคนนำกิจกรรมและคุณพ่อคุณแม่เป็นคนทำตาม วิธีการนี้นอกจากจะช่วยให้ลูกได้ผ่อนคลายอารมณ์จากการที่เขาได้รับคำสั่งมาแล้วทั้งวันแล้วยังช่วยส่งเสริมทักษะการสื่อสารการทำงานร่วมกับผู้อื่นและเห็นอกเห็นใจผู้อื่นได้อีกด้วย

Must read : เหตุผลที่ควรเล่านิทานและเทคนิคการเล่านิทานให้ลูกน้อยเพลิดเพลินและมีความสุข

ความรักของคุณพ่อคุณแม่ที่มีต่อลูกแม้ว่าจะมากอย่างไม่มีเงื่อนไขแต่ใช่ว่าจะล้นออกมาจนลูกสามารถรับรู้ได้เพียงแค่เราปรับเปลี่ยนวิธีการสื่อสารนิดหน่อยกระชับความสัมพันธ์กับลูกวันละน้อยผลลัพธ์ที่ได้ก็จะงอกเงยเป็นความรักความผูกพันในครอบครัวที่มีคุณค่ามหาศาลอย่างหาที่เปรียบไม่ได้…

เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา …เรามาเริ่มกระชับความสัมพันธ์กับลูกตั้งแต่วันนี้เลยกันเถอะค่ะ ^^

อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก!


ขอบคุณบทความจาก : ผศ.ดร. ปนัดดา ธนเศรษฐกร  อาจารย์สาขาพัฒนาการมนุษย์  สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว  มหาวิทยาลัยมหิดล นิตยสาร Amarin Baby & Kids ฉบับที่ 143 มกราคม 2560