เพราะลูกยังไม่สามารถสื่อสารให้พ่อแม่รับรู้สิ่งที่ตนเองต้องการได้อย่างละเอียด สิ่งที่ทำได้ง่ายที่สุดคือการร้องไห้ สาเหตุที่ เด็กร้องไห้ นั้นมีหลายสาเหตุ เช่น หิว กลัว กังวล ง่วงนอน รู้สึกไม่สบายตัว เรียกร้องความสนใจ ร้องเพราะอยากได้สิ่งที่ต้องการ เป็นต้น
สำหรับเด็กในวัย 0-2 ขวบ พ่อแม่จะยังพอเดาสาเหตุที่ เด็กร้องไห้ ได้ไม่ยาก เพราะยังไม่ถึงวัยที่มีความคิดซับซ้อน ดังนั้น เหตุผลส่วนมากที่ร้องเป็นเพราะ หิว ง่วงนอน รู้สึกไม่สบายตัว เท่านั้น สิ่งที่พ่อแม่ควรตอบสนองการร้องไห้ในเด็กวัยนี้คือ ทำตามสิ่งที่ลูกต้องการ เช่น ลูกร้องหิวนม ก็ให้ทานนม แต่เมื่อลูก ๆ เข้าสู่วัย Terrible Two, Three แล้วล่ะก็ สาเหตุที่ลูกร้องไห้จะมีมากกว่านั้น การตอบสนองโดยการทำตามสิ่งที่ลูกต้องการเพียงอย่างเดียว ก็จะเกิดผลเสียได้ เพราะเด็กจะเรียนรู้ได้ว่าเมื่อร้อง คุณพ่อคุณแม่ก็จะยอมทำตาม เริ่มดูยากขึ้นมาแล้วใช่ไหมล่ะคะว่า แล้วเราจะต้องตอบสนองอย่างไรล่ะ และที่ยากคือเราต้องแยกให้ออกว่าที่ลูกร้องไห้นั้น เป็นเพราะร้องกลัวหรือร้องเพราะเอาแต่ใจ?
ตอนนี้ผู้เขียนเองก็กำลังประสบปัญหาวัยทอง 2 ขวบ เช่นกันค่ะ ลูกผู้เขียนรู้จักที่จะร้องไห้ งอแง อาละวาด เมื่อไม่ได้สิ่งที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นลงไปนอนดิ้นกับพื้น เตะต่อยแม่ ขว้างปาสิ่งของ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ผู้เขียนหนักใจมาก จนได้ไปอ่านบทความที่มีประโยชน์มาก ๆ จนต้องนำมาแชร์ ของคุณหมอภา ทพญ.จีรภา ประพาศพงษ์ เจ้าของ เพจหมอภา/Jeerapa prapaspong ซึ่งคุณหมอได้แนะวิธีการแยกว่า เด็กร้องไห้ มีกี่แบบ และควรจะรับมือได้อย่างไรเพื่อไม่ให้เด็กเอาแต่ใจ ดังนี้ค่ะ
หมอชี้! วิธีปราบ เด็กร้องไห้ ลูกร้องแบบไหนเรียกเอาแต่ใจ
เด็กร้องไห้ แยกได้เป็น 2 แบบคือ
แบบที่ 1. เด็กร้องไห้ เพราะรู้สึกแย่
การร้องไห้แบบนี้ มักเกิดจากการที่ลูกโกรธ กลัว หรือลูกกำลังแย่ เช่น ต้องแยกจากพ่อแม่ ที่เด็กร้องไห้ งอแง บางคนอาละวาดออกมา เพราะเด็กกำลังสื่อสารออกมา
แบบที่ 2 เด็กร้องไห้ เพราะเอาแต่ใจ
หมอมักเรียกการร้องไห้แบบนี้ว่า งอแง อาละวาดแบบใช้สมองส่วนเหตุผ
ร้องไห้ หรืออาละวาด เพื่อให้ได้สิ่งที่ตัวเองต้
เด็กที่ทำแบบนี้บ่อยและได้ร
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อ วิธีไหนปราบ เด็กร้องไห้ ได้อยู่หมัด
วิธีการรับมือ เด็กร้องไห้
ร้องไห้แบบที่ 1
เด็กๆ กลุ่มนี้ ต้องการตอบสนอง ด้วยความรัก ความอ่อนโยน ความเข้าใจ !!
- กอดลูก ในขณะที่ร่างกายพ่อแม่สงบมา
กพอ (คือไม่อยู่ในอารมณ์โกรธ ปรี๊ด หรือกังวลเมื่อ ลูกต้องแยกจากเรา) จะทำให้ร่างกายและสมองของลู กกลับเข้าสู่สมดุล หลั่งสารช่วยให้ลูกสงบตามธร รมชาติออกมา - การพูดกับลูกอย่างนุ่มนวล ใช้คำง่ายๆสั้นๆ อย่างหมอ จะพูดกับลูกระหว่างที่กอดแล
ะลูบหลังลูกเสมอ “I know your feeling” พูดอย่างอ่อนโยน กอดด้วยความรัก ความอบอุ่น แสดงสีหน้าท่าทางที่เข้าใจ ลูกจะสงบลง ลูกจะรู้สึกปลอดภัย - ใช้วิธีเบี่ยงเบนความสนใจ (ใช้ได้ผลตอนที่เริ่มแย่แรก
ๆ) ถ้าร้องไห้หรือแย่มากแล้ว มักใช้วิธีนี้ไม่ได้ผล - หลีกเลี่ยงการเดินหนี การเพิกเฉย การแยกให้เด็กไปนั่งคนเดียว การตีเด็ก การขังเด็กไว้ในห้องคนเดียว เพราะจะยิ่งทำให้เด็กมีอารมณ์กลัว หรือ โกรธมากขึ้นกว่าเดิม
- การสอนในตอนที่ลูกแย่ หรือมีพายุอารมณ์โหมกระหน่ำ ไม่มีประโยชน์แต่อย่างใด เพราะในตอนนั้น หูลูกจะปิด ไม่ได้ยินอะไร สมองส่วนบนที่รับฟังเหตุผล ก็ไม่ทำงาน เวลาที่เหมาะสม คือหลังจากลูกสงบลงแล้ว เวลานั้นสมองส่วนบนจะทำงานด
ีขึ้น ลูกถึงจะรับฟังคำสอนและเหตุผล
ร้องไห้แบบที่ 2
เด็กที่ร้องไห้แบบนี้ ควรได้เรียนรู้ว่า เขาจะไม่ได้ในสิ่งที่เค้าต้องการในเวลาที่เค้าอาละวาดโวยวายแบบนี้ การบังคับคนอื่น ด้วยวิธีการนี้ เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง !! การร้องไห้ งอแงหรือ อาละวาดแบบนี้ ต้องการให้คนอื่นสนใจ ให้คนอื่นดู เมื่อพ่อแม่ประเมินเหตุการณ
- การเดินหนีออกมา เด็กจะรู้ว่ามันไม่ได้ผล เพราะไม่มีใครดู ไม่มีใครสนใจ เมื่อต้องแสดงคนเดียว ก็ไม่สนุก เด็กจะหยุด !!
- นิ่งสงบ สยบความเคลื่อนไหว ทำทุกอย่างตามปกติ คุณพ่อคุณแม่กำลังทำอะไรอยู่ในขณะนั้น ก็ให้ทำต่อไปโดยไม่ต้องไปสนใจลูกที่กำลังอาละวาดอยู่
- พูดชัดเจนและหนักแน่น (ไม่มีอารมณ์ปรี๊ด อารมณ์ลบหรือตะโกนเสียงดัง) ให้บอกลูกแบบเดิมด้วยเหตุผลและยืนยั
นทุกครั้ง ลูกจะรู้ว่า ยังไงก็ไม่ได้ ไม่ต้องพยายาม !! - รอจนลูกหยุดร้องแล้วถึงปลอบ การกอด หอม โอ๋ ใช้คำพูดเกลี้ยกล่อม การต่อรองทั้งแม่ต่อรอง หรือลูกเป็นคนต่อรองขณะร้อง
ไห้ อาละวาด จะเหมือนให้รางวัลลูกที่กำลังอาละวาดอยู่ ขอบอกว่าวิธีนี้ไม่ได้ผล หากต้องการปลอบ เกลี้ยกล่อม หรือต่อรอง ควรทำเมื่อลูกหยุดร้องไห้ อาละวาด และยอมรับฟังเหตุผลแล้วเท่านั้น
ความเคารพ ความเกรงใจ ด้วยอารมณ์สงบของคุณพ่อคุณแม่ พูดหนักแน่น ถ้าไม่ ก็คือไม่จริง ๆ ไม่ปล่อยตามอารมณ์ “วันนี้ไม่ พรุ่งนี้ได้ !!” ลูกจะเรียนรู้ว่า “ลูกบังคับพ่อแม่ด้วยวิธีนี
สุดท้ายนี้คุณหมออยากบอกพ่อแม่ทุกคนว่า ไม่มีเด็กคนไหนเสีย เพราะการให้ความรักความเข้า
>>ตอบสนองไม่ถูก มีแต่ผลเสียนะคะ<<
อ่านต่อบทควาที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่นี่
Terrible two วัย 2 ขวบ มารู้จักกับลูกวัยนี้กัน
Terrible Threes วายร้าย 3 ขวบ กับวิธีรับมือ!!
แม่แชร์ วิธีจัดการลูกดื้อ จากคลินิกพัฒนาการเด็กได้ผลชัวร์!
ขอบคุณสาระดีๆ จาก : คุณหมอภา / Jeerapa prapaspong
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่