คาถาบูชาเทวดาประจำตัว …โดยปกติแล้วมนุษย์ส่วนใหญ่ที่เกิดมาจะมี เทวดาประจำตัว คอยคุ้มครอง ซึ่งท่านก็คือ ดวงวิญญาณของผู้ที่เคยเกี่ยวข้องกับลูกของเรา หรือตัวคุณพ่อคุณแม่เอง ซึ่งเทวดาประจำตัว นั้นท่านได้ช่วยเหลือ เกื้อกูลกันมาในอดีตชาติ แต่ในชาตินี้ เมื่อ เรามาเกิดเป็นคน ท่านเป็นเทวดา ท่านก็เลยเมตตามาดูแลคุ้มครองลูกน้อยหรือตัวคุณพ่อคุณแม่เองด้วย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเทวดาประจำตัว นั้นจะอยู่คุ้มครองอย่างถาวร ตลอดชีวิต ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบุญบารมีที่ลูกน้อย และตัวคุณพ่อคุณแม่เองทำในปัจจุบันด้วย (ต้องหมั่นอุทิศส่วนบุญกุศลให้ท่านด้วย)
คาถาบูชาเทวดาประจำตัว ลูกน้อย เพื่อเป็นสิริมงคล แคล้วคลาดปลอดภัย
การบูชาเทวดาก็เหมือนกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ ที่ต้องทำการ “ปฏิบัติบูชา” ด้วยการสร้างคุณงามความดีให้มากๆ ภายหลังการทำบุญใดๆ แล้วก็ต้องทำการเชื่อมบุญไปให้ท่านโดยเมื่อขณะที่กรวดน้ำให้ตั้งจิตอธิษฐานอุทิศบุญให้ท่านด้วยประโยคอุทิศบุญที่ว่า
“อิทัง สัพพะเทวานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เทวา” …ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เทวดาทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เทวดาทั้งหลายทั้งปวงจงมีความสุข
เมื่อทำการเชื่อมบุญให้เทวดาได้รับบุญนั้นไปแล้ว เทวดาก็จะมีความรู้จักกับผู้ที่ทำบุญอุทิศไปให้ เวลาที่ลูกน้อยของเราเกิดเรื่องราวเดือดร้อนในทางใดก็ตามท่านก็จะมาช่วยได้อย่างแน่นอน และถ้าอยากจะพิสูจน์ว่าจะพบกับประสบการณ์ของการอวยพรให้คุณของเทวดาเหล่านั้น พ่อแม่ต้องทำเหตุให้ถูกตรงกับผลด้วย
ซึ่งหมายถึง การพัฒนาจิตให้มีคุณธรรมเช่นเดียวกับเทวดา เช่น สอนให้ลูกมีศีลธรรม มีความประพฤติละอายชั่วกลัวบาป (หิริโอตตัปปะ) มีกายวาจาใจเป็นอุโบสถศีลอยู่เป็นปกติทุกขณะ มีสภาวะของจิตที่ดีใสสะอาด ผู้ที่ได้ประพฤติได้ถูกตรงตามนี้แล้ว การพบเห็นเทวดาประจำตัวหรือเทวดาในที่อื่นใด ย่อมเกิดขึ้นได้และเทวดาท่านก็จะอำนวยพรให้ประสบความสุขความสำเร็จได้เช่นกัน
รวมไปถึงการหมั่นบูชาเทวดาประจำวันเกิด เพราะในแต่ละคนก็จะมีเทวดาคอยคุ้มครองอยู่ ซึ่งเทวดาเหล่านี้จะคอยช่วยปกปักรักษาและดูแลดวงชะตาของลูกน้อยหรือตัวคุณพ่อคุณแม่เองให้อยู่อย่างเป็นปกติสุข โดย เทวดาประจำวันเกิดจะมีชื่อเรียกต่างกัน ตามวันเกิดของคน ได้แก่
เทวดาประจำวันเกิดสำหรับคนเกิดวันอาทิตย์ มีนามว่า ระวิเทพ (พระอาทิตย์)
เทวดาประจำวันเกิดสำหรับคนเกิดวันจันทร์ มีนามว่า จันทะเทพ (พระจันทร์)
เทวดาประจำวันเกิดสำหรับคนเกิดวันอังคาร มีนามว่า ภุมมเทพ (พระอังคาร)
เทวดาประจำวันเกิดสำหรับคนเกิดวันพุธ (กลางวัน) มีนามว่า วุธะเทพ (พระพุธ)
เทวดาประจำวันเกิดสำหรับคนเกิดวันพุธ (กลางคืน) มีนามว่า อะสุรินทะราหูเทพ (พระราหู)
เทวดาประจำวันเกิดสำหรับคนเกิดวันพฤหัส มีนามว่า คะรุเทพ (พระ พฤหัส ,พระครุ)
เทวดาประจำวันเกิดสำหรับคนเกิดวันศุกร์ มีนามว่า สุกกะเทพ (พระศุกร์)
เทวดาประจำวันเกิดสำหรับคนเกิดวันเสาร์ มีนามว่า สุระเทพ (พระเสาร์)
ทั้งนี้หากใครยังไม่เคยกราบไหว้เทวดาประจำวันเกิด ก็ขอให้น้อมจิตตั้งมั่น ระลึกถึง พระคุณของเทวดาผู้เป็นผู้คุ้มครองชีวิต ขอให้เชื่อในสิ่งที่ทำว่าเป็นการกระทำที่ดีแล้ว เอาจิตใจที่เป็นกุศลบริสุทธิ์เป็นที่ตั้ง และกล่าวสวดมนต์บูชาเทวดา โดยว่าดังนี้….
อ่านต่อ >> “บทสวดมนต์บูชาเทวดาให้ลูกน้อย” คลิกหน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
บทสวดมนต์บูชาเทวดาประจำวันเกิด
“โย สัพพะภะยันตะรายา มัง อะนุรักขันตุ ตัง คุณะวันตัง ชะตาเทวัง อาทะเรนะ วันทามิ”
แล้วจึงก้มลงกราบ โดยภายในใจตั้งจิตมั่นอธิษฐานเพื่อเพิ่มความเป็นสิริมงคลแก่ตัวของเราเองว่า
“ด้วยอานุภาพแห่งบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้กระทำมาในวันนี้ ข้าพเจ้าขออุทิศบุญนี้แด่เทวดาประจำวันเกิดของข้าพเจ้า (พร้อมเอ่ยชื่อ เทวดาประจำวันเกิดของเรา) ขอให้องค์เทวดาจงมีความสุขอยู่ในวิมานของท่านตามแต่บุญญาธิการของท่าน ขอให้เทวดาช่วยปกปักรักษาดลบันดาลให้ ดวงชะตาของข้าพเจ้ามีความเจริญรุ่งเรือง ในทุกที่ทุกสถานทุกกาลทุกเมื่อด้วยเถิด”
ด้วยเทวดานั้นมีร่างเป็นกายทิพย์ ท่านจึงไม่อาจทำบุญทำกุศลได้เพราะไม่มีกายเนื้อ การที่ท่านมีกายทิพย์และมีสุขอยู่ในเทวโลก เพราะเมื่อครั้นเป็นมนุษย์ได้บำเพ็ญคุณงามความดีมามากพอ จึงได้ไปเกิดเป็นเทวดา ในทางกลับกัน เทวดานั้น ถือว่า มนุษย์ มีสถานะที่สูงกว่าเทวดาตรงที่ “มนุษย์ สามารถทำความดี ทำบุญ เพิ่มได้” ขณะที่เทวดาทำบุญเพิ่มไม่ได้ การที่เราสวดมนต์ระลึกถึงบุญคุณของเทวดา และ อุทิศบุญไปให้ท่านจึงถือได้ว่า เป็นการช่วยเหลือเทวดาอย่างสูง เมื่อเราอุทิศบุญให้ท่าน ดำรงตนอยู่ในศีลธรรม เหล่าเทวดาก็จะคอยช่วยเหลือสนับสนุนค้ำจุนให้ชีวิต เจริญก้าวหน้า พบกับความเป็นสิริมงคลอื่นๆ อีกมากมาย
การอุทิศบุญ
การอุทิศบุญก็คือ การเชื่อมบุญที่ได้ทำไปแล้วไปถึงผู้ที่เราต้องการจะส่งบุญให้ ซึ่งไม่ใช่พิธีการทางไสยศาสตร์หรือเรื่องราวที่สลับซับซ้อนใด ๆ เปรียบเสมือนเราจุดไฟต่อเทียนขึ้นมาเล่มหนึ่งแล้วเราก็ส่งไฟต่อเทียนไปให้อีกเล่มหนึ่งฉันใดฉันนั้น ซึ่งวิธีการอุทิศบุญก็คือการตั้งจิตให้สงบแล้วภาวนาอธิษฐานส่งผลบุญที่ได้ทำนี้ไปให้เขา
การกรวดน้ำอุทิศบุญ
เมื่อเราได้ทำบุญส่งไปให้เขาแล้ว ควรจะกรวดน้ำแผ่เมตตาด้วย เพราะจะทำให้การอโหสิกรรมนั้นเร็วขึ้น ครูบาอาจารย์ท่านแนะนำว่า หลังจากสร้างบุญ ควรมีการกรวดน้ำทำบุญแผ่เมตตาไปให้ทุกครั้ง และควรทำในวันนั้นเลย ซึ่งส่วนมากคนที่ไปทำบุญตามวัดหรือสถานที่ที่เราได้สร้างบุญไว้แล้วต่างๆ มักจะมีที่กรวดน้ำอยู่แล้วก็ควรกรวดน้ำส่งบุญให้ทันที แต่หากท่านที่ลืมหรือติดขัดอะไรก็ขอให้กลับมาทำที่บ้านก็ได้
เรื่องนี้เป็นเรื่องความเชื่อส่วนบุคคล จะทำไม่ทำขอให้ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของท่านเพราะหากท่านทำด้วยความไม่สบายใจย่อมก่อทุกข์แก่ท่านเอง แต่ทางเราเห็นว่าหากว่าการกระทำนี้มิได้เบียดเบียนใครไม่ว่าจะเป็นตัวเองหรือผู้อื่น ก็ย่อมปฏิบัติได้ไม่มีปัญหาอะไร คิดเสียว่าเป็นการส่งสิ่งดีๆ ให้กัน
วิธีการกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้กับเทวดาประจำตัว
ซึ่งหลายๆคนอาจลืมระลึกถึงท่านไป ส่วนใหญ่จะนึกถึงญาติผู้ล่วงลับ และเจ้ากรรมนายเวรเสียมากกว่า เช่นนั้นแล้วการทำบุญครั้งหน้าอย่าลืมกรวดน้ำแก่เทวดาประจำตัวของท่านด้วยค่ะ
อ่านต่อ >> “บทกรวดน้ำและขอขมาให้กับเทวดาประจำตัวลูกน้อย” คลิกหน้า 3
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
บทกรวดน้ำให้แก่ เทวดาประจำตัว
(ภายหลังทำบุญ เช่น ตักบาตร ถวายสังฆทาน เป็นต้น) เปิดทาง และช่วยแก้ไขปัญหาชีวิตที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน โดยให้เตรียมน้ำสะอาดไว้ 1 ขวด และนำจรดระหว่างคิ้ว กล่าวคำอธิษฐานจิต ดังต่อไปนี้
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 จบ) แล้วกล่าวต่อว่า
“นะ โม พุท ธา ยะ ลูกขอเชิญพระพุทธเจ้าทั้ง 5 พระองค์โปรดเสด็จมาเป็นประธาน อิทัง สัพพะเทวานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เทวา “
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เทวดาทั้งหลายทั้งปวงที่รักษาตัวข้าพเจ้า ขอให้เทวดาทั้งหลายทั้งปวงจงมีความสุข (ให้เริ่มเทน้ำลงบนพื้นดิน) ลูกขอฝากน้ำอุทิศนี้ไปกับ พระแม่ธรณี พระแม่คงคา โปรดมาเป็นทิพย์พยาน ขออานิสงค์ผลบุญกุศลอันใดที่ข้าพเจ้า ชื่อ………… นามสกุล…………… ได้กระทำในวันนี้ ทั้งหมด ทั้งปวง
ข้าพเจ้าขออุทิศให้กับเทวดาทั้งหลายทั้งปวงของข้าพเจ้า อยู่ ณ ปัจจุบันนี้ ที่ทำให้ข้าพเจ้าพ้นจากความทุกข์……………… (เรื่องที่ประสบปัญหา) ไม่ว่าท่านจะมาจาก ชาติใด ภพใด ก็ตาม ทั้งระลึกได้ก็ดีและระลึกไม่ได้ก็ดี ไม่ว่าท่านจะอยู่ในภพภูมิใด ขอให้ท่านจงมารับกุศล ที่ข้าพเจ้าอุทิศให้ในครั้งนี้ โดยมาให้ถึงจุดหมาย อย่าแวะ อย่าเวียนที่ใด ให้กุศลถึงทั่ว ทุกท่าน ทุกตัว ทุกตน ทุกภพ ทุกภูมิขออานิสงค์ผลบุญดังกล่าวนี้โปรดกลายเป็นโภคทรัพย์ ตามที่ท่านปรารถนาทุกประการตั้งแต่บัดนี้ เวลานี้เป็นต้นไปด้วยเทอญ
วิธีขอขมาเทวดารักษาตัว
เพื่อเสริมให้เจริญรุ่งเรือง และแคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทั้งหลาย
ตั้งนะโม 3 จบ
“ อิติสุขะคะโต อะระหังพุทโธ นะโมพุทธายะ ปะฐะวีคงคา พรหมะเทวา อินทะเทวา อังคะเทวา อาคันตุกะเทวะตา รุกขะเทวาพาลี ชัยยะมังคะลา อาจาริยัง อาจาริยะเทวา มุณีสิทธิ มาตาปิตุโร อะโรคะเยนะ สุขเขนะจะ ขะมามิหัง สาธุ สาธุ สาธุ “
ด้วยอานุภาพของพระพุทธเจ้า ด้วยอานุภาพของพระธรรม ด้วยอานุภาพของพระสงฆ์ ด้วยอานุภาพของพระรัตนตรัยทั้ง 3 ประการนี้ ขอจงดลบันดาลให้บุญที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมาแล้วตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาตินี้
ข้าพเจ้าขออุทิศบุญนี้ให้แก่เทวดาที่รักษาตัวของข้าพเจ้า ให้แก่เทวดาที่รักษาบ้านเรือนที่อยู่อาศัยของข้าพเจ้า ให้แก่เทวดาที่รักษากิจการค้าขายของข้าพเจ้า ถ้าท่านตกทุกข์ขอให้พ้นจากทุกข์ ถ้าท่านมีสุขขอให้มีความสุขยิ่งๆขึ้นไป จงมีแต่ความสุข ความเจริญ มีอาหารอันดี มีอาภรณ์อันเลิศ ขอให้ท่านจงมีภพมีภูมิที่สูงขึ้น และเจริญยิ่งๆ ขึ้นไป เมื่อได้รับผลบุญขอข้าพเจ้าแล้ว ขอจงให้ซึ่งอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้า และขอจงอนุโมทนาบุญกับข้าพเจ้า เมื่อท่านอนุโมทนาบุญกับข้าพเจ้าแล้ว ขอจงดลบันดาลให้ข้าพเจ้าจงมีแต่ความสุข
ความเจริญ รุ่งเรืองและแคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทั้งหลาย จงมีความสำเร็จในหน้าที่การงาน การเงิน การติดต่อ การค้าขาย ขอให้ชนะศัตรูหมู่มารทั้งหลาย ขอให้เป็นที่รักของมนุษย์ทั้งหลาย และขอให้ข้าพเจ้าจงมีแต่โชคลาภอยู่เสมอ และสำเร็จดังที่ปรารถนาโดยเร็วพลันเทอญ
ทั้งนี้สำหรับ คาถาบูชาเทวดาประจำตัว รวมไปถึงการอุทิศบุญ และขอขมา นั้น ล้วนแล้วแต่เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งความเชื่อเรื่องเทวดานั้นในสังคมไทยของเรา มีความเชื่ออย่างฝังแน่นมาตั้งแต่ครั้งโบราณกาลว่าท่านมีตัวตนจริงแน่นอน และการเกี่ยวข้องของมนุษย์กับเทวดา ในพระพุทธศาสนาได้ชี้แนวทางแห่งความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับเทวดา ด้วยการวางท่าทีแห่งเมตตา มีไมตรีจิต อยู่ร่วมกันฉันมิตร เคารพนับถือซึ่งกันและกัน ในฐานะที่เป็นเพื่อนร่วมเกิด แก่ เจ็บ ตาย และเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏฏ์ โดยการที่เทวดาจะมาเกี่ยวข้องกับคนนั้น ครูบาอาจารย์กล่าวไว้ว่า มี 3 ทางคือ
1. ด้วยกรรมผูกพันด้วยอาจจะเคยเป็นบรรพบุรุษ พ่อแม่ ปู่ย่าตายาย ญาติพี่น้อง เพื่อน คนรู้จักที่ยังมีความห่วงใยและมีคนส่งบุญไปให้เสมอเป็นสายใยที่ผูกพันกันไว้ ท่านมาคอยดูและช่วยเหลือและดลใจในการให้ทำความดี
2. ทางที่สองคือ เทวดาท่านมาร่วมอนุโมทนาบุญ เพื่อจะได้เพิ่มบุญบารมีให้กับตัวท่านเอง เพราะท่านเป็นกายทิพย์ไม่สามารถสร้างบุญได้เอง
3. ทางที่สาม ท่านมาปกป้องสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือผู้มีบุญชั้นสูง ผู้ปฏิบัติธรรม
ซึ่งทั้ง 3 ทางนี้ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีไม่มีการเสียหายถ้าเต็มไปด้วยปัญญา เพราะคติความเชื่อเรื่องเทวดาได้ก่อให้เกิดการสร้างกรรมดีที่ถูกต้องอีกทางหนึ่ง มนุษย์จะหมั่นทำกรรมดีเพื่อให้อานิสงส์บุญนั้นส่งให้ได้เกิดไปเป็นเทวดากันนั่นเอง
อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก!
- ความเชื่อโบราณ! การไหว้ผีบ้านผีเรือน-แม่ซื้อ และรับขวัญเมื่อพาลูกทารกเข้าบ้าน
- สวดมนต์ ก่อนนอน ช่วย ฝึกสมาธิเด็ก
- สอนลูกฉลาดทำบุญ 16 วิธี ทำบุญโดยไม่ต้องไปวัด!
- 3 คาถาบูชาพ่อแม่! ให้ลูกสวดได้ทุกวัน เพื่อชีวิตที่ราบรื่น…
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : ธรรมะเพื่อความสำเร็จ , www.tnews.co.th , horoscope.sanook.com