AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

หมอชี้! วิธีปราบ เด็กร้องไห้ ลูกร้องแบบไหนเรียกเอาแต่ใจ

เพราะลูกยังไม่สามารถสื่อสารให้พ่อแม่รับรู้สิ่งที่ตนเองต้องการได้อย่างละเอียด สิ่งที่ทำได้ง่ายที่สุดคือการร้องไห้ สาเหตุที่ เด็กร้องไห้ นั้นมีหลายสาเหตุ เช่น หิว กลัว กังวล ง่วงนอน รู้สึกไม่สบายตัว เรียกร้องความสนใจ ร้องเพราะอยากได้สิ่งที่ต้องการ เป็นต้น

สำหรับเด็กในวัย 0-2 ขวบ พ่อแม่จะยังพอเดาสาเหตุที่ เด็กร้องไห้ ได้ไม่ยาก เพราะยังไม่ถึงวัยที่มีความคิดซับซ้อน ดังนั้น เหตุผลส่วนมากที่ร้องเป็นเพราะ หิว ง่วงนอน รู้สึกไม่สบายตัว เท่านั้น สิ่งที่พ่อแม่ควรตอบสนองการร้องไห้ในเด็กวัยนี้คือ ทำตามสิ่งที่ลูกต้องการ เช่น ลูกร้องหิวนม ก็ให้ทานนม แต่เมื่อลูก ๆ เข้าสู่วัย Terrible Two, Three แล้วล่ะก็ สาเหตุที่ลูกร้องไห้จะมีมากกว่านั้น การตอบสนองโดยการทำตามสิ่งที่ลูกต้องการเพียงอย่างเดียว ก็จะเกิดผลเสียได้ เพราะเด็กจะเรียนรู้ได้ว่าเมื่อร้อง คุณพ่อคุณแม่ก็จะยอมทำตาม เริ่มดูยากขึ้นมาแล้วใช่ไหมล่ะคะว่า แล้วเราจะต้องตอบสนองอย่างไรล่ะ และที่ยากคือเราต้องแยกให้ออกว่าที่ลูกร้องไห้นั้น เป็นเพราะร้องกลัวหรือร้องเพราะเอาแต่ใจ?

ตอนนี้ผู้เขียนเองก็กำลังประสบปัญหาวัยทอง 2 ขวบ เช่นกันค่ะ ลูกผู้เขียนรู้จักที่จะร้องไห้ งอแง อาละวาด เมื่อไม่ได้สิ่งที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นลงไปนอนดิ้นกับพื้น เตะต่อยแม่ ขว้างปาสิ่งของ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ผู้เขียนหนักใจมาก จนได้ไปอ่านบทความที่มีประโยชน์มาก ๆ จนต้องนำมาแชร์ ของคุณหมอภา ทพญ.จีรภา ประพาศพงษ์ เจ้าของ เพจหมอภา/Jeerapa prapaspong ซึ่งคุณหมอได้แนะวิธีการแยกว่า เด็กร้องไห้ มีกี่แบบ และควรจะรับมือได้อย่างไรเพื่อไม่ให้เด็กเอาแต่ใจ ดังนี้ค่ะ

หมอชี้! วิธีปราบ เด็กร้องไห้ ลูกร้องแบบไหนเรียกเอาแต่ใจ

เด็กร้องไห้ แยกได้เป็น 2 แบบคือ

แบบที่ 1. เด็กร้องไห้ เพราะรู้สึกแย่

การร้องไห้แบบนี้ มักเกิดจากการที่ลูกโกรธ กลัว หรือลูกกำลังแย่ เช่น ต้องแยกจากพ่อแม่ ที่เด็กร้องไห้ งอแง บางคนอาละวาดออกมา เพราะเด็กกำลังสื่อสารออกมาว่า เค้ากำลังแย่ รู้สึกไม่ดี อึดอัดคับข้องใจ เด็กที่ร้องไห้ งอแงแบบนี้ มักยังไม่โต เป็นช่วงวัย ที่สมองส่วนเหตุผลยังพัฒนาไม่เต็มที่ โดนสมองส่วนอารมณ์ครอบงำ จากพายุอารมณ์ ถ้าลูกร้องไห้ งอแง แบบนี้ และเราใช้วิธีตอบสนองไม่เหมาะสม เช่น ดุ ว่า ตี เพิกเฉย เดินหนี หรือรีบสอนลูกทันที เพราะกลัวว่าถ้าปล่อยไว้ ลูกจะติดนิสัยแย่ๆไปจนโต มักไม่ได้ผล !! และในบางครั้งสถานการณ์ยิ่งเลวร้ายมากขึ้น เหตุผลคือ วิธีนี้ ยิ่งไปกระตุ้นสมองที่ทำให้กลัว ให้โกรธ ให้อารมณ์แย่มากขึ้น

แบบที่ 2 เด็กร้องไห้ เพราะเอาแต่ใจ

หมอมักเรียกการร้องไห้แบบนี้ว่า งอแง อาละวาดแบบใช้สมองส่วนเหตุผล !! การร้องและทำพฤติกรรมที่คิดไว้แล้ว
ร้องไห้ หรืออาละวาด เพื่อให้ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ เช่น ต้องการความสนใจ ของเล่น อาหาร บางสิ่งบางอย่าง เด็กที่ร้องไห้แบบนี้ แตกต่างจากแบบแรก เพราะเด็กไม่ได้รู้สึกแย่ อึดอัด คับข้องใจ เศร้า หรือกลัว สารเคมีของความเครียด ไม่ได้หลั่งออกมาในสมอง ร้องไห้แบบที่ 1 ลูกจะถูกพายุอารมณ์โหมกระหน่ำ จนสมองส่วนเหตุผลไม่ทำงาน ลูกจึงต้องการความสงบ ความรัก ความเข้าใจ ส่วนการร้องไห้แบบที่ 2 นี้ การแสดงความรักและทำตามที่ลูกต้องการจึงไม่เวิค!!

เด็กที่ทำแบบนี้บ่อยและได้รับการตอบสนอง จะเรียนรู้ว่า ถ้าร้องไห้ อาละวาด ลงไปนอนดิ้น โวยวายแบบนี้ เค้าจะได้ในสิ่งที่เค้าต้องการ และเด็กที่ไม่ได้รับการจัดการกับการร้องไห้ อาละวาดแบบนี้ และพ่อแม่ตอบสนองการร้องไห้แบบนี้ซ้ำ ๆ ยอมทำตาม สิ่งที่ลูกต้องการพฤติกรรมเหล่านี้ จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของบุคลิกภาพเด็ก เด็กจะไม่ชนะพ่อแม่ แค่ตอน 2 ขวบ แต่จะใช้วิธีการนี้ เอาชนะพ่อแม่ไปเรื่อยๆ ระหว่างที่โตขึ้น จนกลายเป็นผู้ใหญ่ขี้โมโห อารมณ์ร้อน ชอบใช้อำนาจ บังคับ และเอาเปรียบคนอื่นๆ มีปัญหาทักษะทางสังคมได้

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

อ่านต่อ วิธีไหนปราบ เด็กร้องไห้ ได้อยู่หมัด

วิธีการรับมือ เด็กร้องไห้

ร้องไห้แบบที่ 1

เด็กๆ กลุ่มนี้ ต้องการตอบสนอง ด้วยความรัก ความอ่อนโยน ความเข้าใจ !!

  1. กอดลูก ในขณะที่ร่างกายพ่อแม่สงบมากพอ (คือไม่อยู่ในอารมณ์โกรธ ปรี๊ด หรือกังวลเมื่อลูกต้องแยกจากเรา) จะทำให้ร่างกายและสมองของลูกกลับเข้าสู่สมดุล หลั่งสารช่วยให้ลูกสงบตามธรรมชาติออกมา
  2. การพูดกับลูกอย่างนุ่มนวล ใช้คำง่ายๆสั้นๆ อย่างหมอ จะพูดกับลูกระหว่างที่กอดและลูบหลังลูกเสมอ “I know your feeling” พูดอย่างอ่อนโยน กอดด้วยความรัก ความอบอุ่น แสดงสีหน้าท่าทางที่เข้าใจ ลูกจะสงบลง ลูกจะรู้สึกปลอดภัย
  3. ใช้วิธีเบี่ยงเบนความสนใจ (ใช้ได้ผลตอนที่เริ่มแย่แรกๆ) ถ้าร้องไห้หรือแย่มากแล้ว มักใช้วิธีนี้ไม่ได้ผล
  4. หลีกเลี่ยงการเดินหนี การเพิกเฉย การแยกให้เด็กไปนั่งคนเดียว การตีเด็ก การขังเด็กไว้ในห้องคนเดียว เพราะจะยิ่งทำให้เด็กมีอารมณ์กลัว หรือ โกรธมากขึ้นกว่าเดิม
  5. การสอนในตอนที่ลูกแย่ หรือมีพายุอารมณ์โหมกระหน่ำ ไม่มีประโยชน์แต่อย่างใด เพราะในตอนนั้น หูลูกจะปิด ไม่ได้ยินอะไร สมองส่วนบนที่รับฟังเหตุผล ก็ไม่ทำงาน เวลาที่เหมาะสม คือหลังจากลูกสงบลงแล้ว เวลานั้นสมองส่วนบนจะทำงานดีขึ้น ลูกถึงจะรับฟังคำสอนและเหตุผล

ร้องไห้แบบที่ 2

เด็กที่ร้องไห้แบบนี้ ควรได้เรียนรู้ว่า เขาจะไม่ได้ในสิ่งที่เค้าต้องการในเวลาที่เค้าอาละวาดโวยวายแบบนี้ การบังคับคนอื่น ด้วยวิธีการนี้ เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง !! การร้องไห้ งอแงหรือ อาละวาดแบบนี้ ต้องการให้คนอื่นสนใจ ให้คนอื่นดู เมื่อพ่อแม่ประเมินเหตุการณ์และมั่นใจว่า ลูกไม่ได้รู้สึกแย่ คับข้องใจหรือกลัว แต่อย่างใด วิธีการตอบสนองต่อการร้องไห้แบบนี้คือ

  1. การเดินหนีออกมา เด็กจะรู้ว่ามันไม่ได้ผล เพราะไม่มีใครดู ไม่มีใครสนใจ เมื่อต้องแสดงคนเดียว ก็ไม่สนุก เด็กจะหยุด !!
  2. นิ่งสงบ สยบความเคลื่อนไหว ทำทุกอย่างตามปกติ คุณพ่อคุณแม่กำลังทำอะไรอยู่ในขณะนั้น ก็ให้ทำต่อไปโดยไม่ต้องไปสนใจลูกที่กำลังอาละวาดอยู่
  3. พูดชัดเจนและหนักแน่น (ไม่มีอารมณ์ปรี๊ด อารมณ์ลบหรือตะโกนเสียงดัง) ให้บอกลูกแบบเดิมด้วยเหตุผลและยืนยันทุกครั้ง ลูกจะรู้ว่า ยังไงก็ไม่ได้ ไม่ต้องพยายาม !!
  4. รอจนลูกหยุดร้องแล้วถึงปลอบ การกอด หอม โอ๋ ใช้คำพูดเกลี้ยกล่อม การต่อรองทั้งแม่ต่อรอง หรือลูกเป็นคนต่อรองขณะร้องไห้ อาละวาด จะเหมือนให้รางวัลลูกที่กำลังอาละวาดอยู่ ขอบอกว่าวิธีนี้ไม่ได้ผล หากต้องการปลอบ เกลี้ยกล่อม หรือต่อรอง ควรทำเมื่อลูกหยุดร้องไห้ อาละวาด และยอมรับฟังเหตุผลแล้วเท่านั้น

ความเคารพ ความเกรงใจ ด้วยอารมณ์สงบของคุณพ่อคุณแม่ พูดหนักแน่น ถ้าไม่ ก็คือไม่จริง ๆ ไม่ปล่อยตามอารมณ์ “วันนี้ไม่ พรุ่งนี้ได้ !!” ลูกจะเรียนรู้ว่า “ลูกบังคับพ่อแม่ด้วยวิธีนี้ ไม่ได้ !!” ลูกจะรักและเคารพคุณพ่อคุณแม่ และไมแสดงพฤติกรรมท้าทายยั่วยุอารมณ์เรา โกรธ อยากเอาคืน (เพราะพ่อแม่ไม่เคยยั่วยุ หรือทำให้โกรธ ทำให้แย่ มีแต่ความรัก ความเข้าใจที่มอบให้มาตลอด) ลูกจะเรียนรู้อาการสงบ การพูดจากันดีๆจากพ่อแม่ และค่อย ๆ เรียนรู้ การจัดการอารมณ์และความต้องการของตนเอง จนสามารถควบคุมอารมณ์ตนเองได้

สุดท้ายนี้คุณหมออยากบอกพ่อแม่ทุกคนว่า ไม่มีเด็กคนไหนเสีย เพราะการให้ความรักความเข้าใจ เด็กจะเสีย เพราะไม่ได้รับการสอน รักลูก เข้าใจลูกได้ แต่ไม่ตามใจในพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง แยกให้ออกว่า เด็กร้องไห้ งอแง อาละวาดแบบไหน จะได้ตอบสนองได้ถูก !!

>>ตอบสนองไม่ถูก มีแต่ผลเสียนะคะ<<

 

อ่านต่อบทควาที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่นี่

Terrible two วัย 2 ขวบ มารู้จักกับลูกวัยนี้กัน

Terrible Threes วายร้าย 3 ขวบ กับวิธีรับมือ!!

แม่แชร์ วิธีจัดการลูกดื้อ จากคลินิกพัฒนาการเด็กได้ผลชัวร์!

 

ขอบคุณสาระดีๆ จาก : คุณหมอภา / Jeerapa prapaspong

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids